แช่ม แช่มรัมย์ เปิดใจ ป่วยไทรอยด์เป็นพิษ หงุดหงิดกลัวไม่อิ่ม แย่งเมียกินแก้มปลา


ให้คะแนน


แชร์

แช่ม แช่มรัมย์ เปิดใจ ป่วยไทรอยด์เป็นพิษ พฤติกรรมเปลี่ยน หงุดหงิดง่ายกลัวไม่อิ่ม แย่งเมียกินแก้มปลา เผยความรักสุดทรหดกว่า 19 ปี

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

“แช่ม” แช่มรัมย์ นักร้องมาดเข้ม ควงศรีภรรยา นานา โฮไซนา มาเผยเส้นทางความรักทรหดกว่า 19 ปี พร้อมเปิดใจอาการป่วยไทรอยด์เป็นพิษกว่า 2 ปี ในรายการ “คุยแซ่บSHOW” ที่มี เป๊กกี้ ศรีธัญญา และ อ.เป็นหนึ่ง เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

เริ่มรู้ว่าเป็นไทรอยด์เมื่อไหร่? แช่ม แช่มรัมย์ : “เข้าปีที่ 2 ที่ทราบว่าเป็นไทรอยด์เพราะว่าผมเป็นคนที่ชอบเซลฟี่และเวลามาดูรูป รูปมันเบลอแปลว่ามือเราสั่นแล้วตาจะมัว เราก็ไปตัดแว่นเพราะคิดว่าสายตาอาจเป็นปัญหา คือไทรอยด์ขึ้นตา มือเราก็จะสั่น แล้วจะมีอาการเหนื่อย คือพอเริ่มทัวร์คอนเสิร์ตแล้วเราต้องอัดรายการหลังปีใหม่ เดินบันไดขั้น 2 ไม่ไหว ต้องมีคนคอยประคอง”

มีอาการช่วงโควิดพอดี เป็นอย่างไรบ้าง? แช่ม แช่มรัมย์ : “ก็ได้พักรักษาตัว พอเราไปพบหมอเพื่อรักษาอาการป่วย การรักษาคือเราต้องทานยาระยะยาว และเราต้องมาเช็กร่างกายทุกเดือนที่โรงพยาบาล ดูว่าร่างกายเรารับกับยาไหม มีการปรับฮอร์โมนไหม คือมาเช็กว่าสารที่มันหลั่งเข้ามาเกิน และเป็นพิษกับร่างกาย เรารับแค่ไหน”

ช่วงที่คุณแช่มป่วย คุณนานา สังเกตเห็นอะไรบ้าง? นานา โฮไซนา : “ก็สังเกตเห็นว่าเขาจะเหนื่อยง่าย และผอมลงเร็วมาก บวกกับมีอาการหงุดหงิดขึ้นมา คือเราก็เริ่มเอะใจว่าทำไมเขาเหนื่อยง่าย และมีการถอนหายใจ ซึ่งแต่ก่อนไม่เคยถอนหายใจ ก็ปรึกษากัน แต่สุดท้ายพี่แช่มก็ไปตรวจที่โรงพยาบาลเอง โดยไม่บอกเรา”
แช่ม แช่มรัมย์ : “คือเราก็ไม่อยากให้เขาเป็นห่วง เพราะตัวเราเองเป็นคนที่ไม่ค่อยเจ็บป่วย ถ้าไม่ไหวจริงๆ ถึงจะไปโรงพยาบาล”

พอไปถึงโรงพยาบาลหมอว่าอย่างไรบ้าง? แช่ม แช่มรัมย์ : “หมอแค่ดูมือและเล็บ คือเล็บจะไม่เหมือนคนปกติ เล็บจะโค้งงอปูดเหมือนหลังเต่า และผิวของเล็บจะไม่เรียบ หมอบอกว่าเล็บฟ้องอาการผิดปกติข้างใน สรุปคือเราเป็นมานานแล้ว แต่เพิ่งตรวจเจอ คือโรคนี้เป็นกรรมพันธุ์ อย่างเล็บก็จะไม่มีทางหาย”

อาการไทรอยด์เป็นพิษมีหลายแบบ อาการของคุณแช่มอยู่ในกรุ๊ปไหน? แช่ม แช่มรัมย์ : “ผมเป็นพิษแบบไฮเปอร์ คือเวลาคุยเราจะลน และพฤติกรรมจะเปลี่ยน จะเป็นคนฉุนเฉียว กินเร็ว ห่วงกินกลัวไม่อิ่ม เพราะการเผาผลาญในร่างกายเราเยอะ หัวใจเคยเต้นเร็วทั้งวันทั้งคืน คือปกติหัวใจคนเราจะเต้นประมาณ 80 แต่ของผมเต้น 140 เหมือนคนวิ่งอยู่ลู่วิ่งตลอด และถ้าเราวิ่งเร็วๆ ผลข้างเคียงคืออาจจะทำให้เราช็อกได้ สาเหตุหลักๆ มาจากกรรมพันธุ์ รองลงมาคือร่างกายที่เราใช้มากเกินไป คือนอนน้อย และรับงานมากเกินไป”

คุณแช่มเคยแย่งอะไรเราทานบ้างไหม? นานา โฮไซนา : “มีค่ะ คือเวลาพี่แช่มทานปลา แล้วแก้มปลาจะเป็นอะไรที่อร่อยที่สุด แต่ก่อนพี่เขาก็จะให้นานาหรือไม่ก็ลูก แต่ตั้งแต่เริ่มเป็นไทรอยด์แก้มปลา ลูกกับภรรยาก็ไม่ได้กินอีกเลย พี่แช่มกินหมด (หัวเราะ) คือปกติพี่แช่มเป็นคนที่ทานอาหารช้ามาก และจะทานคำเล็กๆ แต่หลังๆ ทานข้าวเร็วมากและเยอะมาก จนเราต้องบอกว่า พี่แช่ม ทานช้าๆ นะ นี่คือสาเหตุที่เราคิดว่าต้องมีอะไรที่เขาผิดปกติ”

ขั้นตอนการรักษาเป็นอย่างไร? แช่ม แช่มรัมย์ : “คุณหมอบอกว่าผมโชคดีมากที่รู้ตัวเร็ว เพราะไทรอยด์เป็นโรคที่แปลกมากๆ คือคนไข้ต้องเป็นมากๆ แล้ว อย่างตาปูด คอพอก ถึงจะมาหาหมอ แต่ของผมถามว่าหนักไหม ก็หนัก เพราะหัวใจเต้นเร็ว แล้วเราก็มีอาการเหนื่อย แต่อาการอื่นไม่ค่อยออก อาการรวมๆ ของผมคือเหนื่อยเพราะพักผ่อนน้อย คุณหมอก็ให้ทานยา ซึ่งเราก็ทานยาตามที่คุณหมอสั่ง จะมีแค่ช่วงปีแรกๆ เท่านั้น ที่จะหงุดหงิดง่าย จนผมต้องแอบขอยาระงับอารมณ์กับคุณหมอ”

นานา โฮไซนา : “ถามว่าอาการแปรปรวนขนาดไหน เขาจะถอนหายใจบ่อย คือแต่ก่อนถ้าเราไม่เข้าใจอะไร เขาก็จะค่อยๆ อธิบายให้เราและลูก แต่ระยะหลังๆ ไม่ค่อยอธิบาย และเหมือนเขาหงุดหงิด เราก็พยายามเตือนกัน เราก็พยายามให้เขาพักงาน ซึ่งโชคดีที่เป็นช่วงโควิดพอดี เราก็จะให้เขานอนพักเยอะๆ พยายามให้เขาเข้านอนเร็ว และจะช่วยกันกับลูกๆ คอยเทกแคร์ปะป๊า”

ขั้นตอนการรักษาถึงไหนแล้ว? แช่ม แช่มรัมย์ : “โรคไทรอยด์จะแปลกอย่างหนึ่ง พอดีมีแฟนคลับที่มีความรู้ เขาก็เขียนอธิบายถึงโรคนี้ให้เรารับทราบ คือกล้ามเนื้อจะอักเสบง่าย เวลาเจ็บก็จะเจ็บนาน เราก็ต้องเริ่มออกกำลังกายจากท่าเบาๆ ก่อน ซึ่งผมเข้าใจว่าการกระโดดตบมันเบาสุดแล้ว เพราะแต่ก่อนเราไม่เป็นไร แต่ด้วยความที่น้ำหนักของเราลดลง 12 กิโล พอเรากินตอนนี้น้ำหนักพุ่งพรวดไป 73 กิโลด้วยความรวดเร็ว พอร่างกายเราอ้วนขึ้น เราก็กระโดดตบ ขาเราก็รับน้ำหนักไม่ได้ ขาก็เริ่มเจ็บ พอกระโดดปุ๊บก็ปวดขาทันที ตอนนี้ผมก็พยายามเดินหรือวิ่งวันละ 4-5 กิโล ถามว่ามีสิทธิ์หายไหม คุณหมอบอกว่าหายได้ ตอนนี้ผมเริ่มห่างยาแล้ว เริ่มควบคุมอารมณ์ของตัวเอง และในวันหนึ่งนอนอย่างน้อยให้ได้วันละ 5 ชั่วโมง”

ทั้งคู่เจอกันได้อย่างไร? นานา โฮไซนา : “นานาไปดูคอนเสิร์ตพี่แช่มกับพี่สาวและคุณพ่อคุณแม่ที่เดนมาร์ค คือพี่สาวนานาชอบพี่แช่ม เป็นแฟนคลับ ส่วนนานาไม่ได้เป็นแฟนคลับ และไม่เคยฟังเพลงพี่แช่มเลย คือพี่เขาชอบพี่แช่มมากๆ ชอบจนเรารู้สึกไม่ชอบ”
แช่ม แช่มรัมย์ : “คือที่บ้านนานาเขามีร้านอาหารไทยอยู่ที่สวีเดน ส่วนผมได้ไปเล่นคอนเสิร์ตที่เดนมาร์ค แล้วตอนนั้นเพลงของเราดังมาก บ้านเขาก็เลยปิดร้านไปดูคอนเสิร์ตของเรา”

ตอนที่เจอพี่แช่มครั้งแรกรู้สึกอย่างไร? นานา โฮไซนา : “ยังจำได้ว่าวันนั้นพี่แช่มใส่กางเกงใหญ่ๆ แล้วก็ใส่ถุงมือที่ตัดนิ้ว เรารู้สึกตลกว่าไอดอลพี่สาวแต่งตัวตลกดีเนอะ แต่พี่สาวปลื้มมาก ตอนนั้นเราไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาเลย”

แช่ม แช่มรัมย์ : “ตอนแรกที่เจอเขาผมก็ไม่ได้ปิ๊งเขาเลย คือตอนที่เราไปเล่นคอนเสิร์ตที่โน่นมันต้องเล่นสองเบรก เขามาดูเราในเบรกแรก เราก็มาขอบคุณแขก แม่เขาก็มาแนะนำว่านี่ลูกสาวคนโตเขาชอบเรา ส่วนคนนี้น้องสาว คือตอนนั้นผมจำได้แค่นั้นจริงๆ เพราะหลังจากเล่นคอนเสิร์ตเสร็จวันรุ่งขึ้นผมก็เดินทางกลับไทยเลย หลังจากนั้น 4-5 เดือน พี่สาวของภรรยาก็หาข้อมูลทราบว่าผมเกิดวันที่ 14 ก.พ. เขาก็เลยโทรมาอวยพรวันเกิดผมวันที่ 13 ก.พ. ซึ่งตอนนั้นผมกำลังจะขึ้นคอนเสิร์ต ก็รับสายแล้วพูดไม่ดีประมาณว่ากำลังจะขึ้นคอนเสิร์ตแล้วก็วางสายไป พอหลังจากนั้นผมก็รู้สึกไม่ดี วันรุ่งขึ้นผมก็เลยโทรกลับตั้งใจจะไปขอโทษ ซึ่งพี่สาวภรรยาผมเขาก็ดีใจมาก พูดอะไรไม่ถูกเขาก็เลยส่งสายให้นานาคุยแทน หลังจากนั้นก็เลยโทรนัดกันว่า วันที่ 13 จะเป็นวันแฟนคลับ ซึ่งเราจะโทรหากันทุกวันที่ 13 ของเดือน”

นานา โฮไซนา : “คือเราได้คุยกับเขา เราไม่ได้รู้สึกอะไร คือมีความสุขมากกว่าที่เห็นพี่สาวมีความสุข เราก็ดีใจกับพี่เพราะเขาชอบของเขามาก หลังๆ เริ่มคุยกับพี่แช่มถี่ เพราะทุกวันที่ 13 เราจะต้องเป็นคนรับสายให้พี่สาวก่อน เพราะพี่สาวจะเป็นลม แต่เริ่มผิดสังเกตตอนที่พี่แช่มโทรมามากกว่าวันที่ 13 แล้วโทรมาเป็นเวลาตี 3 เมืองไทย ซึ่งเป็นเวลาปิดร้านของเราพอดี คือที่สวีเดนเวลาตอนนั้นก็จะประมาณ 3 ทุ่มแต่ที่เมืองไทยคือตี 3 เราก็งง ก็บอกเขาว่าพี่สาวไม่อยู่ เขาก็บอกว่าครับ ผมทราบครับ เราก็คุยๆ กัน ก็รู้สึกว่าเขาตลกดี”

คือโทรไปเวลานั้นคือเริ่มจีบแล้วใช่ไหม? แช่ม แช่มรัมย์ : “คือผมบอกกับนานาเลยว่า เรามีแฟนคลับ เรามีแฟนเพลง เรามีผู้หญิงเยอะแยะมากมายที่อยู่ใกล้ตัวเราชอบเราและสนใจเรา แต่ผมรู้สึกเฉยๆ ไม่รู้สึกอยากเล่าอะไรให้ใครฟัง แต่กับผู้หญิงคนนี้ผมรู้สึกว่าอยากเล่า ซึ่งตอนนั้นก็ยังไม่มีเทคโนโลยีอะไร ไม่มีเฟซไทม์ ช่วงนั้นเราก็ซื้อการ์ดโทรศัพท์เพื่อโทรหาเขา ซื้อทีละพัน ซึ่งโทรได้ 10 นาทีก็หมดแล้ว พอหมดก็ซื้อใหม่ ซึ่งแต่ละครั้งที่โทรก็โทรคุยกันนานมาก เสียค่าโทรบางที 3-4 หมื่น ซึ่งทางบ้านเขาก็ทราบก็บอกว่าโทรหากันได้ไม่เป็นไร จนหลังๆ ผมก็เริ่มหาข้อมูลว่าจะมีศิลปินนักร้องคนไหนจะไปสวีเดนบ้าง จนกระทั่งทราบว่าพี่อี๊ดและพี่เสก โลโซ จะไปสวีเดน ผมก็เลยเสนอตัว ไม่เอาตังค์ก็ได้ขอไปสวีเดนด้วย แล้วผมก็บอกพี่อี๊ดว่าผมมีแฟนอยู่ที่นั่น ซึ่งพี่อี๊ดเขาก็ให้เราไป แต่พอไปแล้วปรากฎว่าเจ้าภาพเขาจำกัดที่ ไม่ให้เราเดินทางไปไหนมาไหนเอง เพราะเขากลัวเราหลงทาง พอไปถึงสวีเดนปรากฎว่าผมต้องไปลงที่เมืองหลวงซึ่งอยู่ห่างจากบ้านเขาประมาณ 800 กิโล ซึ่งทางบ้านเขาก็ไม่อนุญาตให้เขามาเจอผม ส่วนผมก็ไปหาเขาไม่ได้ เพราะเจ้าภาพไม่อนุญาตเหมือนกัน”

นานา โฮไซนา : “คือเราก็บอกพี่แช่มว่าคงไม่เจอกันเพราะที่บ้านไม่ให้ไปแน่ๆ เพราะมันไกลมาก คือเราก็เห็นถึงความพยายามนะ แต่สุดท้ายปะป๊าก็ยอมให้ไปเพราะเขาเห็นเรา ปะป๊าก็สงสารแต่บอกว่าให้ไปวันเดียวกลับ เราก็มองหน้ากับพี่สาวคือมันไกลไง พี่สาวก็บอกว่าไป เดี๋ยวพี่ไปเป็นเพื่อน วันนั้นก็ได้เจอกัน แต่พี่แช่มเขิน เขาก็เลยไปคุยกับพี่สาว ส่วนพี่สาวก็ตื่นเต้นมากจนจะเป็นลม เราก็เลยต้องดูแลพี่สาวอีกที คือตอนนั้นเราไม่ได้ชอบพี่แช่มที่หน้าตา แต่เราชอบเขาตรงที่เราไม่เคยเจอใครที่กล้าเล่ามุมไม่ดีของตัวเอง ในมุมที่ตัวเองลำบาก ที่ผ่านมาเราก็จะเจอแต่คนพูดแต่สิ่งดีๆ ของตัวเอง ไม่เคยเจอแบบเขา”

ครอบครัวภรรยานับถือศาสนาอิสลาม เจออุปสรรคอะไรบ้าง? แช่ม แช่มรัมย์ : “ปะป๊าบอกว่าทางบ้านนับถือมุสลิมนะ ถ้าจะรักกัน จะแต่งงาน ผมต้องไปศึกษาศาสนาให้ดี และถ้าเราตกลงจะเปลี่ยนศาสนา ท่านก็จะมารับเราเข้าศาสนา และต้องขลิบก่อน ซึ่งปะป๊าก็บอกเราว่าเรื่องขลิบไม่ต้องกลัว เพราะปะป๊ามีคลินิกที่เชื่อถือได้ เขามียาชา เขาทันสมัย ทำ 2 อาทิตย์แผลก็หาย ผมก็โอเค แต่ตอนไปทำถามว่าเจ็บไหม ผมไม่ได้รู้สึกเจ็บนะ แต่ตอนนั้นเราลุ้นไงว่าเขาทำอย่างไร ส่วนที่ปะป๊าบอกว่า 2 อาทิตย์หาย ปรากฎว่าใช้เวลา 2 เดือน ช่วงที่รอแผลหายที่บ้านนานาเขาก็เป็นห่วง ก็ให้เรามานอนที่คอนโดเขาได้ เพราะแต่ก่อนผมนอนที่บ้านพี่ไท ยังไม่มีบ้านของตัวเองเป็นหลักแหล่ง พอมานอนที่คอนโดเขา ทุกเช้าผมต้องตื่นขึ้นมานั่งทำแผลเองจนหายดี”

สุดท้ายได้แต่งงาน ตอนนี้มีลูกด้วยกันกี่คน? นานา โฮไซนา : “มีลูก 2 คน คนโตเป็นผู้หญิง คนเล็กเป็นผู้ชาย”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6660058
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6660058