“กระแสตอบรับก็ดีครับ ดีใจนะครับ มีทั้งแฟนคลับนิวเอง แฟนซีรีส์มารอติดตาม นิวรับบทเป็น “ภูผา” คาแรกเตอร์เป็นคนค่อนข้างจะนิ่งๆ ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา ในเรื่องก็จะอัจฉริยะ เรียนวิศวะ เป็นคนที่เก่งมาก แต่ในเรื่องของความรัก เค้าไม่เคยมีความรักมาก่อน เวลาเจอคน ก็ไม่ค่อยสุงสิงกับคนอื่น เรียบร้อยระเบียบจัดต้องมาอยู่กับผู้หญิงคนนึงก็คือพระพายที่บังเอิญได้มาอยู่ห้องเดียวกัน โดยที่พระพายเป็นคนอีกขั้วนึงไปเลย ไม่มีระเบียบแล้วก็วุ่นวาย พอสองคนนี้ต้องมาอยู่ด้วยกันมันก็เลยเกิดความสนุกขึ้นว่าสองคนนี้จะอยู่ร่วมกันได้อย่างไร สองคนนี้จะรู้สึกต่อกันมั้ย ก็จะมีจุดให้ได้ดูกัน”

เรื่องนี้จีนดังมากๆได้ไปศึกษาดูมั้ย หรือรู้สึกกดดันมั้ยที่ต้องมารับบทบาทนี้? “ตอนแรกที่รู้ว่าได้รับเล่นอุ่นไอในใจเธอก็ตื่นเต้นครับ เพราะเป็นซีรีส์ที่เวอร์ชันจีนประสบความสำเร็จมาก ถามว่าได้ดูเวอร์ชันจีนมั้ย ก็มีไปดูครับแต่ดูคร่าวๆ ถ้าดูแล้วกลัวจะไปจำคาแรกเตอร์มาโดยที่แบบไม่เข้าใจอะไรมากมาย ก็เลยเลือกที่จะไม่ดู จะคุยกับผู้กำกับซะส่วนใหญ่”

ความฟินความจิ้นของเรื่อง? “อันนี้นิวว่าก็ยังคงความน่ารักเหมือนเดิม ของทางจีนเค้าก็จะมีฉากโรแมนติกน่ารักๆ ของไทยก็ยังมีเก็บส่วนนี้ไว้อยู่”

อะไรที่ยังไม่เคยเล่นมาก่อนแล้วก็ได้ทำในเรื่อง? “นิวเองจะเป็นคนที่อยู่ไม่ค่อยนิ่งแต่ภูผาจะเป็นคนที่นิ่งมาก ก็ต้องไปฝึกให้ตัวเองนิ่งมากขึ้น การขยับตัว การเดิน การพูดจา ต้องพูดให้ช้าพูดชัดถ้อยชัดคำ สำหรับนิวคือ ยากมาก ยอมรับว่ามีหลุดบ่อย เพราะนิวเป็นคนที่ค่อนข้างอะเลิร์ต ภูผาจะเป็นคนที่คิดแล้วรู้สึกก็เก็บไว้ข้างใน แต่ส่วนนิวคิดอะไรทำอะไรก็ทำเลยแตกต่างกัน”

“ไข่มุกก็ทำงานในวงการบันเทิงมาก่อน แต่เรื่องนี้ของน้องเป็นซีรีส์ที่เล่น
เต็มๆเรื่องเป็นเรื่องแรกในชีวิต เค้าก็มีทำการบ้านของเค้ามา นิวก็มีเสริมอะไรให้นิดหน่อย มีคุยแลกเปลี่ยนมากกว่า ไม่ได้แนวสอน เป็นแนวแนะนำ ลองทำแบบนี้ดูสิว่าจะเข้ากับตัวน้องมั้ย วิธีที่เราทำแล้วรู้สึกว่าใช่ก็เอามาแชร์ให้น้องฟังครับ”

เป็นป๋าดัน? “ก็เรียกอย่างนั้นก็ได้ครับ”

ฉากกุ๊กกิ๊กเลิฟซีนล่ะเป็นไงบ้าง? “ด้วยความที่แบบเพิ่งเคยเล่นด้วยกันเรื่องแรกก็ยังมีความเขินกันอยู่ พอหลังๆก็เริ่มสนิทกันมากขึ้น คุยกันมากขึ้นก็เขินกันน้อยลง”

ความน่าดูของเวอร์ชันนี้? “นิวว่ากลิ่นอายของความน่ารักกุ๊กกิ๊กก็มีเค้าโครงของเค้าอยู่แล้วแต่จุดที่น่าสนใจน่าจะเป็นเรื่องของความเป็นไทยที่อยากแชร์ให้ต่างชาติได้เห็นว่าบ้านเรามีประเพณีแบบนี้ เราอยู่กันแบบนี้ ได้แชร์เรื่องราวความเป็นไทยออกไปด้วย”

“คือภูผาจะเป็นคนที่แบบ เค้าโตมากับวิทยาศาสตร์ตั้งแต่เด็ก โตมากับ การทดลอง เค้าจะรู้ว่าอะไรใช่ก็ต่อเมื่อเค้าทดลองได้สำเร็จแล้ว เรื่องนี้ก็เหมือนแบบเป็นรักทดลองของเค้าทดลองว่าเฮ้ยมีทฤษฎี 1 2 3 4 5 ถ้าตรงตามทฤษฎีที่เค้า ทำวิทยาศาสตร์มาเค้าถึงจะสรุปได้ว่า มันคือใช่ ก็คือความน่ารักของภูผา ผมก็มองว่าคนอะไรจะมาทดลองความรักไปเรื่อยๆก็น่ารักดี แต่ชีวิตจริงนิวไม่เหมือนเลยครับ สำหรับนิวเรื่องความรู้สึกไม่ได้เป็นอะไรที่จะต้องมีเงื่อนไขอะไรมากมาย นิวมองว่าเรื่องของความรัก ถ้าใช่ก็ใช่ ถ้าเจอมันก็เจอ ไม่จำเป็นต้องทดลองคนนี้ใช่มั้ย นิวว่าอยู่ด้วยกันไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็จะรู้เอง”

คาแรกเตอร์แบบนางเอก ถ้าเป็นเราเองจะหวั่นไหวมั้ย? “ผมว่าก็อาจจะมีนะ คือเค้าอยู่ด้วยกันถึงจะไม่ 24 ชม. แต่อยู่ห้องเดียวกัน มันก็ต้องเกิดความสนิทสนมหรือก็อาจจะมีความรู้สึก เฮ้ย หรือว่าคนนี้น่ารักดี เกิดจากความใกล้ชิด”

“ได้เรียนรู้เยอะครับ เพราะว่านิวรู้สึกว่าหลังๆก็เป็นโอกาสที่ดีที่ได้เล่นหลายๆบทบาท แล้วก็ได้เล่นกับหลายๆที่เพราะแต่ละที่ก็มีการทำงานในแบบของตัวเอง แต่ละที่ก็ไม่เหมือนกัน ทำให้ได้เรียนรู้อะไรที่แตกต่างออกไป ดีใจที่ได้รับโอกาสมา เหมือนได้ออกไปโลกกว้าง ส่วนตัวนิวก็ชอบเรียนรู้อยู่แล้ว เป็นสายเนิร์ดนิดหน่อย ชอบถามชอบโน่นชอบนี่ เวลาไปทำงานกองอื่นได้เจอคนใหม่ๆ ก็ชอบถามไปหมด บางจุดที่เราเจอจากกองนี้ที่รู้สึกว่ามันดีเราก็เก็บไว้ อันไหนที่รู้สึกว่ามันพลาดเราก็แก้ไข ผมว่ามันคือประสบการณ์ในการทำงานจริงๆ ยิ่งเราทำไปเรื่อยๆ เราก็จะยิ่งปรับตัวเองได้มากขึ้น เหมือนมีกระจกหลายๆบานรอบตัว เพราะเราทำกับหลายๆคน หลายๆที่ก็สะท้อนมาต่างกัน เราก็เลือกเก็บมา เลือกแก้ไข ทำให้ตัวเองดีมากขึ้นในสายตาโดยรวม ด้วยประสบการณ์ด้วยแหละ ด้วยช่วงอายุด้วย ตอนเด็กๆอาจจะไม่ได้สนใจอะไรมากก็เล่นๆง้องแง้งๆ พอโตขึ้นเรามีความตั้งใจ รักในอาชีพ ก็พัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ อาชีพอื่นๆก็ต้องพัฒนาตัวเองเหมือนกันแล้วทำไมอาชีพนักแสดงจะไม่พัฒนา ก็ต้องพัฒนาตัวเองให้มากขึ้นไป ยิ่งงานเยอะยิ่งประสบการณ์เยอะ ยิ่งทำให้เราเก่งขึ้นแน่นอนอยู่แล้วครับ”

“เป็นผลตอบรับเวลาที่มีกระแสมีอะไรออกไป มีรูปมีอะไรปล่อยออกไปจากในกอง ไม่ใช่แค่เรื่องนี้นะ หมายถึงเรื่องอื่นๆด้วย เค้าก็ดีใจ เค้าก็ว้าวไปกับเราว่านิวมาเล่นอันนี้ด้วยนะ อันนี้ก็เป็นเรื่องที่น่าดีใจ ยังมีคนที่สนับสนุนเรา คอยติดตามเรา คอยดูเรา เป็นกำลังใจให้เราอยู่เรื่อยๆ ถ้าเล่นๆไปไม่มีคนดู เราก็ไม่รู้จะเล่นทำไม”

แฟนๆก็เปิดรับเราทุกบทบาทไม่ใช่แค่สายวาย? “ยิ่งเป็นบทบาทที่เหมือนเราได้พัฒนาตัวเอง เค้าก็จะมองว่านิวเก่งขึ้นนะ นิวพัฒนาขึ้นนะ นิว แบบทำแบบนี้ได้ด้วยเนอะ แรกๆเค้าอาจจะชอบตัวละครก็จริง พอมาวันนึงอยู่ไปเรื่อยๆ ตัวละครตัวนั้นมันเก่าอยู่แล้วครับก็ต้องมีตัวละครตัวใหม่ๆเข้ามา คนที่ยังอยู่นิวมองว่าเค้าอาจจะชอบอะไรในตัวเรา ไม่ว่าเราจะอยู่ในตัวละครไหนเค้าก็พร้อมที่จะชอบ พร้อมที่จะคอยลุ้นด้วย หรือบางทีตัวละครใหม่ทำให้เค้ายิ่งชอบมากขึ้น หรือทำให้คนอื่นๆเข้ามาชอบมากขึ้น สำหรับนิวเองที่นิวมองว่าดีนะ เป็นประสบการณ์ที่ดีที่ทำให้เราได้ไปเป็นตัวอื่นๆ เยอะๆ”

ความเป็นนักแสดงอาชีพเข้มข้นอยู่ในตัวเรา? “นิวว่ามันเป็นจุดเทกออฟที่ดี เป็นก้าวเดินที่ดีสำหรับนิว การเดินแต่ละก้าวของนิวตอนนี้รู้สึก ถ้าเหมือนเด็กๆก็คงเหมือนขี่จักรยานสามล้อ แต่ตอนนี้เอาล้อด้านหลังออกแล้ว เริ่มปั่นได้สองล้อแต่อาจจะไม่ได้เร็วนัก ค่อยๆเรียนรู้กันไป”

จุดที่อยากมองเห็นตัวเองในวงการ? “จุดที่ผมคิด ตอนนี้ผมอยากเป็นนักแสดงที่มีคุณภาพ เล่นได้หลากหลายรูปแบบ อยากให้คนอื่นๆมองว่าถ้าทำงานร่วมกับเราก็มั่นใจได้ว่าอย่างน้อยเราก็มีมาตรฐานของเราให้เค้า ส่วนที่เหลือเค้าจะไปดึงศักยภาพเราออกมาเอง”

“ในชีวิตจริงนิวก็จะเป็นคนขี้เล่น ขี้แซว ขี้แกล้ง เป็นคนกวนๆนิดๆ”

หลายคนยกให้เป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์? “อาจจะดูเหมือนแบบน่าหมั่นไส้บางครั้ง บางทีพูดเยอะครับ พูดไปเรื่อย ชอบแซว ชอบแกล้ง ไม่แน่ใจว่าเค้าชอบอะไรในตัวเรานะครับ”

ความขี้เล่นทำให้ถูกมองเจ้าชู้หรือเปล่า? “ก็ไม่น่าเกี่ยวนิวมองว่าอาจจะเป็นแบบ คือไม่รู้นิวรู้สึกว่านิวก็มองแฟนๆ หรือมองคนอื่นๆ ก็เป็นเหมือนเป็นเพื่อนเป็นพี่ อาจจะเข้าถึงง่าย ไม่ได้มองว่าตัวเองเป็นนักแสดงระดับนี้ มีความห่างเข้าไม่ถึง”

ถึงวันนี้ปรับตัวได้มากน้อยขนาดไหนกับการเป็นคนดัง? “นิวก็ชิลล์กับการใช้ชีวิตอยู่แล้ว เวลาออกไปข้างนอกก็ค่อนข้างจะใช้ชีวิตเหมือนเดิม บางอย่างที่อาจต้องรอบคอบมากขึ้น อาจจะเป็นเรื่องคำพูด เพราะบางทีนิวพูดไปโดยที่ไม่ได้คิดอะไรเลยจริงๆ มันคิดได้หลายแง่ คำพูดของคน พูดออกไปหนึ่งคำคนตีความออกมาแทบจะไม่เหมือนกันอยู่แล้ว ก่อนพูดเดี๋ยวนี้ก็คิดมากขึ้น เพราะว่ามันเซนซิทีฟ ยิ่งเรื่องที่เซนซิทีฟก็พยายามจะคิดมากขึ้น เมื่อก่อนพูดกับเพื่อนก็พูดไปได้เลย เรารู้ว่าเพื่อนเราเป็นคนยังไง ถ้าเกิดเป็นคนอีกหมื่นๆแสนๆล้านๆคน เค้าฟังคำพูดเราไป เค้าอาจจะตีความไม่ตรงกับเรา ก็อาจจะต้องคิดมากหน่อย”

ณ วันนี้พอใจกับจุดที่เรายืนมั้ย? “ยังอยากมีความเป็นนักแสดงที่มากกว่านี้ คือทุกวันนี้ก็ทำเต็มที่แล้วนะครับ แต่หมายถึงว่าอยากให้ตัวเองเก่งขึ้นกว่านี้ อยากให้ทุกอย่างทั้งวงการด้วยแหละ ตัวเราเองด้วย อยากให้ทุกอย่างมันถูกยกระดับ อยากให้คนสนับสนุนทั้งวงการไปเลย อยากให้ต่างชาติได้เห็นผลงานของคนไทย เพราะคนไทยจริงๆ ผมมองว่าเก่งนะครับ แต่ อาจจะขาดหลายๆอย่างอยู่ ก็พัฒนากันไปครับ”.

เรื่อง: สุภลัคน์ วุฒิกรีธาชัย