รักต่างวัย จี๊ด สุนทร กับภรรยาอายุห่าง 21ปี เผยจุดเปลี่ยน เพื่อนเมียคิดว่าเป็นพ่อ


ให้คะแนน


แชร์

เปิดชีวิตรักต่างวัย จี๊ด สุนทร กับภรรยาอายุห่างกันกว่า 21 ปี จุดเปลี่ยนดูแลตัวเอง เพื่อนภรรยาเข้าใจผิดคิดว่าเป็นพ่อ เผยวีรกรรมขับรถหลับในรอดตายมานับครั้งไม่ถ้วน

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

นักร้องนำวงรอยัลสไปรท์ส จี๊ด สุนทร สุจริตฉันท์ ที่วันนี้จะเปิดชีวิตรักกับภรรยาสาวที่อายุห่างกัน 21 ปี ไม่รู้ว่ากินเด็กแล้วจะเป็นอมตะจริงหรือเปล่า พร้อมเล่าเส้นทางในวงการเพลงที่ยาวนานกว่าครึ่งทศวรรษ แถมเจ้าตัวยังบอกอีกว่าเคยเกือบตายเพราะขับรถหลับใน ผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง วัน31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์ และบูม สุภาพร เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

คบกับภรรยาที่อายุห่างกัน 21 ปี? “จริงครับ คือวันนั้นเป็นวันธรรมดาที่เดินสวนกัน ปี 2529 ผมไปทำงานโทรทัศน์และวิทยุ เป็นพิธีกร ผู้ประกาศข่าว แล้ว จั๊กจั่น เขาก็เป็นผู้ประกาศรายการ พอคุยกันถูกคอ แล้วครอบครัวของน้องเขาชอบทำบุญมาก เคยอุทิศที่ดินสร้างวัดตั้ง 2 วัด แม่ผมก็เป็นคนทำบุญเก่ง ผมก็เลยมองว่าหรือว่าเราสนับสนุนกันได้ วันนั้นผมเปลี่ยนมาทำเรื่องธุรกิจเต็มตัว แล้วเจอเขาในวันที่ผมไม่มีแฟน เขาก็ไม่มีแฟน”

แล้วตอนนั้นปิ๊งกันยังไง ใครจีบใคร? “ผมจีบเขา ผมบอกเขาว่าน้องเก่ง น่ารักมากเลย ผมเป็นบริษัทที่ปั้นนักร้อง แล้วน้องเขาเป็นพีอาร์มืออาชีพเลย เขาก็เลยเป็นผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ให้ผม แล้วที่ช่องก็ทำงานด้วยกัน บริษัทก็ทำงานด้วยกัน ทีนี้ผมทำงานหลายๆ เรื่อง แล้วล้มเหลว ปัญหาอุปสรรคเยอะ ผมก็เดินทางไปต่างประเทศ แล้วค้นพบตัวเองว่าชีวิตตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจะอยู่ในมือใคร แล้วผมก็รู้ว่าคนที่เรียกว่าศีลเสมอกัน เจอกันแล้วผมรู้สึกว่ามันใช่ เคมีมันถูกกันก็เลยโอเค ตอนทำงานที่บริษัทเราไม่เคยมองเขา แต่พอไปไกลๆ แล้วเรารู้สึกว่าคนนี้ดี แล้วผมพยายามทำให้เขาชอบผม ซึ่งเขาไม่ค่อยชอบหรอก”

ทำยังไง? “บอกว่าไปนั่งเครื่องบินกับพี่ไหม คือผมเป็นนักบินด้วย ผมไปขับเครื่องบินส่วนตัว เวลาผมบินก็มีครู ผมนั่งซ้าย ครูนั่งขวา ข้างหลังมี 2 ที่ว่างอยู่ ผมก็เลยชวนเขาว่าไปเที่ยวไหม เขาบอกว่านั่งได้เหรอ แต่เขาก็ไป เสร็จแล้วผมก็บอกว่าครูๆ น้องจั๊กจั่นเขาอยากเป็นนักบิน ครูก็บอกว่ามาเรียนสิ มาบ่อยๆ สรุปคือผมพาเขาไปบินเรื่อยๆ”

เขาไม่รู้ว่าพี่เป็นนักร้องเหรอ? “เขารู้แต่ว่าเขาไม่เคยฟังผม เขาดูแต่โดเรม่อน คือเราเป็นคนที่ใส่ใจเรื่องทำงานมาก ไม่ค่อยใส่ใจเรื่องโรแมนติกกับเขาเลย นอกจากสนับสนุนเขาก็ถามเขาว่าเขาต้องการอะไรในชีวิต อะไรที่เขาต้องการผมก็ตอบแทนให้เขาอย่างดี เขาบอกเขาชอบเที่ยว ผมก็พาเขาไปเที่ยวต่างประเทศก็สนุกดี”

ถ้าเขาดูอยู่อยากบอกอะไรเขา? “ผมขอบคุณเขามากๆ ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ผมจะไม่มีวิถีชีวิตและร่างกาย จิตวิญญาณที่ดีขนาดนี้ถ้าผมไม่ได้สุภาพสตรีท่านนี้ดูแลผมทุกอย่าง ทำให้ผมกลายเป็นคนนี้ที่ยังมีปัจจุบันที่ยังสนุกสนาน เข้มแข็ง ยังอ่อนเยาว์ได้ แม้ว่าอายุจริงจะไปไกลแล้ว”

อยู่ด้วยกันมา 30 ปี มีปัญหาไหมในเรื่องความแตกต่างของอายุห่างกัน 21 ปี? “มันโชคดีของผมที่ผมมีประสบการณ์ พอเรามีครอบครัวใหม่เราไม่อยากสูญเสีย เราไม่อยากเฮิร์ตและไม่อยากให้เขาเฮิร์ต ผมรู้ว่าต้องทำยังไง ผมก็เลยเย็นแล้วสรุปว่ายอมแล้วปัญหาไม่มี”

พี่รักทุกอย่างในความเป็นจั๊กจั่น แต่พี่ไม่รักที่เพื่อนเขาเรียกพี่ว่าลุง? “ไม่ได้เลย คือตอนคบกันแรกๆ ผมทรุดโทรมมาก ผมทำงานทั้งการเมือง ขับเครื่องบินเล่น แล้วกลางวันประกาศข่าว มันเหลือเวลาน้อยมากเลย ตอนเช้าผมต้องส่งลูกด้วย ผมก็โทรมและมึน พูดช้าเลย แล้วพอไปไหนกับเขา เพื่อนๆ เขาบอกว่าพ่อเหรอ”

ตอนนั้นพี่จี๊ดทำยังไง? “อันนี้ยังไม่อันตรายเท่าไหร่ ผมรู้สึกว่ายังเป็นธรรมชาติอยู่ แต่เพื่อนผมที่รุ่นเดียวกันพอเขานั่งทานข้าวหรือกินเหล้าอยู่ที่ไหน ผมไปเจอเขาก็ถามว่าลูกสาวเหรอ เรารู้สึกว่าไม่ดีเลย ผมเลยกลับมามองตัวเองว่าผมควรปรับเปลี่ยนอย่างไร ผมก็พัฒนาตัวเอง ผมก็เลยลดน้ำหนักด้วยการลดไขมัน มันต้องเพิ่มอะไรแล้วต้องลดอะไร แล้วมันต้องทำยังไง ผมก็เลยได้วิชานั้นมา ร่างกายของเรา 60 เปอร์เซ็นต์มันเป็นเรื่องของอวัยะภายใน 20 เปอร์เซ็นต์เป็นเรื่องของการย่อยอาหาร หรืออีก 20 เปอร์เซ็นต์ไม่เกิน 30 เปอร์เซ็นต์เป็นเรื่องกิจกรรม สุดท้ายแล้วผมไปเน้นเรื่องอาหาร คุณจั่นเป็นโค้ชให้ผม”

เรื่องความรักการที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะเริ่มต้นกับคนที่เคยมีครอบครัวแล้ว พี่จั่นเขาได้พูดถึงแล้วทางภรรยาเก่าเขาว่ายังไง? “ไอเดียผมคือวันที่ผมต้องการจะมีชีวิตที่ดีเนี่ย ผมคิดถึงใจเขา เขามีครอบครัว มีการศึกษาที่ดี เขาจบปริญญาโทนิด้า แล้วเขามาดูแลผม อะไรที่ผมถ่ายเท ถ่ายทอดผมให้ทั้งชีวิตเลย แล้วอะไรที่เป็นความสุขของเขาผมก็จะทำให้เต็มที่ แล้ววิธีการที่จะทำยังไงให้คนสองคนผนึกกำลังกันได้ คือการที่เราทำด้วยกัน มีเป้าหมายเดียวกัน เป้าหมายเขาต้องการอะไรในชีวิต เราก็จะทำด้วยกัน แล้วมีเป้าหมายเดียวกัน ผูกชีวิตเรากับเป้าหมายเราเข้าด้วยกัน เป้าหมายงาน เป้าหมายชีวิตทำด้วยกัน มันก็เลยกลายเป็นความสุข”

อันนี้พี่หมายถึงตัวพี่กับคุณจั่น? “ใช่”

แต่ที่อยากรู้คือภรรยาเก่าโอเคกับคุณจั๊กจั่นไหม? “ผมใช้เวลาอยู่พอสมควรที่จะให้ลูกสาว ลูกชาย ยอมรับในตัวคุณจั๊กจั่น แล้วลูกสาวกับลูกชายผมก็เข้าได้ แล้ววันหนึ่งเป็นวันพ่อ 5 ธันวาคม ผมก็เรียกลูกมากินข้าว แล้วก็ถามว่าพี่จั่นเขาดีกับหนูไหม แล้วมีอะไรที่หนูคิดว่าไม่เหมาะสมไหม เขาดีกับพ่อ พ่อต้องมีคนดูแลนะลูก แม่หนูก็ดีที่สุดแล้วล่ะ แต่ตอนนี้พ่อต้องมีคนดูแล หนูคิดว่าพี่จั่นเขาเป็นยังไง โอเค เขาก็ดีกับพ่อ ดีกับหนู งั้นพ่อขออนุญาตที่จะบอกหนูว่าพ่อต้องให้เกียรติเขา พ่อจะแต่งงานกับเขา หนูจะว่าไง ลูกก็อึ้งไป ผมคุยกับลูกวันที่ 5 ธันวาคม วันที่ 12 มกราคม ผมแต่งงาน”

แล้วเมียพี่เขารู้จักกันไหม? “เขารู้ เขาก็โอเค”

จริงเหรอที่พี่เป็นคนชอบหลับใน? “ผมนอนไม่พอ ผมเลิกไนต์คลับตี 2 บางทีกว่าจะเลิกไปกินข้าวต้ม ไปนู่นนี่นั่น แล้วกว่าจะถึงบ้านตี3 ตี 5.30 น. ผมตื่นไปส่งลูก ผมก็เลยรู้สึกว่าผมไม่ได้นอน ทันใดนั้นเองผมก็หลับง่าย ขับรถไปก็ตบหน้าดึงผม ก็ตื่นขึ้นมาหน่อย บางทีข้างหลังก็มีบีบแตร”

หนักสุดที่หลับในอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นคืออะไร? “เพื่อนผมก็ขำตลอด แล้วบอกว่าวันนึงต้องเจอ แล้ววันนึงผมก็ไปประตูน้ำตลาดโต้รุ่ง ซื้อของอะไรต่างๆ มาเรียบร้อย เพื่อนบอกให้มานั่ง ผมก็ไม่นั่งบอกจะกลับบ้าน พรุ่งนี้มีซ้อม ปรากฏว่าเข้าโค้งตรงหน้ารามคำแหง เข้าโค้งแล้วไม่คืน เสยเสาไฟฟ้าที่อยู่เกาะกลางถนน รถไปเกาะเสาไฟ แล้วเสาไฟก็ตกลงมาที่หน้ารถยนต์ ผมรีบลงจากรถ เสร็จแล้วไปยืนอยู่แล้วรู้สึกว่าจะทำยังไงดี แต่ว่ามันก็ผ่านมาได้ปลอดภัย”

แล้วที่จะเสยกับสิบล้อ? “ผมขับรถมาตอนดึกๆ สักตี3 พอถึงสี่แยกวังหิน บ้านอยู่ในเสนา พอจะเลี้ยวเข้ามันก็ไม่ถึงขนาดที่รู้ตัวนะ ก็ขับๆ มาสะลึมสะลือ คางเกือบไปโดนพวงมาลัย ผมรู้สึกว่าคางเจ็บ แต่ใครเหยียบเบรก ถ้าผมเลยแยกนั้นไปโดยไม่เหยียบเบรก ผมไม่เป็นสุนทรวันนี้ ไปแล้วนี่คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และนี่คือสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกว่าผมมั่นคงในความดี ผมทำบุญ ผมตั้งใจ ทำความสำเร็จใดๆ ผมรู้สึกว่าผมต้องทำให้มากขึ้นเพื่อความสำเร็จที่ไปหล่อเลี้ยง ไปอุ้มชู ไปช่วยคนให้มากขึ้น”

รอดชีวิตจากหลับในมาตลอด แล้วก็รอดชีวิตโดนยิงกลางคอนเสิร์ต? “ยุคนั้นเดินทางไปเล่นที่จังหวัดหนึ่ง เสร็จแล้วผมก็ร้องเพลง ก็มีคนขอเพลงสุรพล หน่อย โค้ง.45 กระบอกปืนมันด้ามยาว ผมร้องเพลงอยู่ก็หยุดไม่ได้ ก็หันไปมองเพื่อนข้างหลัง แล้วก็เหมือนนัดกันก็ร้องเพลง 16 ปี แห่งความหลัง พอร้องเสร็จปุ๊บเขาก็เก็บปืนไป ผมก็เลยรอดชีวิต”

เคยร่วมงานกับอ๊อด คีรีบูน ในนามวง THE PALACE? “ผมรู้ข่าวเมื่อวันวานนี้ แล้วผมไปร่วมงานกับเขาเมื่อคืน แล้วผมรู้สึกเสียดายเขามากเลย ตอนนั้นที่อยู่วง THE PALACE เขามีโรงเรียนสอนดนตรี เขาก็เลยไม่มีเวลามาเข้างานกับ THE PALACE เพราะว่าเราไปเล่นทั่วประเทศ เขาไม่มีคิว กลายเป็นว่าเขาติดงานของเขา ก็เสียดายมากครับก็ขอให้เราได้แสดงความรู้สึกในวันนี้ว่าคนไทยทุกคนแล้วก็ศิลปินทุกท่านเลย รวมทั้งพี่จี๊ดและ THE PALACE เรารู้สึกว่าน้องได้ทำสิ่งที่ดีงามมาตลอดชีวิต สร้างกุศลแล้วก็บุญบารมีมามากๆ เขาเป็นคนที่ดีมากๆ ในทุกสถานะเลย ดังนั้นวันนี้อ๊อดจะอยู่ในหัวใจของพวกเรา และพี่ๆ THE PALACE ตลอดไปครับ”

คลิปสัมภาษณ์ จี๊ด สุนทร

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6687925
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6687925