อิงอิง ปิดฉากข่าว ‘เป๊ก’ มูฟออนมีแฟนใหม่ จริงไหมเลือกแฟนสายเปย์?


ให้คะแนน


แชร์

อิงอิง ปิดฉากข่าว ‘เป๊ก’ มูฟออนมีแฟนใหม่ จริงไหมเลือกแฟนสายเปย์?

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

อิงอิง ปิดฉากข่าว – มูฟออน มีแฟนใหม่ สยบดราม่าข่าวเม้าธ์รักครั้งเก่า สำหรับเน็ตไอดอลสาว อิงอิง อิงณภัสร์ ได้ออกมาเปิดใจกับข่าวสดออนไลน์ ถึงรักครั้งใหม่ หนุ่มรุ่นพี่นอกวงการ ที่คบกันได้เพียง 6 เดือน พร้อมเผยสเป๊กเลือกหนุ่มสายเปย์ กระเป๋าหนักจริงหรือไม่ และการเปิดตัวครั้งนี้จะเป็นเพราะอยากลบภาพข่าวฉาว?!

นอกจากนี้ อิงอิง ยังได้เปิดอกถึงเรื่องที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า รวมถึงเรื่องที่ถูกปิดกั้นโอกาสการทำงานในวงการบันเทิง ในช่วงที่เรียนจบหมาดๆ หลังมีข่าวเม้าธ์ซุบซิบ

ได้ยินว่ามีแฟนใหม่แล้ว หลายคนอยากรู้ว่าเป็นใคร? “เป็นเพื่อนของรุ่นพี่ค่ะ”

เล่าโมเมนต์ตอนเขามาขอเป็นแฟน? “เขาก็มาขอตรงๆเลยนะ ทุกครั้งที่เจอหน้าเขา เขาก็จะขอตลอดเลย เป็นแฟนพี่ไหมอย่างนี้”

เป็นหนุ่มนอกวงการ? “เป็นคนนอกวงการค่ะ คุยกันมาประมาณ 6 เดือนได้”

หลายคนสงสัยว่าอิงอิงสเป๊กสูงหรือเปล่า คนที่มาเป็นแฟนต้องเป็นสายเปย์ไหม? “คือที่อิงชอบเขาเนี่ย เขาเป็นคนที่มีนิสัยค่อนข้างเหมือนอิง คือเป็นคนที่ตรงไปตรงมา เรามีอะไรเราก็จะพูดกันด้วยเหตุผล คุยกันตรงๆ เลยอะไรที่เธอไม่ชอบฉันรับได้ไหม อะไรที่ฉันไม่ชอบ เธอรับได้ไหม เราก็หาจุดกึ่งกลางซึ่งกันและกัน อีกอย่างหนึ่ง อิงเป็นคนที่เวลามองคนจะมองที่พื้นเพ พื้นฐานจิตใจเขา

ซึ่งอิงมองว่าเขาเป็นคนที่มีจิตใจดี ตรงนี้เป็นสิ่งสำคัญมาก เราก็เลยโอเคกับตรงนี้ ส่วนเรื่องสเป๊กสูงมั้ย บอกตรงๆ ก็สูง แต่สูงในที่นี้คือเหมือนด้วยความที่เราผ่านอะไรมาเยอะ เจอคนมาหลายรูปแบบ มันอาจจะเป็นเหมือนกำแพงด้วย แล้วก็เลือกคนที่เข้ามาหาเราในปัจจุบันด้วยว่า ในสิ่งที่เขาเข้ามา เขาเข้ามาในเวย์ไหน เข้ามาเพราะต้องการอะไรจากเรา”

แฟนคนปัจจุบันนี้ ไม่มายด์เรื่องอดีตคนรักเก่าของเรา?นี่คือสิ่งหนึ่งที่เราประทับใจเลย เพราะว่าเขาไม่สนใจเลยว่าสิ่งที่เกิดขึ้น หรืออะไรต่างๆนานา เรื่องจริงแล้วมันเป็นยังไง หรือคนจะชอบ ไม่ชอบเรา เขาไม่ได้มายด์ตรงนี้เลย แต่เขาเลือกที่จะเรียนรู้เรา ทำความรู้จักเราในสิ่งที่เป็นตัวเราจริงๆ เรียนรู้ตัวตนเราจริงๆค่ะ”

คนนี้คาดว่าจะเปิดตัวทางโซเชี่ยลไหม?หนูเองแหละ ที่ไม่พร้อม เพราะว่าก่อนที่เขาจะมาเจอเรา เขาก็จะมีไลฟ์สไตล์ในแบบของเขา ซึ่งด้วยความที่เราเคยมีข่าวเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ แน่นอนว่าถ้าสมมุติเรามูฟออน หรือมีคนใหม่ มันก็ต้องมีคนบางกลุ่มที่ให้ความสนใจตรงนี้ เราไม่รู้ว่ามันจะทำให้เขาอึดอัดไหมกับการใช้ชีวิตของเขา พอเขามาเจอเราปุ๊บ เขาอาจจะต้องเปลี่ยนตัวเอง ชีวิตเขาก็จะไม่เหมือนเดิม

แล้วเราก็ไม่อยากจะไปทรีตเขาว่าพอคุณคบกับเรา คุณต้องเป็นอย่างนี้นะ มันจะกลายเป็นว่าเราไปบังคับเขา เราก็เลยอยากให้เขาเป็นตัวของตัวเอง ใช้ชีวิตแบบเดิม เอาแบบที่เขามีความสุขมากกว่า แล้วส่วนที่ว่าเขาโอเคไหม ถ้าในภายภาคหน้า ถ้าเขาโอเคก็เปิดได้ แต่ว่าถ้าเขารู้สึกว่ามันอึดอัด มันก็อาจจะไม่ได้ไปต่อก็ได้ เราก็ไม่รู้”

คาดหวังกับรักครั้งนี้ยังไงบ้าง? “ถ้าเป็นไปได้นะคะ ก็คาดหวังเยอะแหละ แต่อย่างที่บอกต้องดูอะไรหลายๆอย่างด้วย เราก็ไม่อยากที่จะไปเปลี่ยนแปลงตัวตนใคร หรือว่าอยู่แล้วทำให้เขารู้สึกอึดอัด มันต้องอยู่แล้วเกิดความสบายใจทั้งสองฝ่าย มันถึงจะคบกันได้นาน”

การที่เราออกมาเปิดตัวแฟน เราอยากจะลบภาพ ดราม่าในอดีต? “มันก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่ง คือคนส่วนมาก แม้กระทั่งคนที่รู้จัก ตอนแรกเราก็แอบนอยด์นะ คือทุกคนจะคิดว่ายังมีการติดต่อ(เป๊ก)กันอยู่ ซึ่งความจริงมันไม่ใช่เลย แล้วคนมองเราอย่างนี้ปุ๊บมันทำให้เรารู้สึกว่าเมื่อไหร่คุณจะลบภาพนี้ไปสักที อีกอย่างหนึ่งเราค่อนข้างแคร์ แล้วก็เห็นใจความรู้สึกฝ่ายชายด้วยที่คบปัจจุบันนะว่าถ้าสมมุติคนที่เขามีความคิดแบบนี้

ซึ่งมันอาจจะทำให้เขาเกิดความไม่สบายใจ การที่เรามาพูดตรงนี้ หนึ่งแน่นอนเราชัดเจนว่าเรามีความสัมพันธ์ใหม่ เราจะได้เคลียร์ในจุดๆนั้นด้วยว่ามันจบแล้วนะ คุณอย่าเอาเราไปเกี่ยวแล้ว

หลายคนมองว่าเราเกาะกระแสข่าว เกาะผู้ชายบ้าง จริงๆ แล้วที่ผ่านมาเราทำงานเลี้ยงตัวเองมาตลอด? “จะบอกว่าเราก็ไม่สามารถจะไปเปลี่ยนความคิดใครเขาได้ แล้วเราก็ไม่จำเป็นต้องมานั่งอธิบายว่าตัวจริงฉันเป็นอย่างนี้นะ ในเมื่อคุณยังไม่ได้เลือกที่จะเรียนรู้ หรือเปิดใจทำความรู้จักเราจริงๆเลย เพราะฉะนั้นเราไม่จำเป็นที่จะต้องแคร์ตรงนี้ เอาเป็นว่าเรารู้ก็พอว่าเรื่องจริงมันเป็นยังไง ความจริงมันเป็นยังไง แล้วเราทำอะไรอยู่

ที่ผ่านมาอิงเป็นคนที่คิดมาตั้งแต่เด็กแล้วว่าฉันจะต้องโตไป แล้วฉันจะต้องเป็นคนเก่ง ฉันอยากเป็นนักธุรกิจ คือมีความฝันหลายอย่างมาก แล้วอิงหาเงินเรียนเอง ตั้งแต่ม.4 จากการเริ่มไปแคสต์โฆษณา ทำงานเหล่านี้ เราก็เก็บเงินมาเรื่อยๆ ส่งตัวเองเรียน จนกระทั่งจบ ที่ผ่านมาอิงเป็นคนที่ทำงานเลี้ยงตัวเองมาโดยตลอด

ยืนยันว่าไม่ได้เลือกแฟนสายเปย์? “ไม่เกี่ยวค่ะ เพราะว่าเราทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเองได้ โอเค ถ้าเขาอยากจะให้ อยากจะซัพพอร์ตเราเป็นบางครั้งบางคราก็ไม่เป็นไร แต่ว่าถ้าถามว่าเขาต้องมาเปย์ หรือเราเป็นเด็กเสี่ย ต้องมีป๋าเลี้ยงไหม ไม่

ที่ผ่านมาเราต้องการคนที่ซัพพอร์ตในเรื่องของจิตใจ แล้วก็ความคิด เขาต้องเป็นที่ปรึกษาให้เราได้ ด้วยประสบการณ์อะไรหลายๆอย่าง เรายังมีความรู้ยังไม่มากพอ เราก็อยากจะขอคำปรึกษา ความช่วยเหลือจากเขา แต่ที่ผ่านมา ไม่เคยมองหาป๋าเลยนะ มองหาแต่แฟน เราอยากหาแฟน เราไม่อยากหาคนเลี้ยง

หลังจากนี้หวังว่าแฟนๆ จะลบภาพลักษณ์ เห็นเป็นอิงอิงคนใหม่? “คืออิงไม่ได้อยากลบนะ แต่อันนี้คือชีวิตจริงอิง อยากให้คนมองเรา หรือว่าเปลี่ยนทัศนคติ เปิดใจมองในสิ่งที่เราเป็นเรามากกว่า ที่ผ่านมามันคืออดีต เราไม่รู้หรอกว่ามันจริงเท็จแค่ไหน แต่พูด ณ ตรงนี้เลยว่าไม่ได้อยากลบ แต่อยากให้เรียนรู้ถึงตัวเราจริงๆ ว่าเราเป็นแบบนี้เป็นคนที่มีแอดติจูดแบบนี้หรือเป็นคนที่มีไลฟ์สไตล์แบบนี้ บุคลิกภาพแบบนี้ค่ะ แบบนี้มากกว่าค่ะ”

พอหลุดพ้นจากดราม่ารู้สึกอย่างไร? “จริงๆ แค่ได้หลุดออกมาจากตรงนั้น รู้สึกแฮปปี้มากๆ แล้ว เรื่องดราม่ามันก็ยังมีอยู่แหละ มันก็ยังมีคนบางกลุ่มที่ยังไม่มูฟออน”

ได้ยินว่าข่าวดราม่า ทำลายโอกาสในการทำงาน? “แน่นอน ตอนที่เป็นข่าวแรกๆ เราเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับโปรดักต์อยู่แบรนด์หนึ่ง ซึ่งตรงนี้มันกำลังออนแอร์ แล้วพอคนได้ยินอะไรมาปุ๊บ ไปกันใหญ่เลย ไปแบนสินค้าเขา เพราะว่าเราเป็นพรีเซ็นเตอร์ ปรากฏว่าเขาต้องลบทุกอย่างหมดเลย เพื่อไม่ให้มีผล กระทบ

ตอนนั้นเรารู้สึกเฟลนะ รู้สึกผิดด้วย กลับกลายเป็นว่าเราเป็นปัญหา แล้วก็ถ้า พูดถึงปัจจุบันคนก็ยังไม่เคลียร์เหมือนกัน เขาก็ไม่กล้าเลือกเราที่จะไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ ซึ่งมันก็ตัดโอกาส ตัดช่องทางการทำงานของเราในด้านนี้ไปในระดับหนึ่ง”

ด้วยความที่เราเพิ่งเรียนจบ นอยด์ไหมแทนที่จะได้ก่อร่างสร้างตัว? “จริงๆ อิงมองว่าโอกาสมันมาได้เรื่อยๆ ถ้าเราเป็นคนที่แอ๊กทีฟมากพอ หรือเป็นคนที่มีความคิดอะไรหลายๆอย่าง มีศักยภาพในการทำงาน เราได้รับโอกาสเหล่านั้นแน่ๆ แต่แค่ขึ้นอยู่กับว่าสิ่งที่เราอยากจะทำ เราจะได้รับไหม ตรงนี้เราก็ไม่สามารถที่จะตอบได้ เพราะว่ามันก็ต้องขึ้นอยู่กับทางนั้นด้วย

อย่างอิงก็เป็นคนที่ชอบในเรื่องของการแสดง ชอบถ่ายโฆษณา แต่พอมันเกิดเรื่องแบบนี้ เราก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว ตรงนี้เราก็อาจจะต้องยอมรับในระดับหนึ่ง เราก็โฟกัสในสิ่งที่เราทำได้ แฮปปี้ สนุกไปกับมัน พูดตรงๆ ก็รู้สึกประทับใจนะที่หลายๆ คนอยากจะกลับมาเห็นผลงานอีกครั้งหนึ่ง แต่มันก็จะมีคนบางกลุ่มเหมือนกัน ซึ่งมันอาจจะเป็นความเสี่ยงหรือเปล่า โอเคแค่รู้ว่าคนอยากเห็นผลงานก็ดีใจแล้ว”

กว่าจะผ่านมรสุมดราม่ามาได้ ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า?ซึมเศร้าอิงเป็นมาก่อนหน้าที่จะเกิดมรสุมช่วงนั้น ช่วงหลังๆก็ดีขึ้น แต่ว่าก็ยังกินยาอยู่ ถามว่าสภาพจิตใจอะไรหลายๆอย่างดีขึ้นไหม มันก็ดีขึ้น แต่เราอาจจะเครียดในเรื่องของงานมากกว่า”

แฟนคนปัจจุบันเขาเข้าใจไหม เวลาเราเจอดราม่าแซะแรงเข้ามา? “เขาไม่สนใจ เขาให้กำลังใจ เขารู้ว่าเราเป็นคนยังไง แล้วเขาก็แบบยูจะสนใจทำไมอ่ะ เราไม่ได้เป็นแบบนั้น ไม่ต้องไปให้ค่า ไม่ต้องไปสนใจ แค่แบบเรารู้ตัวเราก็พอ”

คุณหมอว่าอย่างไงเรื่องสภาพจิตใจหลังมีความรัก ทุกอย่างดีขึ้น? “มันก็เป็นช่วงๆ มันอาจจะไม่จำเป็นที่จะไปเกี่ยวข้องในเรื่องของความรักโดยตรง แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เรามีความเครียด หรือมีอะไรที่มันกระทบกระทั่งจิตใจมากๆก็เป็นไปได้ที่จะร้องไห้ แต่ถ้าเป็นอะไรที่ปกติเราก็แฮปปี้ ใช้ชีวิตปกติ”

แผลรักครั้งเก่า มันจะมีผลต่อความรักครั้งใหม่? “ไม่มีเลยค่ะ”

ถามถึงเหตุการณ์เรื่องที่เป็นข่าวว่า เราเคยมีผู้ชายมาขอแต่งงาน? “(ยิ้ม) ตายแหละ มันคือเรื่องจริงค่ะ เหมือนวันนั้นน่ะ มีคนมาเมนต์ในติ๊กต็อกว่าแบบอิงโง่ อิงก็เลยแคปและเอาไปลงไอจีสตอรี่เปิดโพลให้คนเลือกว่าใครกันแน่ที่โง่กว่ากัน ในขณะที่เขามีความคิดแบบนี้ กับเราที่มีความคิดแบบนี้ ทีนี้ก็มีคนหนึ่งทักมาว่า ก็กลับไปดีกัน(เป๊ก)แล้วไม่ใช่เหรอ เราก็งงว่าดีกับใครวะ

เขาก็พูดว่าผิดหวังนะ ตอนแรกก็ช่วยหาทนาย เราก็เลยตอบว่าถ้าไม่รู้อะไรอย่าพูด เพราะเราก็ของขึ้นแล้วไง คือเราไม่ชอบให้คนมาเข้าใจผิดเรื่องนี้ เราก็ใส่ไปเป็นชุด เขาก็เลยมาขอโทษ เพราะไม่รู้หลังจากเล่น Q&A พอเขาเคลียร์ปุ๊บเขาก็บอกว่าอยากจะชวนเราไปเที่ยวพัทยา

เขากำลังสร้างโรงแรม อยากจะให้พาคุณพ่อคุณแม่ไปเที่ยว ให้ผู้ใหญ่ไปเจอกัน เดี๋ยวจะจัดงานแต่งงานอย่างนี้ เล่ามาเป็นฉากซึ่งเราก็แบบยังไม่พร้อมจริงๆ เพราะว่าเราเพิ่งจะได้ออกมาใช้ชีวิตที่แบบเป็นอิสระแล้วก็เป็นตัวของตัวเรา ด้วยอายุด้วย พอเขารู้ก็แบบโอเค แต่ก็แอบเสียใจเล็กน้อยนะ เป็นคนน่ารักดี”

คนที่มาขอแต่งงานคนนี้เป็นทนาย? “ใช่ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยหาทนายเก่งๆ ให้ ตั้งแต่มีข่าวแรกๆเลย แล้วเราโดนโจมตีหนักๆ เขาก็แพลนเป็นฉากๆเลย เราก็ค่อนข้างตกใจเล็กน้อย แต่มองอีกมุมหนึ่งก็น่ารักดีนะ”

ตอนนี้เห็นทำธุรกิจเสื้อผ้า? “ทำเสื้อผ้าค่ะ จริงๆ มันมีทั้งเสื้อผ้าแบบเป็นคัตติ้ง ก็จะมีทั้งงานที่เราดีไซน์เอง และตัดเย็บเอง กับอีกงานหนึ่งก็คืองานแฟชั่นทั่วไป”

ความฝันในช่วงหลังเรียนจบ เราอยากเป็นอะไร? “คือเราเป็นคนที่ชอบแต่งตัว เป็นคนที่ชอบในเรื่องของศิลปะ ชอบครีเอต มีอะไรที่แปลกตลอดเวลา แต่เราก็เป็นคนที่ชอบทำธุรกิจ แต่เราไม่ได้เรียนในด้านแฟชั่นมาโดยตรง แบบที่ว่าเราสามารถเป็นดีไซเนอร์ได้เลย ตอนนี้ที่แพลนไว้ก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆว่าฉันอยากจะทำอันนู้นก่อน อันนี้ก่อน อันล่าสุดเลยกำลังแพลนว่ากำลังอยากจะไปเรียนต่อเกี่ยวกับด้านที่เป็นแฟชั่นบิสซิเนส อาจจะไม่ใช่แฟชั่นโดยตรง ตอนนี้ก็กำลังหาอยู่”

ช่วงโควิดเห็นออกมาขายเสื้อผ้า ยอดขายดีไหม? “ดีนะ แต่ว่ามันเป็นช่วงๆ บางเดือนจะพุ่งก็พุ่งไปเลย บางเดือนก็ช่วงต้นเดือนเงียบ ช่วงปลายเดือนพุ่ง มันก็แล้วแต่”

ช่วยเล่าการทำงานหน่อย เห็นบุกเบิกติดต่อผสานงาน ทำมาร์เก็ตติ้งอะไรด้วยตัวเอง? “ใช่ค่ะ ทุกอย่างเราทำเองหมดเลย อาจจะมีในเรื่องของการตอบแช็ต ก็จะมีแอดมินจ้างมาบ้าง แต่งรูป ถ่ายภาพนิดหน่อย แต่ในส่วนของมาร์เก็ตติ้ง พีอาร์ การไปคอร์เปอเรต หรือการเป็นพาร์ตเนอร์กับแบรนด์ต่างๆ ตรงนี้เราทำเองหมดเลย”

คิดไหมว่าเราจะทำได้ขนาดนี้? “ทุกอย่างมันต้องใช้เวลา แรกๆมันอาจจะยาก ยากในที่นี้หมายถึงว่ามันอาจจะเหนื่อยหน่อย เหนื่อยที่เราต้องลงแรง ลงสมอง พยายามหาคอนเน็กชั่น แต่เมื่อไหร่ที่เราได้แล้ว แล้วเราทำ มันไปได้ดี เราก็จะสามารถคิดสิ่งเหล่านี้ได้แหละ มันก็จะไปต่อได้ จริงๆแล้วที่คิดไว้คืออยากทำเป็นโกลบอล บิสซิเนส เพราะเราอยากหาลูกค้าที่เขาเป็นต่างชาติด้วย แล้วเราเป็นคนที่ไม่ได้ปิดกั้นเรื่องแฟชั่น ไม่ได้ตามเทรนด์ว่าตอนนี้เขาฮิตสิ่งนี้อยู่ เราจะต้องเป็นอย่างนี้ ไม่ เราขายความเป็นตัวเอง”

งานในวงการบันเทิงตอนนี้เงียบ? “ไม่ค่ะ”

ตอนนี้แพลนโปรเจ็กต์อะไรไว้ที่ตัวเองกำลังจะทำ? “จริงๆตอนนี้ก็โฟกัสเรื่องเสื้อผ้า อยากทำร้านให้มันลงตัว เราก็จะได้เหนื่อยน้อยลง แล้วถ้าเมื่อไหร่ที่เราจะได้ทำเว็บไซต์ หรือทำอะไรที่มันซัพพอร์ตกับกลุ่มคนต่างชาติแล้ว ตรงนี้มันก็จะค่อนข้างแบ่งเบาเราได้เยอะพอสมควร แล้วถ้าโปรเจ็ต์ตรงนี้สำเร็จ หรือถ้ามีโอกาสเราก็อยากจะทำช่องยูทูบ คือตอนนี้เราขาดทรัพยากรนั่นก็คือคนคิดคอนเทนต์ และคนตัดต่อ”

เรียกว่าตอนนี้มีเอฟซีเพิ่มมากขึ้น หลังจากเป็นข่าว? “เยอะมากค่ะ เอาจริงๆมีชาวต่างชาติด้วย ซึ่งบางประเทศ เอาจริงๆอิงก็ไม่รู้จักนะ แล้วเราก็ไม่รู้ด้วยว่าเขาตามเรามาจากไหน แต่เราก็รู้สึกแฮปปี้ ชอบ เวลาไปสยาม ก็จะมีคนมาขอถ่ายรูปคู่ ซึ่งตรงนี้เราก็ทำตัวไม่ถูกนะ เราไปดังในด้านไหนวะ(หัวเราะ) เขาชอบเราในด้านไหนนะ เอ๊ะ เกิดความสงสัยเล็กน้อย แต่ก็ดีใจที่มีคนชอบ”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6682392
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6682392