มุกดา ไม่รับตำแหน่งลูกรักช่อง 7 รู้ดีกว่าจะมีวันนี้ต้องพยายามมากแค่ไหน


ให้คะแนน


แชร์

หลายคนที่เป็นแฟนละครของช่อง 7 คงต้องยอมรับในความสามารถและฝีมือของนางเอกสาวสุดฮอต มุกดา นรินทร์รักษ์ อย่างแน่นอน เพราะที่ผ่านมามุกดาได้แสดงให้ทุกคนเห็นแล้วว่าเธอนั้นมีฝีมือมีผลงานละครที่เข้าตาคนดู จะเล่นละครกี่เรื่องเรตติ้งก็พุ่งทะยาน แถมยังสร้างกระแสคู่จิ้นกับพระเอกได้เป็นอย่างดี 

ล่าสุด เพราะละครโซ่เวรีได้ถูกนำกลับรีรันอีกครั้ง วันนี้เราเลยมีโอกาสได้สัมภาษณ์นางเอกสาวคนสวย มุกดา นรินทร์รักษ์ กันอีกครั้ง เพื่ออัปเดตชีวิตและผลงานของเธอ แต่เพราะสถานการณ์โควิดที่ระบาดอยู่เลยทำให้เราต้องรักษาระยะห่างเพื่อความปลอดภัย เราเลยทำได้แค่การวิดีโอคอลเพื่อสัมภาษณ์เท่านั้น 

แม้วันนี้มุกดาจะมีคิวงานแน่นแต่ก็ยังแบ่งเวลามาให้เราพูดคุยกับเธอ ซึ่งต้องบอกว่าการสัมภาษณ์ครั้งนี้แม้จะไม่ได้เจอตัวกันแต่ก็เป็นการพูดคุยที่สนุกสนานไม่น้อยและทำให้เราได้รู้จักนางเอกสาวคนนี้มากขึ้นไปอีก 

และเพราะเวลามีค่ากับเรา เมื่อเซย์ฮัลโหลและทักทายกันพอหอมปากหอมคอแล้ว เราก็เริ่มถามคำถามแรกที่ตอนนี้หลายๆ คนเรียกมุกดาว่าเป็นนางเอกลูกรักของช่อง 7 คนใหม่

เพราะตอนนี้เธอมีผลงานละครอย่างต่อเนื่อง และละครแต่ละเรื่องก็ทำเรตติ้งไว้ได้ดี ซึ่งทำให้มุกดาเป็นนางเอกที่ฮอต งานนี้นางเอกสาวตอบคำถามนี้ของเราว่า 

“เรื่องความฮอตไม่ขนาดนั้นค่ะ ดาราที่ช่องฮอตทุกคน (ยิ้ม) จริงๆ เราก็ละครคนละ 2 เรื่องทุกคนนะ เรื่องปาดหน้าเพื่อนก็ไม่มีนะคะ ผู้ใหญ่ก็ให้งานตามความเหมาะสมของแต่ละคน ถ้าบทมันเข้ากับใครผู้ใหญ่ก็ให้คนๆ นั้นรับเล่นไปค่ะ

เวลาอ่านเจอข่าวแบบนี้ก็ไม่ได้คิดมากอะไร เพราะเรารู้ตัวเองว่าหนูพยายามทำทุกอย่างอย่างตั้งใจเป็นอย่างดีกว่าจะมาถึงทุกวันนี้ เรารู้ตัวดีว่าเราพยายามมากแค่ไหน

เพราะฉะนั้นก็จะไม่เอาเรื่องแบบนี้มาเป็นการกดดันตัวเอง เราก็ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ มาของเราเรื่อยๆ ค่อยๆ ขยับทีละสเตป มุกเจอข่าวแบบนี้มาบ้างเป็นช่วงๆ ค่ะ

ส่วนเรื่องลูกรักของช่อง มุกบอกเลยว่าช่องรักทุกคนค่ะ (ยิ้ม) เอาจริงๆ นะคะถ้าคนที่ติดตามมุกจริงๆ ทุกคนจะรู้ว่ากว่ามุกจะมาอยู่ตรงนี้ได้ มุกใช้เวลา 6-7 ปีเลยนะ เล่นมาทุกบทบาท บทตัวรอง บทคู่สอง

มุกค่อยๆ มาทีละสเตปอยู่แล้ว ถ้ามันถึงจังหวะที่เหมาะสมที่ได้รับโอกาสและบทบาทที่เหมาะที่เล่นได้ ช่องมองเห็นก็จะมอบโอกาสต่างๆ ให้ตามความสามารถของทุกคนค่ะ (ยิ้ม) เพราะฉะนั้นทุกคนมีโอกาสเท่ากันค่ะ”

เมื่อโอกาสได้เป็นนางเอกมาถึง

อยู่มาหลายปีกว่าจะมาถึงจุดนี้ สำหรับมุกคิดว่ามันช้าไปมั้ย ซึ่งเราได้รับคำตอบจากปากของนางเอกสาวถึงเรื่องนี้ว่า 

“สำหรับมุกมันไม่เร็วไปหรือช้าไปนะคะ เพราะถ้ามุกไม่ได้ลองบทแบบนั้น ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป มุกคงไม่เข้าใจการแสดงละครว่าจะต้องเล่นยังไง จะต้องทำยังไง ต้องพัฒนาตรงไหน ต้องแก้ตรงไหน

การที่เราได้ลองบทบาทเริ่มจากการเป็นคู่สอง บทบาทยังไม่ได้เยอะมาก ตอนแรกๆ ที่ได้รับโอกาสมุกยังต้องมีอะไรที่ต้องแก้ไขเยอะค่ะ ทั้งเรื่องการพูด เรื่องแอ็กติ้ง คือมุกได้เห็นตัวเอง และได้เห็นรุ่นพี่เขาทำงานกันอย่างไร ได้เรียนรู้ระหว่างทาง

มันเป็นอะไรที่ดีมากๆ ทำให้เราค่อยๆ โตขึ้นทีละก้าวที่ละสเตป พอถึงจังหวะและเวลาที่เหมาะสมเราก็จะได้รับโอกาสให้พิสูจน์ตัวเองและแสดงความสามารถมากขึ้น”

ในวันที่มุกดาได้ขึ้นเป็นนางเอกละครเรื่องแรก ยังจำความรู้สึกตัวเองตอนนั้นได้มั้ยว่ารู้สึกอย่างไร กดดัน ตื่นเต้น หรือว่าเครียด งานนี้มุกดาถึงกับหัวเราะก่อนจะเล่าความทรงจำในวันวานของตัวเองให้เราฟัง

“ตอนนั้นมุกเครียดมาก (ลากเสียง) ตอนนั้นมุกได้เป็นนางเอกละครเรื่องมัสยาครั้งแรก ตอนนั้นคือถ้าเล่นไม่ได้ก็มีโอกาสถูกเปลี่ยนตัว (ยิ้ม)

ทุกคนต้องมีความเครียดนี้ ถ้าเล่นไม่ได้ก็ต้องพร้อมยอมรับนะ ก็ต้องพยายามและตั้งใจทำให้ดีที่สุด ตอนเล่นละครเรื่องนั้น มุกได้รับคำสอนมาเยอะมาก ต้องวิ่งมาดูมอนิเตอร์ทุกฉากว่าตัวเองเล่นเป็นอย่างไร

พี่เขาจะสอนจิ้มให้ดูเลยว่าเห็นตัวเองเล่นมั้ย มีการเรียนรู้ตลอด ไม่ใช่ว่ามุกได้โอกาสมาง่ายๆ แล้วอยู่ดีๆ แล้วได้ เพราะมุกผ่านอะไรมาเยอะมาก ทั้งเล่นได้ เล่นไม่ได้ ผ่านเรื่องราวมากมายเยอะแยะไปหมด (หัวเราะ)”

แล้วตอนนี้มุกดากดดันขึ้นกว่าเดิมมั้ย เพราะตอนนี้กลายเป็นนางเอกละครเรตติ้งดี เล่นละครเรื่องไหนๆ ก็ปัง มีกระแสดีตลอด 

“มุกไม่ได้กดดันตัวเอง แต่วางตัวเองเอาไว้ว่าไม่ว่าจะได้บทบาทไหน เล่นเป็นอะไรก็ต้องทำให้ดีให้เต็มที่ที่สุดก็พอ ถ้าคนดูดูแล้วชอบ มุกจบเลย (ยิ้ม)

มุกจะไม่แบกความกดดันเอาไว้ ถ้ามุกแบกเรื่องเรตติ้งไว้กับตัวเอง มุกต้องตายแน่ๆ (หัวเราะ) มุกแค่หวังให้คนชื่นชอบละครที่มุกเล่นก็พอค่ะ (ยิ้ม)”

นางเอกเคมีสาธารณะ 

และอีกเรื่องที่ต้องยกให้กับเธอคนนี้คือความมีเคมีสาธารณะ เล่นละครประกบคู่กับพระเอกคนไหน ก็จะถูกแฟนๆ จับจิ้นอยู่เสมอ เมื่อถูกถามถึงเรื่องนี้ มุกดาหัวเราะและบอกความรู้สึกที่ตั้งฉายานี้ให้ว่า 

“มุกไม่รู้จริงๆ ว่าเล่นกับใครแล้วทำไมคนถึงจิ้น (ยิ้ม) แต่มุกก็ขอบคุณทุกคนมากๆ ที่ให้การสนับสนุนมุกไม่ว่าจะเล่นกับใคร แต่มุกจะบอกแฟนคลับเสมอว่าเวลาที่มุกเล่นละครกับใครมุกจะเต็มที่ อยากให้ทุกคนช่วยสนับสนุนในทุกๆ คู่ที่มุกเล่น

เพราะมุกยังต้องทำงานนี้ไปอีกนาน ไม่ว่าจะเจอใครก็อยากจะเล่นกับทุกคนได้ ไม่อยากให้ทุกคนมายึดติดว่าจะต้องเล่นแต่กับพระเอกคนนี้เท่านั้น มุกอย่างให้แฟนๆ คอยติดตามผลงานของมุกในทุกเรื่องและกับพระเอกทุกคนเลย”

นางเอกโลกส่วนตัวสูง 

จากนั้น เราได้ถาม มุกดา นรินทร์รักษ์ ต่อว่า จากการเป็นนักแสดงตัวรอง พอมาเป็นนางเอกชีวิตเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหน งานนี้มุกดายิ้มและเล่าถึงสิ่งที่เธอจะต้องปรับปรุงตัวเองอย่างมากให้เราฟังว่า 

“พอมาเป็นนางเอกมันก็ต้องมีสิ่งที่มุกต้องเปลี่ยนไปบ้าง เพราะจะต้องดูแลภาพลักษณ์บางอย่าง เพราะบางทีมุกจะทำตัวสุดโต่งมากเกินไปไม่ได้ในบางเรื่อง

เช่นเรื่องของความเงียบของมุกเอง (หัวเราะ) มุกเงียบจนทุกคนต้องตกใจได้เลย (ยิ้ม) เรื่องนี้มุกต้องปรับตัวเองเยอะมากเลย เพราะปกติมุกเป็นคนไม่ค่อยพูดเลย มีปฏิสัมพันธ์กับคนน้อยมาก เพราะมุกเป็นคนเงียบและพูดไม่เก่งเลย

ช่วงที่ไปทำงานที่ญี่ปุ่นค่อนข้างอยู่กับตัวเองเยอะมาก ทำงานอย่างเดียวค่อนข้างโตด้วยตัวเอง พอกลับมาไทยการอยู่ร่วมกันเจอใคร เจอคนเยอะๆ ก็เป็นอะไรที่มุกไม่ถนัดเลย

และมุกก็ไม่กล้าที่จะคุยกับใครก่อนด้วย และเป็นคนที่หน้านิ่งมากๆ อยู่นิ่งๆ ก็หน้าเหวี่ยงได้แล้ว ซึ่งยากมันก็เลยต้องปรับทุกอย่างให้มันซอฟต์ลงมา แต่นิสัยนั้นไม่ได้หายไปนะคะ มุกก็ยังเป็นคนเงียบ (ยิ้ม) พูดน้อยอยู่ ยิ่งถ้าอยู่บ้านยิ่งไม่คุยเลย เป็นคนเงียบมาก

คือมันเป็นนิสัยส่วนตัว อาจจะเพราะมุกอยู่คนเดียวมากเกินไป พอถึงเวลาต้องปรับตัวมันยากที่จะทำให้คนเข้าใจว่าเราเป็นคนแบบนี้ สำหรับบางคนที่มุกจะได้เจอเขาแค่ครั้งเดียว แว็บเดียวชั่วโมงเดียว แต่มันก็อาจจะทำให้เขารู้ไม่โอเคกับมุกไปเลยก็ได้ ถ้ามุกนิ่งเกินไป ไม่พูดเลย (หัวเราะ)

มุกเคยโดนมาหมดแล้ว ก็เฟลนะจนคิดว่าจะทำให้เขาเข้าใจได้อย่างไรว่ามุกเป็นคนเงียบๆ มุกไม่ได้ไม่ชอบเขา มุกแค่พูดไม่เก่งจริงๆ บางทีไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะต้องเริ่มคุยยังไง

แต่พอเริ่มพยายามพูด พยายามปรับตัวเอง ซึ่งก็ใช้เวลาสักพักนึงค่ะกว่าจะได้ขนาดนั้น มุกเคยทะเลาะกับเพื่อนเพราะเพื่อนบอกว่ามุกหน้าเหวี่ยง (หัวเราะ) แม่ก็ยังพูดเลย แต่ตอนนี้มันก็เริ่มดีขึ้น มุกก็พยายามปรับเท่าที่ตัวเองทำได้”

ข่าวสกัดดาวรุ่ง

เพราะกำลังฮอตเลยเจอกระแสข่าวต่างๆ ค่อนข้างเยอะ ทั้งนางเอกลูกรักคนใหม่ของช่อง ปาดหน้าเพื่อนนางเอกในช่องทำให้มีงานเยอะ เจอกระแสข่าวแบบนี้ มุกดารู้สึกอย่างไร และรับมือกับมันอย่างไร งานนี้มุกดาบอกกับเราว่า  

“มุกรู้ตัวเองอยู่แล้วว่าตัวเองทำเต็มที่แค่ไหน อันไหนที่มุกทำได้หรือไม่ได้ สิ่งที่ทำก็แสดงออกมาให้เห็นอยู่แล้วถ้าคนยอมรับก็จบ

เอาเป็นว่ามุกขอทำงานแล้วให้คนมองเห็นและยอมรับว่าเราทำได้ดีกว่า มุกจะตั้งใจทำงานทุกงาน ทำให้ดีที่สุดจะได้ไม่ต้องมาเสียใจทีหลังว่าทำไมตอนนั้นไม่ทำให้ดีกว่านี้ ทำให้เต็มที่ในแบบของเรา ผลจะออกมาอย่างไร มีคนติชมก็โอเค ถือว่าเราทำเต็มที่แล้ว ถ้ามีอะไรเล็กๆ น้อยมาติก็รับฟังและทำให้มันดีขึ้น”

มุกดาเสียกำลังใจหรือท้อใจบ้างมั้ยเวลาเจอข่าวแบบนี้ หรือเจอคอมเมนต์จากคนอื่นในมุมลบแบบนี้ ซึ่งมุกดาเผยความรู้สึกที่ต้องเจอกับเรื่องแบบนี้ให้ฟังว่า 

“ถ้าคอมเมนต์แรงๆ ก็มีบ้างค่ะ แต่โชคดีที่มุกยังไม่เคยเจออะไรที่มันรุนแรง ก็ยังสามารถทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ เรื่องแรงที่เคยเจอที่สุดสำหรับมุกยังไม่มี เพราะมุกเลือกที่จะไม่อ่านคอมเมนต์เท่าไร

มุกเป็นคนคิดมาก ไม่ใช่ไม่อ่านนะคะแต่เลือกอ่านอะไรที่มันเป็นอย่างที่เขาว่าก็จะแก้ แต่ถ้าอะไรที่มันหลุดโลกไปเลยมุกก็จะไม่สนใจกับเรื่องพวกนี้ ซึ่งมุกก็จะทำแบบนี้ถ้าคอมเมนต์นั้นมันไม่ใช่จริงๆ

จริงๆ มุกเป็นคนที่โลกส่วนตัวค่อนข้างสูง เป็นคนไม่ค่อยคุย เป็นคนที่เงียบมาก ไม่ชอบการที่คนมาด่าเพราะรับไม่ได้ (หัวเราะ) มุกกลัวเรื่องนี้นะ เลยเลือกที่จะไม่ค่อยอ่าน ว่างจากการทำงานก็จะอยู่กับตัวเอง เล่นกับน้องหมาที่บ้าน จะไม่ค่อยเข้าไปเช็กอะไรเท่าไร”

ออกไปเผชิญโลกกว้างตั้งแต่อายุ 15 ปี

เพราะ มุกดา นรินทร์รักษ์ เคยไปทำงานเป็นนางแบบที่ญี่ปุ่นนาน 3 ปีตั้งแต่อายุ 15 ปี และไปคนเดียว เราเลยให้มุกดาเล่าชีวิตในช่วงนั้นกับการเริ่มต้นทำงานที่ต่างประเทศ เมื่อต้องพูดถึงเรื่องนี้ มุกดาเล่าถึงเรื่องวันวานให้เราฟังด้วยรอยยิ้ม

“ตอนนั้นมุกไปเป็นนางแบบแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่น 3 ปี ของเรย์แมกกาซีนญี่ปุ่น ตอนนั้นตื่นเต้นมากอยากไปอยากทำงาน แต่พอไปจริงๆ การทำงานที่นั่นสอนมุกเยอะมาก สอนให้มุกสตรอง สอนให้มุกแข็งแรง สอนให้มุกอยู่ได้

ตอนที่ไปญี่ปุ่นมุกทำอะไรไม่เป็นเลย ซักผ้า หุงข้าว และวิธีการทำงานจริงๆ มุกไม่รู้เลย ปกติตอนอยู่ที่ไทยจะมีพี่ๆ คอยดูและและช่วยพาไปทำงาน แต่พอไปอยู่ที่ญี่ปุ่น มุกต้องดูและตัวเอง

ซึ่งในตอนนั้นมุกก็อายุแค่ 15 ปีเอง มันเหนื่อยมาก และสอนอะไรมุกเยอะมาก ว่าจะต้องวางตัวยังไง ทำงานยังไง พยายามพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลาสำหรับการทำงานกับคนญี่ปุ่น

แต่แม้จะเหนื่อยจะยากแค่ไหน แต่มุกไม่เคยร้องไห้อยากจะกลับบ้านเลย เพราะมุกเป็นคนโลกส่วนตัวสูงเพราะฉะนั้นการอยู่คนเดียวของมุกเป็นเรื่องธรรมดา (หัวเราะ) แม่ถามนะคะว่าคิดถึงบ้านมั้ย ซึ่งมุกคิดถึง แต่ไม่ร้องไห้นะ เพราะตอนอยู่ที่ไทยก็โลกส่วนตัวสูงอยู่แล้ว

พอไปอยู่ที่ญี่ปุ่นคนเดียวล้วนๆ มีแค่เมเนเจอร์คนญี่ปุ่นที่ต้องคุยกันเรื่องงาน ส่วนเพื่อนไม่ได้มีเยอะเลย 3 ปีที่ไปอยู่ที่ญี่ปุ่นพูดกับคนไทยน้อยมาก ทำงานที่นู่นก็คิดแต่ว่าจะต้องโดนท่ายังไง เปิดหนังสือดูว่าเค้าโพสกันท่าไหน

ตอนอยู่ที่ญี่ปุ่นมุกก็มีงานเรื่อยๆ ค่ะ มุกก็จะไปแคสต์งาน ไปทำงาน และการทำงานที่ญี่ปุ่นมันไม่ได้ง่าย นางแบบเยอะมาก นางแบบคนทั่วโลกไปรวมกันอยู่ที่ญี่ปุ่น เวลาไปแคสต์งานก็จะมีคนไป 50-100 คน เป็นอะไรที่เปิดโลกให้มุกมาก

ต้องลุ้นทุกครั้งว่าเราจะได้งานมั้ย ต้องคอยพัฒนาตัวเองเสมอ คนญี่ปุ่นเขาจะมีฟีดแบ็กเรื่องการทำงานตลอด วันนี้ทำงานเป็นอย่างไรบ้าง เขาจะถามคนที่ทำงานแล้วมุกก็จะได้ฟีดแบ็กกลับมาว่าอยากให้พัฒนาตรงนี้ ตรงนั้น

ซึ่งมุกก็จะต้องกลับมาพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ มันจะเป็นอย่างนี้ตลอด ไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆ สักอย่างเลย พอได้ก็ต้องจริงจังกับมัน งานชิ้นใหญ่สุดของมุกคืองานโฆษณา แต่ไม่ได้เป็นตัวเด่นนะคะ ตอนนั้นอายุแค่ 16 ปีเอง เป็นภาพเคลื่อนไหว มุกตื่นเต้นมาก (ยิ้ม) แต่ต้องทำการบ้านเยอะเป็นพิเศษเพราะคนญี่ปุ่นทำงานเยอะเป็นกองใหญ่”

ชีวิตเปลี่ยนเมื่อไปเป็นนางแบบที่ญี่ปุ่น

จากนั้น มุกดา ก็เล่าต่อว่า การที่เธอไปทำงานอยู่ที่ญี่ปุ่นตั้งแต่อายุยังน้อยนั้น การตัดสินใจไปญี่ปุ่นในครั้งนั้นทำให้เธอโตขึ้น จัดระเบียบชีวิตตัวเองได้เป็นอย่างดี 

“มุกไปอยู่ญี่ปุ่นตั้งแต่ทำอะไรไม่เป็นเลยจนทำเองได้ทั้งหุงข้าว ซักผ้า จัดระบบชีวิตตัวเอง คุมเงิน ก็ได้จากตอนที่ไปทำงานที่ญี่ปุ่น เพราะต้องดูแลตัวเองตั้งแต่อายุ 15 เลยทำให้มุกเป็นคนที่ซีเรียสและเครียดกับทุกๆ เรื่อง

ช่วงแรกที่กลับมาคือจริงจังไปหมด ติดการทำงานจากที่ญี่ปุ่นมา ทำไมไม่ใช่เวลาที่บอกไว้ และคนญี่ปุ่นเขาทำงานเร็วมากๆ เสร็จก่อนเวลาทุกครั้ง เขาจะไม่ปล่อยให้เวลาสูญเปล่า ช่วงแรกๆ มุกก็จะติดแบบนี้แต่ตอนนี้มุกลดลงทุกอย่างแล้ว

และต้องบอกว่าในช่วง 3 ปีที่ไปอยู่ญี่ปุ่นชีวิตเปลี่ยนไปเยอะเพราะมันบังคับทำให้เราต้องอยู่กับมันให้ได้ ไปอยู่ที่นั่นมุกก็อยู่กับเพื่อนนางแบบจีนและบราซิล ก็ต้องดูแลตัวเอง ซึ่งนางแบบทุกคนก็เป็นแบบนี้ แต่มันก็ทำให้เราโตขึ้นและเข้าใจอะไรมากขึ้น ภาวะกดดันก็เยอะซึ่งก็ต้องรับให้ได้เพราะว่าเราไปทำงาน

เวลาไปแคสต์งานแล้วไม่ได้งาน มุกไม่เสียใจเลย เพราะการที่ได้ไปอยู่ญี่ปุ่นมันทำให้มุกรู้ว่าคนบนโลกนี้มันเยอะมากเลย และทุกคนเก่ง แต่ละคนมีความเก่งไม่เหมือนกัน

งานแรกที่มุกไปถ่าย มุกทึ่งในตัวคนญี่ปุ่นมาก เขาโพสท่าได้เก่งมาก เขาสวย โพสท่าเก่งและทำอะไรได้เยอะมาก มุกยืนมองเขาแบบทึ่ง เพราะตัวเองโพสไม่เก่งเลย (หัวเราะ) อึ้งเขาทำได้ยังไง ทำให้มุกไม่กล้าไปยืนตรงนั้นเลย เพราะคิดว่าตัวเองจะทำได้มั้ย

ตั้งแต่นั้นเลยทำให้มุกรู้สึกไม่กลัวและไม่เครียด เพราะถ้ามุกไม่พร้อมก็จะให้คนอื่นได้ไปก่อน ถ้าตัวเองพร้อม โพสท่าได้มุกถึงจะไป

ส่วนการทำงานที่ญี่ปุ่น มุกจะได้ถ่ายเรย์ทุกๆ เดือนอยู่แล้ว แต่งานอื่นจะต้องไปแคสต์ กว่าจะได้งานแรกที่ไม่ใช่ถ่ายแบบประจำก็ 2-3 เดือนอยู่ รายได้ก็แล้วแต่งาน ถ้าเป็นงานโฆษณาหน่อยรายได้จะดีหน่อย ถ่ายแบบก็ทั่วไปแต่ก็เยอะกว่าที่บ้านเรา (ยิ้ม)”

โซ่เวรีละครรีรัน

และตอนนี้ มุกดา นรินทร์รักษ์ กำลังจะมีผลงานละครให้แฟนๆ ได้ชมกันอีกครั้ง กับละครเรื่อง โซ่เวรี ที่ถูกนำเอามารีรันอีกครั้งเป็นละครหลังข่าวในช่วงสถานการณ์โควิดระบาด ที่ทำให้กองละครต้องหยุดถ่ายทำไป งานนี้สาวมุกดาบอกถึงความรู้สึกที่ละครของเธอจะถูกนำมารีรันอีกครั้งให้ฟังว่า 

“พอรู้ว่าละครจะได้เอากลับมารีรันมุกก็ตื่นเต้นค่ะ แฟนๆ ก็คิดถึง ก็คอมเมนต์กันมาเยอะมากๆ ก็ตื่นเต้นไปด้วยค่ะ มีแท็ก พอไปอ่านก็รู้สึกดี ทำให้กลับมามีความรู้สึกตื่นเต้นเหมือนตอนละครจะออนครั้งแรกอีกครั้ง แต่จะความฟินก็คงจะฟินกันเหมือนเดิมค่ะ

แอบกดดันเรตติ้งละครรีรันมั้ย เพราะละครรีรันบางเรื่องก็ทำเรตติ้งได้สูง และละครของเราตอนออกอากาศครั้งแรกเรตติ้งก็สูงมาก พอมารีรันคนก็จะคาดหวังว่าจะต้องเรตติ้งสูงอีกครั้ง เพราะตอนนี้กระแสคู่จิ้นเข้มมุกดาก็เริ่มจางๆ หายไป ซึ่งมุกดาตอบว่า 

“จริงๆ ไม่ได้กดดันอะไรมาก แต่ก็หวังให้เรตติ้งดี แต่ก็คงไม่ได้คาดหวังว่าจะสูงเท่าตอนแรก แค่แฟน กลับมาดูละครก็โอเคแล้วค่ะ แต่ถ้าเรตติ้งสูงก็ดีใจค่ะ และเรื่องโซ่เวรีก็เป็นละครรีรัน และแฟน เคยดูมาแล้ว 1 รอบเชื่อว่าแฟนๆ ก็ยังสนุกกับเรื่องนี้ได้อีก”

นอกจากโซ่เวรีจะได้รับกระแสการตอบรับที่ดีจากแฟนๆ ในประเทศไทยแล้ว งานนี้ยังได้ไปออนที่จีนกระแสตอบรับดีมากๆ ด้วย มุกดารู้สึกอย่างไรบ้าง

“ที่จีนกระแสตอบรับดีมาก มุกไม่แน่ใจว่าอยู่อันดับที่เท่าไรแต่คนเข้ามาดูเยอะเหมือนกัน มุกก็ดีใจที่ละครได้ไปออนแอร์ที่จีน อย่างน้อยก็ได้มีฐานแฟนคลับที่จีนเพิ่มขึ้นด้วยก็ดีใจมากๆ แฟนคลับจีนน่ารักมากนะคะ เขาพูดภาษาไทยได้ เขาเก่งภาษาไทยมาก”

และนอกจากโซ่เวรียังมีละครอีกที่จะให้แฟนๆ รอติดตามหรือไม่ งานนี้นางเอกสาว มุกดา นรินทร์รักษ์ รีบบอกกับแฟนๆ พร้อมกับแอบอ้อนฝากละครเรื่องโซ่เวรีว่า 

“มุกมีละครเรื่องเขยบ้านไร่สะใภ้ไฮโซค่ะ เรื่องนี่จะกลับไปเล่นกับเข้ม หันสวีร์ อีกครั้งนึง แต่ว่าเรื่องนี้จะเป็นคาแรกเตอร์คนละแบบกับเรื่องโซ่เวรีเลย ก็จะเป็นคอมเมดี้จ๋า และมีเรื่องบ่วงวิมาลา เป็นรับเชิญจากโซ่เวรีที่เป็นภาคต่อกันค่ะ

และสุดท้ายนี้มุกขอฝากให้แฟนๆ ติดตามละครโซ่เวรีกลับมาออนแอร์อีกครั้ง ฝากแฟนทุกคนที่เคยดูแล้วก็กลับมาดูอีกครั้ง ใครที่ยังไม่ได้ดูก็มาสนุกไปด้วยกันอีกครั้งนะคะ มุกฝากโซ่เวรีรีรันอีกครั้งกับทุกคนด้วยนะคะ”.

ผู้เขียน : จันทร์เจ้าขา

กราฟิก : Varanya Phae-araya

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2216405
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2216405