เรียกว่าหนังสยองขวัญไทย ไม่แพ้ชาติใดในโลก!! หลัง “ร่างทรง” หนังสยองขวัญเรื่องล่าสุดจากค่าย จีดีเอช กับเรื่องราวของการสืบทอดทายาทร่างทรง ที่กลับกลายเป็นการส่งต่อความตายและท้าทายทุกความเชื่อที่เคยมีมา กำกับโดย “โต้ง-บรรจง ปิสัญธนะกูล” ดูแลงานสร้างโดย “นา ฮง-จิน” ดังกระหึ่มมาแล้วที่ประเทศเกาหลีใต้ คว้าอันดับที่ 1 หนังทำเงินได้สูงสุดในวันเข้าฉาย และทำรายได้ 184 ล้านบาทใน 7 วัน พร้อมทั้งยังได้กระแสตอบรับดีล้นหลามถึงความหลอนสุดสะพรึงกลัวในอีก หลายประเทศทั่วเอเชีย

ซึ่ง “ร่างทรง” พร้อมเข้าโรง ในประเทศไทย 28 ตุลาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์ ล่าสุด “จีดีเอช” เปิดความหลอน จัดสัมภาษณ์พิเศษ ผู้กำกับ, โปรดิวเซอร์และ นักแสดงจากภาพยนตร์ สยองขวัญเรื่อง “ร่างทรง” ได้ โบ-ธนากร ชินกูล รับหน้าที่พิธีกร พูดคุยและเป็นตัวแทนถามคำถามเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องร่างทรง ที่ชั้น 9 โรงภาพยนตร์ SF Cinema โดยมี โต้ง-บรรจง ปิสัญธนะกูล ผู้กำกับ และ 2 นักแสดงนำ ญดา-นริลญา กุลมงคลเพชร, เอี้ยง-สวนีย์ อุทุมมา พร้อมด้วย นา ฮง-จิน โปรดิวเซอร์ชื่อดังจากเกาหลี ที่เข้าร่วมสัมภาษณ์ผ่านระบบ Zoom จากประเทศเกาหลีใต้

งานนี้เลยต้องขอเปิดใจสาว “ญดา” ผู้ รับบท “มิ้ง” หลานสาวคนเดียวของตระกูล ที่คาดกันว่าน่าจะถูกรับเลือกให้เป็นทายาท ร่างทรง “เทพบาหยัน” คนต่อไป แต่มิ้งกลับมีอาการน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆชวนติดตามแบบสุดระทึก เรียกว่าเป็นบทบาทสุดท้าทายพร้อมแจ้งเกิดสาว “ญดา” เลยต้องถามว่า

ในเรื่องนี้บทของญดาหนักจริงๆ ผีเข้ากันทั้งเรื่องเลยมันเครียดมั้ย?

“บทเครียดค่ะ คือก่อนที่จะเริ่มถ่ายทำ หนูทำการบ้านกับตัวละครตัวนี้หนักมาก ตัวละครนี้มันห่างไกลจากตัวหนูหลายอย่างๆ แต่พี่โต้งเค้าเก่งมากๆค่ะในการที่จะช่วยพูดยังไงอธิบายยังไงให้เราสามารถเข้าใจตัวละครได้อย่างรวดเร็ว แล้วแบบไม่ได้มีความเครียดหรือกดดันอะไรในระหว่างถ่ายทำเลยค่ะ กองถ่ายเราสนุกสนานมาก ทุกคนแบบเฮฮากันมาก”

สำหรับญดาฉากไหนรู้สึกประ ทับใจเป็นพิเศษ?

“หนูรู้สึกว่าทุกฉากมันยากมากๆ ซีนที่หนูประทับใจ จริงๆหนูประทับใจซีนที่พี่โต้ง นา ฮง-จิน บอกว่าที่มันดูยิ่งใหญ่มากๆ ฉากนั้นเป็นฉากที่ทำให้หนูรู้สึกว่า มันคือภาพยนตร์ เรื่องนี้เลย มันคือแบบเล่าเรื่องราวหลายๆ อย่างของภาพยนตร์เรื่องนี้ แล้วเวลาที่เราเป็นคนยืนมองเข้าไป รับรู้ได้ถึงพลังบางอย่างที่หนังพยายามส่งมาให้เรา หนูอินกับหนังจริงๆ”

เป็นหนังสยองขวัญที่ตัวอย่างออกมาน่ากลัวขนาดนี้ การถ่ายทำที่สถานที่ที่ดูลึกลับมันดูอึมครึมไปหมด เจออะไรกันบ้างรึเปล่า?

“คือสถานที่ตรงนั้นเป็นสถานที่เราถ่ายทำรูปปั้นย่าบาหยันอยู่ค่ะ และก็วันนั้นเป็นวันที่ตัวหนูไม่มีคิวถ่ายภาพยนตร์แต่ว่ามีคิวถ่ายเป็นภาพนิ่ง ภาพโปสเตอร์ ตอนนั้นมันแปลกตั้งแต่ตอนเริ่มถ่ายแล้วคือตอนที่เราเซตถ่ายทุกอย่าง ท้องฟ้าโปร่ง แต่พอถึงเวลาที่หนูไปยืนเซตละ ยืนปุ๊บ ฝนเริ่มมา มาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยเลยค่ะ เราก็ต้องมีทีมงานจุดธูปแบบว่าขอให้ฝนหยุดค่ะและก็แปลกที่พอจุดธูปแล้วฝนหยุดจริงๆแล้วถ่ายได้ไม่นาน คือมันใช้ระยะเวลายื้อตรงนั้นได้ไม่นานจริงๆฝนมันก็ตกลงมาและทีมงานและนักแสดงทุกคนก็ต้องเข้าไปหลบในถ้ำ มันจะมีถ้ำอยู่ เป็นถ้ำที่เล็กมากต้องแบบมุดเข้าไปนิดหน่อยเบียดกันอยู่ข้างใน ทีมงานอยู่กันหลายคนแต่ว่ามีคุณแม่หนูและทีมงานอีกคนที่เริ่มมีอาการแปลกๆ เริ่มสะกิดคนข้างๆและก็แบบมองหน้ากัน และแบบได้ยินมั้ย ได้ยินมั้ย ซึ่งตอนนั้นทุกคนรู้แหละว่ามันมีอะไรที่มันไม่ชอบมาพากล พอเราออกจากสถานที่นั้นมาก็เลยมาพูดต่อกันว่าได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้อยู่ในนั้นจริงๆ”

อยากให้ฝากหนังเรื่องนี้?

“อยากฝากให้คุณผู้ชมได้ไปดูภาพยนตร์เรื่องนี้ในโรงภาพยนตร์จริงๆค่ะ เพราะว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เชื่อว่าเป็นภาพยนตร์ที่แตกต่างจากภาพยนตร์อื่นๆที่ในไทยเราไม่เคยทำมา เป็นการซ่อนประสบการณ์ต่างๆและก็อยากให้คุณผู้ชมไปเก็บรายละเอียดในโรงภาพยนตร์เต็มอรรถรสค่ะ”.