โอ๊ค กีรติ เสียใจ พลิกบทโหดแต่คนไม่อิน ถูกวิจารณ์ติดภาพเพศที่3 วอนเปิดใจดูให้จบ

โอ๊ค กีรติ เสียใจ หลังพลิกบทบาทโหด ในซีรีส์ Bangkok Breaking แต่คนดูไม่อิน ถูกวิจารณ์ยังติดภาพเพศที่ 3 เจ้าตัววอนเปิดใจดูให้จบ ชี้ ตัวเองก็เบื่อบทเดิมๆ แต่ที่ผ่านมาตัวเลือกมันน้อย

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

บทบาทเพศที่3 กลายเป็นภาพจำของนักแสดงหนุ่ม “โอ๊ค กีรติ ศิวะเกื้อ” ไปแล้ว เพราะที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเล่นละครหรือภาพยนตร์กี่เรื่อง ก็จะได้เห็นเจ้าตัวในบทบาท LGBTQ+

ล่าสุดพลิกบทบาทใหม่ มาเล่นบทโหดในซีรีส์ Bangkok Breaking ซึ่งก็มีหลายคนชมความปัง ว่าเล่นได้ถึงพริกถึงขิง แต่ก็ไม่วายมีคนวิจารณ์ว่ายังติดภาพจำเดิมๆ ไม่อิน ถึงขั้นจะเลิกดู

โดยเจ้าตัวได้เปิดใจกับ ข่าวสดบันเทิงออนไลน์ ยอมรับว่าเสียใจอยู่เหมือนกันหลังได้อ่านคอมเมนต์ แต่วอนให้เปิดใจดูให้จบ

บทบาทใหม่ในซีรีส์ Bangkok Breaking หลายคนก็ชมถึงความปัง แต่ในขณะเดียวกันก็มีคนวิจารณ์ว่าติดภาพเพศที่ 3 ไม่อิน จะเลิกดู ส่วนตัวเรามีความคิดเห็นยังไง?

“จริงๆ ก็ขอบคุณคนที่บอกว่าชอบบทบาทนี้ และก็ขอบคุณคนที่ยังติดภาพจำเดิมๆ อยู่ เพราะแปลว่าเขาดูเราทั้งในเรื่องนี้ และบทบาทอื่นๆ ของเราด้วย แต่ในโพสต์นั้นก็ยอมรับว่าเสียใจเหมือนกัน เพราะในโพสต์นั้นบอกว่า บทนี้เรานี่มันไม่ได้เลย เห็นหน้าเราก็ถึงขั้นจะเลิกดูต่อเลย

คือซีรีส์มันทำกันหลายคน กว่าจะทำกันได้ เขาก็มาวางแผนกันมาเป็นปีๆ ทำกันมาอย่างลำบาก แล้วจะมาเลิกดูเพราะเราคนเดียวเลยเหรอ ใจร้ายไปไหมพ่อ (หัวเราะ)

ตอนอ่านผมก็ยอมรับว่าเสียใจแต่พอมีคนมาเขียนว่าเป็นกำลังใจให้ และเราก็ได้เห็นความคิดใหม่ๆในสังคมไทยว่า นักแสดงมันก็ต้องรับบทที่หลากหลาย มันถึงสนุก จะให้รับบทบาทเดิมๆไปตลอดเลยเหรอ อันนี้เราก็เลยใจชื้นขึ้นมาหน่อย”

แต่ทวิตเตอร์เราออกแนวตัดพ้อว่าโอกาสของคนเราไม่เท่ากัน บทไหนก็เลี้ยงปากเลี้ยงท้องได้?

“ใช่ครับ แต่ต้องบอกก่อนว่าผมไม่ได้มีเจตนาถึงขั้นจะล่าแม่มดจะลากเขามาประจานหรืออะไรอย่างนี้นะครับ เขาก็มีสิทธิ์จะพูด ความคิดความรู้สึกคนดูเราจะไปห้ามเขาก็ไม่ได้

แล้วตอนนั้นผมมียอดฟอลโลเวอร์ในทวิตเตอร์น้อย คือเริ่มแรกมันมีแค่ 100 คน เราก็แค่อยากจะบ่นให้เพื่อนๆ เรา หรือให้คนที่ติดตามเราฟังว่าเขารู้สึกยังไงบ้างแค่นั้นเอง ไม่ได้ตั้งใจจะว่าเขา

แต่พอเราโพสต์ไปก็มีคนเข้ามาให้กำลังใจเราเยอะ ผมดีใจที่เราได้เห็นความคิดใหม่ๆ ว่านักแสดงก็ต้องรับบทใหม่ๆ บ้าง บทเดิมๆ มันก็น่าเบื่อ มันเหมือนกับเปิดประตูให้กับวงการบันเทิงไทยด้วยครับ”

คือในขณะเดียวกันมีคอมเมนต์เชิงต่อว่าวงการซีรีส์ ภาพยนตร์ไทย ที่มีแต่อะไรเดิมๆ เลยทำให้นักแสดงไม่ได้รับบทบาทที่หลากหลาย ไม่ได้โชว์ฝีมือ เรามองยังไง?

“เราจะปฏิเสธว่ามันไม่จริงซะทีเดียวก็ไม่ได้ แต่ในวงการบันเทิงไทยเราก็ค่อยๆ พัฒนาไปข้างหน้าเรื่อยๆ มันก็ดีมากขึ้น แต่เราก็ต้องยอมรับว่ามันเคยเป็นมาอย่างนั้น อย่างผม หน้าตาแบบผมจะมาคาดหวังดีๆ ในสมัยก่อนเรียกว่ามันเป็นไปไม่ได้เลย คนที่หน้าตาไม่ดี อย่างเดียวที่ทำได้คือบทตลก

คือพื้นที่เราน้อยครับ ดังนั้นโอกาสอะไรที่มันมาเราก็ต้องรับไว้ก่อน พอมันสำเร็จขึ้นมาคนดูจำแล้ว นายจ้างทั้งหลายเขาก็ต้องการความสำเร็จแบบเดิมหรือมากยิ่งขึ้น เขาก็อยากเห็นเราในภาพนั้นอีก ผมก็เลยได้ภาพเดิมๆ ต่อๆ กันมา

เราขอบคุณที่คนจ้างเราและเราขอบคุณคนดูที่ดูเราที่ชอบเรา แต่เราก็พูดตรงๆ ว่าเราก็เบื่อเหมือนกัน เพราะเราก็อยากทำอะไรอย่างอื่นบ้าง”

เห็นโพสต์ว่าทีมงานที่เขาหยิบยื่นบทนี้ให้ ตอนแรกก็มีข้อกังขา แต่เขาก็เสี่ยงที่จะให้เราเล่น แต่ก็เห็นมีคอมเมนต์จากทีมงานมาแย้งว่าเขาไม่ได้คิดแบบนั้น?

“คือทางพี่คุ่น (ปราบดา หยุ่น) ซึ่งเรียกว่าเป็นหนึ่งในหัวเรือใหญ่ เขาบอกว่าเขาไม่ได้คิด คือเขาดูจากเทปแคสต์อย่างเดียว คือนักแสดงของเรื่องนี้หลายๆ คนก็จะแคสต์มา ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น

ว่าพี่คุ่นอาจจะไม่ได้คิด เพราะว่าเขาอาจจะไม่เคยดูผลงานที่ผ่านมาของผมหรือเปล่าอันนี้ผมไม่ทราบ(หัวเราะ) เพราะว่าเขาเห็นผมในเทปแคสต์นี้เขาก็เรียกเลย

แต่ว่าเคยมีคนที่ดูผลงานเก่าๆ แล้วเขาคิดไหม อันนี้ก็มี แต่ก็อย่าไปตามล่าเลยว่าเขาคือใครพูดอะไร เพราะในที่ทำงานเดียวกัน มันก็จะประกอบไปด้วยคนทำงานหลายคน แต่เราก็โชคดีตรงคนที่เขาไม่คิด เขาสนับสนุนแล้วเขาก็เลือกเรา”

แล้วสำหรับตัวเราเอง บทนี้เราชอบไหม?

“โห ผมแฮปปี้มากเลยครับ มันอาจจะไม่ได้เป็นบทที่ออกมาเยอะในแต่ละตอนหรือทุกตอน แต่น้ำหนักของบทมันเยอะ มันเป็นบทที่สร้างอิมแพ็ก แล้วมันก็เป็นตัวแทนของสื่อทุนนิยมหวังแต่กำไรอย่างเดียว มันก็เป็นเรื่องจริงที่เกิดอยู่ในโลกตอนนี้ ผมก็ดีใจที่ผมได้เป็นตัวแทนคาแร็กเตอร์นี้ และถ่ายทอดตรงนี้ออกมาในสิ่งที่มันเกิดขึ้น”

หลังจากนี้ถ้ามีบทบาทเพศที่สามเข้ามาเรามีความกังวลใจที่จะรับไหม?

“คือผมว่าตอนนี้ผมได้รับบทอื่นๆ ที่แตกต่างออกไปและผมอยากให้คนดูสนุกกับบทอื่นๆ ก่อน แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะปฏิเสธจะไม่รับแล้ว เราก็รู้ที่มาของเรา เราก็ยังขอบคุณบทนี้ เรามีทุกวันนี้ได้ก็เพราะบทเพศที่สาม แต่ก็คงพิจารณาเป็นเรื่องๆ ไปว่ามันสมเหตุสมผลไหม”

ตอนนี้ก็ยังถ่ายทำซีรีส์อย่างต่อเนื่อง?

“ใช่ครับตอนนี้ผมมาถ่ายทำซีรีส์อยู่ที่เชียงราย ก็คือเป็นซีรีส์ของทาง Netflix เหมือนกัน คิดว่าปลายปีหน้าจะได้ดู และก็จะมีละครไทยแล้วก็ซีรีส์รีเมกของเกาหลีด้วยเรื่องหนึ่ง แต่ละเรื่องนี่คือบทบาทแตกต่างกันหมดเลย ก็ไม่ว่าจะเล่นบทไหน ก็อยากจะให้ทุกคนได้ลองดู จะด่าบ้างดูบ้าง ก็มาวิจารณ์กันได้ แต่ขอให้ดู คือดูก่อนครับแล้วจะด่าก็ได้ (ยิ้ม)”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6650310
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6650310