วันนี้ได้มีโอกาสสัมภาษณ์เปิดใจพระเอกป้ายแดงแบบจริงจังครั้งแรกเริ่มจาก ขึ้นบัลลังก์เป็นพระเอกเต็มตัวเรื่องแรก รู้สึกยังไงบ้าง?

“บอกตามตรงว่าไม่ชิน กับคำเรียกว่าพระเอกเลยครับ และเอาจริงพอเป็นบทนำผมก็แอบกดดัน แต่สิ่งที่ต้องทำก็คือต้องท่องไว้ว่า เราคือนักแสดง ต้องทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ออกจากกรอบเดิม เติมสิ่งใหม่ทุกวัน เรื่องแรกผมยังไม่ได้มีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง ทุกอย่างต้องเรียนรู้หมดเลย แม้แต่การร้องไห้ได้ไม่ได้แปลว่าเราเล่นเก่ง ต้องมีหลายอย่างเป็นองค์ประกอบและผมพร้อมน้อมรับทุกคำวิจารณ์ แต่ก็ทำเต็มที่ที่สุดแล้ว สิ่งไหนที่ยังต้องพัฒนาผมก็ต้องเรียนรู้ และตรงไหนที่เป็นจุดอ่อนก็แก้ไขครับ”

โดนพี่โดนัทเคี่ยวหนักเลยสินะ?

“เคี่ยวเข้มเลยครับ โดนดุเยอะสุดในกองแล้ว (หัวเราะ) แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีนะครับ ที่ได้ทำงานกับผู้กำกับที่เก่ง ช่วงพาร์ตดราม่าที่เครียด พี่โดบอกให้เป็นตัวละครตัวหนึ่ง ไม่ต้องฟิกซ์มาก มีความเป็นตัวเราบ้าง และพี่โดช่วยทำให้เราเข้าถึงตัวละครตั้มได้ในทุกอารมณ์มาก ปัญหาหนักของผม คือ เป็นคนพูดเร็ว แบบแร็ปเปอร์เลย (หัวเราะ) พี่โดก็บอกอย่าเครียด แต่เป็นผมเองที่เครียดไปกับมัน”

เลิฟซีนกับแยม-มทิรา ล่ะเป็นไงบ้าง?

“ฉากจูบกันก็มีแอบตื่นเต้น ผมไม่เคยเล่นเลิฟซีนนี่เป็นละครเรื่องแรกของผมด้วย ซีนเปิดตัวก็เป็นฉากจูบเพราะช่วยชีวิต ผายปอด อาจจะแค่ประกบปาก แต่ก็เป็นซีนที่เขินหนักอยู่เหมือนกัน ตื่นเต้น (หัวเราะ) นั่งกุมขมับตั้งแต่ซ้อมเลย น่าจะไม่ต่ำกว่าสามเทก เกรงใจ พี่แยมมากครับ”

ในละครเป็นแนวรักต่างวัย แล้วชีวิตจริงริวจะโอเคมั้ย?

“ในชีวิตจริงผมไม่เคยคิดเรื่องนั้นเลย ผมไม่ได้ชอบคนเพราะอายุ แต่ชอบที่ความคิด ก็คิดว่าไม่น่าจะติดอะไร ปัญหารักต่างวัยบางคู่เป็นเรื่องของการเติมเต็มมากกว่า ซึ่งละครเรื่องนี้ก็สะท้อนความรักหลายมุมมอง เพราะแต่ละคู่มีความรักในหลายรูปแบบ”

มีฉากต้องถอดเสื้อด้วย เขินมั้ย?

“เป็นซีนที่เจอพี่แยมแรกๆอีกเหมือนกัน เขินมากรู้สึกแปลกๆ แล้วต้องถอดทั้งเสื้อถอดทั้งกางเกง ใส่แต่ขาสั้นแบบบ็อกเซอร์ แล้วก็ต้องพับจนสั้นสุดๆอีกตะหาก ผมแอบเครียดเลยนะ (หัวเราะ) สารภาพตาม ตรงไม่มั่นใจเลย ก็โทร.ไปบอกหม่าม้าให้ช่วยคุยกับที่กองให้ผมหน่อย ผมไม่อยากถอดเสื้อ จนพี่โดนัท ผู้ช่วยในกอง ก็มาถามว่าเป็นอะไร แล้วเค้าก็อธิบายว่าไม่ต้องกลัว เป็นฉากขำๆ น่ารักๆ สุดท้ายผมก็ถอดนะ แต่ก็เขินแหละหลังจากนั้นก็มีถอดอีก แต่เริ่มชินแล้ว (หัวเราะ) คือปกติผมก็ดูแลตัวเองอยู่แล้ว และยิ่งวันไหนรู้ว่าต้องมีฉากถอดเสื้อผ้า ก็จะยิ่งดูแลตัวเอง ไปหน้ากองก็ซิทอัพก่อน 30 นาที ยกเวทบ้าง ช่วยได้เลยครับ”

ปกติดูแลตัวเองยังไง?

“ก่อนถ่ายละครเรื่องนี้ผมลดน้ำหนักตัวเองไปได้ 10 กิโล เพราะออกกล้องแล้วจะบวม ตอนนี้ก็ถือว่าโอเค เรื่องหุ่น เรื่องซิกซ์แพ็ก กล้ามเนื้อต่างๆก็เป็นทรงที่มีมาตั้งแต่เป็นนักกีฬาปิงปองอยู่แล้ว แต่เราก็ออกกำลังกาย คุมอาหารอยู่แล้วครับ ผมก็ให้ความสำคัญกับสุขภาพด้วย ทำงานตรงนี้ก็ต้องดูแลตัวเองมากกว่าปกติ เพราะหน้าตา รูปร่าง สุขภาพ สำคัญมากครับ ร่วมงานกับพี่แยมตอนแรกเกร็งๆ เจอพี่แยมครั้งแรก แอบกลัว เค้านิ่งๆ ผมไม่กล้าคุย ก็พยายามหาจังหวะเข้าไปคุย เหมือนเค้าอยู่กับตัวเอง มีพื้นที่ส่วนตัว แต่มีคิวนึงที่พวกเรา ทีมงานไปทานข้าวกัน เราก็เริ่มคุยกันมากขึ้น ผ่อนคลายขึ้น ไม่เกร็งแล้ว ก็บอกกันว่าต้องสู้ไปด้วยกัน เพราะถ่ายด้วยกันตลอด”

เม้าท์พี่แยมให้ฟังหน่อย?

“ผมบอกไม่ถูก แต่รู้สึกว่าเค้าเหมาะกับตัวละคร “ซิสอร” มาก อืมม์ ผมไม่ได้ว่าเค้าเป็นป้านะ (หัวเราะ) หมายถึงว่าเค้าเล่นน่ารัก พี่โดนัทก็ยังบอกว่าเค้ามีความแก่ที่เล่นเป็นซิสอรได้ แต่ตัวจริงพี่เค้าน่ารัก เป็นซัพพอร์ตที่ดีครับ”

สถานะความรักเป็นอย่างไรบ้าง?

“ก็มีคนคุยๆอยู่ครับ แต่ไว้พร้อมแล้วจะบอกครับ (หัวเราะ) ช่วงนี้ขอทำงานก่อนครับ หม่าม้าบอกยังเด็กอยู่ (หัวเราะ) ให้ตั้งใจทำงานก่อน แล้วผมก็โฟกัสเรื่องงานมากช่วงนี้”

สาวแบบไหนที่สามารถเอาชนะใจเราได้?

“ผมอาจจะไม่ได้เจาะจง พูดรวมๆก็คือ จริงๆ ทุกคนมีเสน่ห์ของตัวเองอยู่แล้ว ไม่ต้องทำอะไรให้ริวชอบเลย ถ้าริวชอบ แค่เป็นเค้าก็คือชอบครับ ยิ่งถ้าคุยแล้วคลิก ก็เป็นคนนั้นแหละครับ”

มุมมองความรักของริว ล่ะเป็นอย่างไร?

“เป็นซัพพอร์ต เป็นกำลังใจที่ดีครับ ไม่ว่าจะ ครอบครัว เพื่อน แฟนคลับ ทำให้เรามีพลังครับ”.