“ช่วงนี้แฮปปี้ดีค่ะ ถามว่าแฟนยังเป็นคนเดิมหรือเปล่า ไม่ใช่คนเดิมค่ะ เลิกกับพลอยมาเป็นปีแล้ว ก่อนที่จะเกิดโควิด หลังจากนั้นก็ไม่ได้ออกอีเวนต์อีกจากที่เคยพูดว่าระหองระแหงกัน

ต่อมาก็เป็นการพูดคุยกันสองคนแล้วก็เลิกกันเงียบๆ ซึ่งตอนนี้ก็เป็นเพื่อนกัน ทำธุรกิจด้วยกันได้ ตกลงกันว่าต่างคนต่างมีใหม่ หลังเลิกกับพลอยได้สองเดือนคนนี้ค่อยเข้ามา

ไม่ได้คบซ้อนค่ะ ไม่มีๆ มีเคยมาเจอกันสามคนไหมเหรอ เราแสดงความมีมารยาทไม่ให้เขาเจอกันดีกว่า แต่ก็ไม่มีใครมีปัญหากับใคร แต่ก็ยังเป็นสาวหล่อเหมือนเดิมค่ะ

มูฟออนเร็วไปไหม ไม่ได้มูฟออนเร็ว แต่เป็นคนยอมรับความเป็นจริงได้ง่าย คนนี้ก็มาเจอในกองถ่าย เป็นผู้ช่วยผู้กำกับ เขาเป็นคนมาจีบ โมไม่ได้เข้าหาก่อน

แต่ก่อนที่จะมาจีบเขาก็แอบเล็งในไอจีไว้แล้ว รอจังหวะโมโสด เขารู้ว่าโมยังไม่เลิกกับพลอยก็ยังไม่เข้ามา แต่ถามว่าครั้งนี้จะแต่งอีกไหม ยังไม่คิดค่ะ

แต่ที่เลือกเปิดตัว เพราะเขาเป็นคนดี เป็นคนขยัน เป็นคนทำงาน นิสัยก็เข้ากัน โมคบกันมาปีกว่ายังไม่เคยทะเลาะกัน

เขาเป็นผู้ช่วยผู้กำกับค่ะ แล้วเรื่องงานคือโมจะบอกว่าถ้าคุยกับเราแล้วโมรับงานละครไม่มีเวลาว่าง แล้วเขาเองก็ไม่ว่าง ไม่เผื่อเวลาให้คือเลิกกันเลย แต่พอดีเขาบริหารจัดการเวลาได้ก็โอเค ถ้ามีเลิฟซีน มีเซ็กซี่เขาก็ไม่ติดค่ะ เขาแยกแยะได้

ความรักครั้งนี้คาดหวังไหม เคยบอกเขาว่า ถ้าเราคบกันวันหนึ่งต้องเลิกกัน ก็จะไม่คบใครแล้ว จะคุยไปเรื่อยๆ แล้ว เพราะแก่แล้ว ถ้าคุยกับใครแล้วไม่ได้จริงๆ ก็จะอยู่กับเพื่อนกับพี่แล้ว

หลังจากที่บอกแบบนี้ไปเขาก็บอกว่าเหตุการณ์แบบนี้ไม่เกิดขึ้นกับโมหรอก โมต้องให้ที่บ้านยอมรับได้ทุกคนถึงจะแต่ง คือคนเราไม่ได้เจอความรักที่สวยงามเสมอไป แต่ตอนนี้ถ้าเป็นโอกาสของโมก็ให้โมได้เจอบ้าง ถ้าโมเจอความรักที่ดีโมหยุดนานแล้วโมไม่เลิกหรอก

ส่วนเรื่องมีบุตร ผสมเทียมหรือรับลูกบุญธรรมถ้ามันถูกกฎหมายก็จะทำเลย เอาน้ำเชื้อฝั่งบ้านเขา เอาไข่ของเรา ปีหน้าก็ฝากไข่แล้ว ฝากไว้ก่อนคุยกับโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว

เขารู้เรื่องนะ เพราะเขาเป็นคนจ่ายเงิน ก็ต้องไปเช็กร่างกายต้นปีหน้าอีกที เพราะโมเคยเป็นโรคช็อกโกแลตซีสต์ ที่วางไว้คืออยากมีลูกไม่เกิน 38 แต่ว่าต้องดูกฎหมายด้วย ไม่อยากให้เกิดมาถ้ากฎหมายไม่รองรับ ถ้าไทยไม่ให้มีก็ไม่เป็นไร”