‘ชมพู ฟรุตตี้’ เล่าถึงเพลงสุดท้าย ‘อ๊อด คีรีบูน’ คอนเสิร์ตที่อยากทำ-แต่ไม่ได้ทำ


ให้คะแนน


แชร์

‘ชมพู ฟรุตตี้’ เล่าถึงเพลงสุดท้าย ‘อ๊อด คีรีบูน’ คอนเสิร์ตที่อยากทำ-แต่ไม่ได้ทำ ปิง-เท่ห์ บอกถึงเพื่อนที่ลาจากเป็นครั้งสุดท้าย

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

วันที่ 17 ต.ค.64 ที่วัดเขมาภิรตารามราชวรวิหาร สถานที่บำเพ็ญกุศศสวดอภิธรรมศพ นายรณชัย ถมยาปริวัฒน์ หรืออ๊อด คีรีบูน นักร้องชื่อดัง ที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง หลังเสร็จพิธีรดน้ำศพ เพื่อนสนิทอย่าง เท่ห์ อุเทน พรหมมินทร์, ปิง กัณพล ปรีดามาโนช หรือ ปิง ฟรุตตี้, ชมพู สุทธิพงษ์ วัฒนจัง หรือ ชมพู ฟรุตตี้ เปิดใจกับสื่อมวลชน หลังสูญเสียเพื่อนรักอย่างไม่มีวันกลับ

ชมพู “ตกใจมากกว่า คือทราบว่าเขาป่วยมานานแล้ว แต่ว่าพวกเราก็ทำตามที่อ๊อดเขาขอไว้ ไม่อยากให้เรากังวล เราก็เลยไม่ได้บอกใคร แต่ช่วงหลัง ที่เขาเริ่มทรุดลง เป็นเพราะโควิดด้วย เราก็ไม่ได้เจอกัน ก็ไม่ทราบว่าอาการเขาถึงขนาดไหน พอเมื่อวานทราบก็ตกใจ เพราะจริงๆ คิดว่าเขาเคยหายจากอาการไปรอบหนึ่งแล้ว คิดว่ารอบนี้ก็น่าจะรักษาได้ ก็ปุบปับเหมือนกัน ตกใจ”

ปิง “นิสัยอ๊อดเขาจะค่อนข้างเป็นคนเกรงใจแฟนคลับมาก แล้วก็ไม่ชอบเลยที่จะให้คนมาต้องวิตกกังวลกับเรื่องของเขา วันที่เรารู้ก็เกิดจากการที่เราคุยกันสนุกสนานเฮฮาบนรถด้วยซ้ำ แล้วอยู่ๆ อ๊อดก็บอกขึ้นมาว่า เขากำลังรักษาเนื้อร้าย เอาฟิล์มเอกซเรย์ให้เราดูด้วย”

ชมพู “อันนี้ผมแก้ข่าวนิดนึง เริ่มต้นเป็นที่ปอด แล้วลามไปกระดูก ตอนที่คุยกันก็คือเราไปร้องเพลงด้วยกันที่เชียงราย เมื่อสักปี 61 แล้วอ๊อดก็เล่าให้ฟังว่าเป็น แล้วก็หายแล้ว แล้วก็เอาฟิล์มเอกซเรย์ให้ดู ซึ่งตอนนั้นเนี่ย อาการก็ไปขั้น 4 เหมือนกัน แล้วกลับมาอีกทีตอนปี 62 ตอนที่เราไปอัดรายการกิ๊กดู๋ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เริ่มกลับมา แล้วมาที่สมอง แล้วเริ่มมีอาการที่ทำให้อ๊อดเนี่ย เหมือนกับว่าสนุกสนานผิดไปจากที่เขาเคยเป็น รอบหลังเนี่ย จริงๆ เท่ห์ก็เป็นอีกคนที่รู้ เพราะเพื่อนของเขาเป็นหมอที่ดูแลอาการอ๊อดเลยในช่วงหลังเนี่ยนะครับ ก็อย่างที่บอกว่าอาการเขาทรุดลง แต่ว่าในช่วง 3-4 เดือนหลังเราไม่ทราบข่าว”

เท่ห์ “ก็จริงๆ เหมือนกันครับ ก็ทราบกันหมดทุกคน ว่าทางพี่เอ้ก (ภรรยาอ๊อด) แล้วก็พี่อ๊อด เขาต้องการให้เป็นเรื่องส่วนตัว เป็นความลับ พวกเราก็เลยรู้กันแค่วงในไม่กี่คน เผอิญว่าตอนนั้นมางานของคุณพ่อพี่เอ้ก แล้วก็เห็นว่าพี่อ๊อดผอมลงไปเยอะ ก็เลยคุยกัน แล้วมีเพื่อนที่เป็นแพทย์ทางสมุนไพร แม่มดกัญชา ดร.แก้มหอม เป็นเพื่อนรักเท่ห์ ก็เลยให้เบอร์พี่เอ้ก โทรศัพท์คุยกันกับทางสามีของแก้มหอม แล้วก็ให้รักษาตามขั้นตอนอีกแบบหนึ่ง มันก็อย่างว่าครับ ต้องเอาทุกทางให้หายให้ได้ กำลังใจตอนรักษา พี่อ๊อดเขาก็เข้มแข็งนะ แกพูดกับพี่เอ้กว่าแกจะไม่ตาย แกยังมีโรงเรียนที่ต้องดูแลอีกเยอะ แกตั้งความหวังไว้เยอะครับ”

แอบเสียดายไหม ที่ไม่ได้คุยกับเพื่อนตอนสุดท้าย?
ชมพู “เสียดายมาก คือเมื่อวานพอรู้ บอกตรงๆ ยังเหมือนโกรธว่าทำไม คือถามเอ้กเลยว่า ถึงขนาดนี้แล้วทำไมไม่บอกกันบ้าง เพื่อนสนิทหลายคน อย่างน้อยก็ไปให้กำลังใจ หรือไปดูใจ แต่ว่าก็ได้ฟังอย่างที่เอ้กเขาบอก คือว่าอ๊อดเองก็จำเป็นจะต้องการความสงบ ถ้ามีใครมาเยี่ยมมาอะไรมากๆ ในช่วงหลัง ก็อาจจะยิ่งทรุดไป อันนี้ก็เรื่องหนึ่ง แต่อีกเรื่องอันนี้เขาเคยพูดเองกับผม บอกว่าเกรงใจ เขารู้ว่าถ้าใครรู้ว่าเขาไม่สบายเนี่ย ทุกคนก็อยากจะมาเยี่ยม แล้วก็อาจจะเป็นภาระ เพราะว่าช่วงนี้โควิดด้วย ก็มีข้อกังวลหลายอย่าง ฟังแล้วก็เข้าใจ แต่จริงๆ อยากจะบอกว่า เมื่อต้นปีนี้เองที่เพิ่งเจอ แล้วตอนนั้นอาการอ๊อดดีขึ้นมาก จากที่เท่ห์บอกว่างานศพคุณพ่อเอ้ก ต้นปีนี้เพิ่งเจอกันที่บ้านผู้ใหญ่คนหนึ่ง กินข้าวด้วยกัน แล้วก็ถามอาการว่าเป็นไง อ๊อดก็ดีขึ้นมาก เหมือนไม่ป่วย ก็ถึงยังได้สบายใจ ว่าคงไม่เป็นไร เพราะว่าปี 62 ที่บอกว่ามันกลับมาเนี่ย จนปี 64 ต้นปีเนี่ย เขาดีมากๆ เลย อ๊อดก็บอกว่าไม่ต้องบอกใครนะ ไม่อยากให้ใครกังวล ถึงบอกว่าพอเห็นว่าเขาอาการดีขึ้นมาก เราก็คิดว่าเขาจะหายด้วยซ้ำ พอรู้ว่าเขาเสียเนี่ย พูดไม่ถูก คิดถึงเพื่อน เพื่อนทำอะไรได้อีกเยอะ”

มีอะไรที่ยังไม่ได้บอกได้กล่าวกันไหม
ปิง “เยอะนะผมว่า”

ชมพู “คือถ้าโดยวาจาเนี่ยอาจจะยังมี แต่ถ้าโดยใจเนี่ย คือเราเคยคุยกันไปแล้วอะ ว่าตอนที่เขาป่วยเนี่ย วันที่พี่ปิงเล่าให้ฟังว่า เราไปร้องเพลงด้วยกันที่เชียงรายนะครับ แล้วก็อ๊อดเป็นคนเล่าให้ฟังเอง ซึ่งก่อนนั้นเนี่ยเราไม่รู้ ตอนที่เขาเป็นครั้งแรกแล้วก็หายเนี่ย เราไม่รู้นะครับ เขามาเล่าให้ฟัง หลังจากที่หายแล้ว ถึงบอกเพื่อนสนิทขนาดนี้เขายังไม่บอก คือเขาไม่ได้อยากให้ใครมากังวลด้วย หายแล้วเขาถึงได้บอก เพราะเราจะได้ไม่กังวล ก็เอาฟิล์มเอกซเรย์ให้ดู แล้วบอกกระดูกมันดำไปหมดเลย มันเข้ากระดูกไปแล้ว เริ่มจากปอดลามไปที่กระดูก แล้วรักษาจนหาย เราถึงบอกว่า เออเนอะชีวิตบางทีเหมือนจะไม่รอดก็รอด บางทีเหมือนน่าจะรอดก็ต้องจากไป ไม่มีอะไรแน่นอนจริงๆ ถึงบอกว่าถ้าโดยทางใจเคยคุยกันไปแล้ว เชื่อว่าอ๊อดรับรู้ได้ว่า เพื่อนทั้งหมดของอ๊อด หรือแม้กระทั่งแฟนเพลง คิดยังไงรู้สึกยังไงกับอ๊อด ห่วงใยอ๊อดขนาดไหน แต่อย่างที่บอกเขาเลือกของเขาเองครับ ว่าเขาไม่อยากให้รบกวนใคร เราก็เลยปิด ไม่ได้ไปบอกให้ใครทราบ”

เมื่อกี้บอกอะไรกับเขาไหม?
ชมพู “ก็บอกว่าไปให้สงบนะ โรงเรียนของเขาก็มีลูกมาดูแลแล้ว แล้วก็คิดถึงครับ”

ปิง “ก็บอกเขาว่าไปสู่สุคตินะ เรื่องบนโลกก็ไม่ต้องเป็นห่วงอะไร สักวันหนึ่งเดี๋ยวก็จะไปหากันเอง (ยิ้ม)”

เท่ห์ “ก็บอกให้พี่อ๊อดเดินทางปลอดภัย ตามสไตล์ครับ ก็ไม่ได้มีอะไรติดค้าง เพราะก็ถือว่าช่วยแกเต็มที่แล้ว ผมก็อยากให้แกหาย เพื่อนผมที่รักษาให้พี่อ๊อด นี่คือภาวนากับผม ว่าเขาไม่คิดไม่เอาเงินพี่อ๊อดแม้แต่บาทเดียว วันนี้เขาก็ทำจริงๆ ก็ต้องขอบคุณแม่มดกัญชานะครับ ดร.แก้มหอม แล้วก็พี่อ๋องสามีเขา ที่ดูแลพี่อ๊อดอย่างดี ส่งทีมงานมาดูแลตลอด เป็นสิ่งที่อย่างน้อยเท่ห์ก็ดีใจ ที่ได้มีส่วนดูแลพี่ชายครับ”

จะมีทำโครงการคอนเสิร์ตอะไรด้วยกันไหม ก่อนหน้านี้หรือหลังจากนี้?
ชมพู “คือเคยคิดไว้แล้ว เคยคิดทำแล้วด้วย ยังดีที่เราได้จัดคอนเสิร์ตรวมดาว 18 กะรัต ไปครั้งหนึ่งแล้ว เมื่อปี 61 แต่จริงๆ เราเคยแต่งเพลงไว้กับพี่อ๊อด แล้วก็จะทำคอนเสิร์ตกับ JSL เหมือนกัน แต่ว่าก็ยังไม่ได้ทำ เรา 3 คนก็ไปร้องอัดเสียงไว้แล้วด้วย ชื่อเพลง “ที่ข้างๆ ยังว่างไว้รอเธอ” ก็ที่ข้างๆ เราก็ยังว่างไว้รออ๊อดอยู่ (ยิ้ม) ก็คิดว่าจะทำ คงไม่ได้ทำแล้วล่ะครับ แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะอ๊อดทำอะไรไว้เยอะแล้ว ไม้ต้องเสียดาย สิ่งที่เขาทำไว้ มันมากพอที่จะทำให้เราคิดถึงเขาไปได้ตลอดชีวิต จะทำยังไงกับเพลงนี้ต่อ ก็ยังคิดไม่ออกครับ ไม่แน่ใจ แต่ก็คิดว่าอาจจะเอามาให้คนที่คิดถึงอ๊อดได้ฟังกัน เพราะเราก็มีเสียงอ๊อดแล้ว”

ก่อนหน้านี้มีลางสังหรณ์ไหม?
ชมพู “ไม่มีนะ จริงๆ มีแต่ความหวังว่าอ๊อดจะหาย อย่างที่บอกเมื่อต้นปีที่ได้เจอ คือเหมือนหายแล้วด้วยซ้ำ ยังบอกว่า เฮ้ย…เจ๋งวะ ดีใจ กินข้าวกัน แล้วหลังจากนั้นโควิดมันก็มาอีก ก็ไม่ได้โทรศัพท์คุยกับอ๊อด ก็คุยกับเอ้ก คุยทางไลน์มั่ง โทรศัพท์หามั่ง ถามเป็นระยะ ซึ่งเอ้กก็จะบอกว่า อ๋อ…ไม่เป็นไร เพราะว่าพี่อ๊อดสั่งไว้ อันนี้คือเขามาบอกตอนหลัง ว่าอ๊อดสั่งไว้ เราก็เลยได้รับข้อมูลแค่นั้น”

5 ธันวาคมปีที่แล้ว ที่ขึ้นคอนเสิร์ต “หนึ่ง จักวาร” คือมีอาการป่วยแล้ว?
ชมพู “นั้นแหละคือช่วงที่ใกล้ๆ ที่เราเจอเขา คือลามมาแล้ว แล้วดีขึ้นแล้ว ไม่งั้นคงขึ้นคอนเสิร์ตไม่ไหว ดีขึ้นแล้ว แล้วตอนช่วงหลังนั้นแหละ ที่มันกลับมาอีก ร่างกายเขาคงจะรับไม่ไหวแล้ว เพราะมันเริ่มจากปอด ลามไปกระดูก แล้วมาสมอง แปลว่าอวัยวะส่วนใหญ่ มันค่อยข้างจะบอบช้ำ พลังชีวิตคงลดลงๆ เรื่อยๆ ครับ”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6681795
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6681795