เปิดความในใจครั้งแรก “ลี-ฐานัฐพ์” ผ่านดราม่าได้เรียนรู้ อยากมุ่งพัฒนารอบด้าน


ให้คะแนน


แชร์

“ดีใจที่ได้เล่นเรื่องนี้ครับ แฟนคลับไม่ได้เห็นผลงานซีรีส์ของผมมาสักพักครับ ก็คงคิดถึงกัน ตัวคิมหันต์ ตอนแรกเค้าเป็นคนนึงที่น่ารัก ในโมเมนต์น่ารักต่อล้อต่อเถียง มันไม่ได้ไกลตัวมาก แต่พอหลังๆเริ่มดุ เริ่มปากร้าย แค้นเชือดเฉือน ทั้งรักทั้งแค้นนางเอก มันมีความสับสนของตัวละคร แค้นที่นางเอกเค้าไม่เข้าข้างเราแต่ลึกๆทั้งหมดคือรักมาก แต่ต้องทำเหมือนไม่รัก มีโหมดยากอีกในตอนหลังๆที่ผมไม่เคยเล่น ยากมากครับ ต้องปะทะอารมณ์ มีความไบโพลาร์ของตัวละคร คือตอนทำงานกองถ่ายนี้ก็จะสนุกกัน หัวเราะกัน ถ่ายปุ๊บหันมาเอ้า ต้องดราม่ามีความสวิงไม่ใช่แค่ตัวละคร อารมณ์ ของเราด้วย แต่พวกพี่ๆเค้าเก่ง เข้าฉากปุ๊บทำได้เลย เราก็อยู่กับตัวละครนั้น”

ความยากที่สุดในเรื่องนี้? “ผมเข้าใจว่าเป็นละครฟีลลิ่งโตขึ้น ปัญหาที่มากระทบตัวละครมันมากกว่าปัญหาของตัวละครที่ยังเป็นเด็กอยู่ อย่างถ้าเป็นเด็กวัยเรียนปัญหาที่กระทบก็มีเอฟเฟกต์กับวัยนั้นๆ แต่อันนี้เป็นปัญหาที่โตขึ้น มีการกระทบแรง มีทั้งการสูญเสีย มีหลายคนเข้ามาพัวพันกัน”

ออม–สุชาร์ บอกว่าเรื่องนี้ออมโดนกระทำเยอะ? “ตัวมุกรินบทของพี่ออม โดนคิมหันต์กระทำเยอะมาก ทั้งทำเป็นสวีตโชว์ ใช้คำพูดเจ็บแสบ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ตัวคิมหันต์เองก็สับสนตลอดเวลา ด่าเค้าเสร็จก็สงสารน้ำตาคลอหน่อยๆ ความยากอีกอย่างคือเรื่องนี้เราไม่ได้เวิร์กช็อปกันด้วย เพราะสถานการณ์โควิด-19 ช่วงแรกก็จะมีความเกร็งๆไม่ค่อยกล้าเข้าถึงอารมณ์ตัวละคร แต่พออยู่กับพวกพี่ๆเค้านาน มีการวิดีโอคอลกันตลอด เล่นกันมันก็ทำลายกำแพงตรงนั้นได้เลย”

ต้องรักแค้นมากกับออม เวลาเล่นปรับตัวเข้าหากันยังไง? “จะเป็นการคุยปรึกษาเรื่องชีวิตจริงกันมากกว่า แนะนำนั่นนี่หน่อย แบบพี่น้องเพื่อนสนิท และคำขู่ของพี่ออมว่า “เล่นให้ดี” แค่นี้ผมก็น้ำตาคลอแล้ว (ยิ้ม) คือในกองผมจะแกล้งคนอื่นด้วยปาก ทำได้แค่นั้น แต่เค้าแกล้งผมกลับด้วยจิ้งจก คำพูดที่เราเถียงเค้าไม่ขึ้น บางทีพี่ออมก็ไปรวมหัวกับพี่แกรนด์แกล้งผม ผมไม่มีพวกเลย”

เล่าการทำงานกับออม–สุชาร์ ให้ฟังหน่อย?

“ผมเป็นแฟนคลับพี่ออมตั้งแต่รายการสตรอว์เบอร์รี่ชีสเค้ก ไม่คิดว่า วันหนึ่งจะได้ร่วมงานกันจริงๆ พอได้ทำงานด้วยจริงๆพี่ออมไม่ถือตัวเลย แถมสอนผม สามารถเรียกพี่ออมว่าเป็น “โค้ชออม” ได้เลย ไม่ใช่แค่เรื่องงานอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องการใช้ชีวิตด้วย บางทีเราเศร้า เค้าก็บอกว่าหนูจะร้องไห้ทำไม ถ้าจะร้องไห้ไปร้องในงานในการแสดงที่ได้เงินสิ เค้าเป็นโค้ชชีวิต เอาจริงๆแรกๆ ก็เกร็งครับแต่มีหลายอย่างที่ช่วยทลายกำแพง เช่นการหยอกกันพี่น้อง เราเรียนจบมหาวิทยาลัยเดียวกันด้วยเลยมีเรื่องคุยกัน”

ออมขึ้นชื่อว่าเป็นนางเอกเจ้าบทบาท ลีได้เรียนรู้อะไรบ้าง? “เค้าชอบบอกว่าเค้าสอนอะไรไม่ได้เลย เค้าแค่อยู่กับตัวละคร เค้าถ่อมตัวด้วยบอกว่าบางทีผมเล่นดีกว่าเค้า ผมก็บอกไม่จริงเลยพี่เล่นดีมาก เค้าเป็นมากกว่าพี่สาว เป็นเพื่อนสนิท”

ฉากเลิฟซีนล่ะ ได้ยินว่าดุเดือดใช้ได้? “เป็นความคิดของผู้กำกับ พี่กอล์ฟ-ธัญญ์วาริน พยายามตีแผ่ชีวิตคู่สามีภรรยาจริงๆ มันก็จะเรียลและรุนแรง พี่ออมเค้าบอกว่าเป็นเรื่องแรกของเค้าเลยนะที่เลิฟซีนเรียลขนาดนี้”

ใครเกร็งกว่าใคร? “ผมน่าจะเกร็งกว่า เราคุยคิวกันก่อน หลักๆก็อย่างที่พี่ออมบอกว่าทำตามตัวละคร คิมหันต์โหยหามุกรินยังไงก็แสดงออกไปอย่างนั้น”

หลังจากนี้มีอะไรให้ลุ้นต่อ? “มีเรื่องของการคลี่คลายปม เรื่องของอารมณ์ มีครบรสทั้งหวานกุ๊กกิ๊กเชือดเฉือน แรงขึ้นไปอีก หักมุมอีก ต้องติดตาม”

หลายคนมองว่าดราม่าเป็นทางถนัดของลี จริงมั้ย?

“มันก็ไม่ได้ถนัดขนาดนั้น เล่นดราม่ารู้สึกเครียดนะครับ หรือถ้าคอมเมดี้จ๋าก็ยากนะ สำหรับผมทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้รู้สึกว่าดราม่ามันง่ายเลยนะครับ มองว่ามันยาก ใช้อารมณ์และสมาธิเยอะมาก”

อยู่กับตัวละครนี้ทำให้เครียดมั้ย? “จริงๆผมก็เป็นคนเครียดนะ ซีเรียสจริงจังแต่แค่ไม่ได้แสดงออกมา จริงๆพอคัตปุ๊บกลับมาเป็นตัวเองหมด ไปกองสนุกมากเพราะกับละครที่เครียดมากคัตปุ๊บแกล้งกัน มันก็หายเครียด”

ชอบตัวเองเล่นบทบาทแบบไหน? “จริงๆผมชอบทุกบทนะผมว่ามันมีความแตกต่างของมัน ซึ่งความ แตกต่างมันเป็นเสน่ห์ของตัวละครแต่ละตัว อย่างคิมหันต์เค้าก็มีเสน่ห์เวลามีโมเมนต์น่ารักกับมุกริน”

ช่วงหลังได้เห็นมุมใหม่ๆ ของลี ทั้งเกมโชว์ รายการ จากหนุ่มนิ่งขรึมมีความกวนเล่นมุกเยอะขึ้น?

“ปกติคนจะเห็นผมในละคร ในซีรีส์เยอะกว่าจะเป็นความนิ่งๆจะไม่ได้เห็นความเป็นผมจริงๆ พอได้ไปออกรายการต่างๆคนก็ได้เห็นผมร้องเพลง เล่นมุกบ้าง กวนบ้าง คนก็ชอบกันครับ เค้าบอกว่าจริงๆผมร้ายนะเนี่ย แสบนะเนี่ย”

กว่าจะออกมาจากเซฟโซนของตัวเองมันยากมั้ย? “แรกๆก็จะเกร็งไม่ค่อยกล้าพูดแต่พอเราเริ่มสนิทกับทีมงาน ทีมตรงนั้นก็ทำให้ทำงานง่ายขึ้น แรกๆก็มีแทรกไม่ทันเป็นเรื่องปกติของผม ต้องมีการประมวลผลตัวเองว่าควรพูดอะไรยังไง”

ที่เห็นตามรายการคือตัวตนเรา? “ใช่ครับ คือตัวผมเอง ชีวิตจริงแซวคนอื่นค่อนข้างรุนแรงกว่าไปออกรายการอีก (หัวเราะ)”

ได้เปิดตัวเองมากขึ้น? “ใช่ครับ ผมมองว่ามันเป็นพื้นที่นึงที่ดีนะ ที่ทำให้คนได้รู้จักเราได้เห็นเราในมุมที่เราเป็นจริงๆ”

มีงานอะไรที่ยังไม่ได้ทำแล้วอยากทำ? “ผมอยากทำงานทุกอย่างให้ครบนะ ที่ผมยังไม่เคยทำจริงๆเลยคือพิธีกร แต่หลายคนบอกว่าพูดให้ชัดก่อน (หัวเราะ) กองสั่งใจนี่ล่ะ ชอบแกล้งผม ฝึกให้ผมพูดให้ชัดขึ้น”

5 ปีในวงการบันเทิง มองตัวเองเติบโตขึ้นแค่ไหน? “โตขึ้นครับ การวางตัวการทำงาน หลักๆประสบการณ์ที่ได้จากการทำงานคือได้รู้จักคนมากขึ้น และการอยู่ในสังคมที่คนเยอะๆ ต้องวางตัวยังไง มีความประพฤติยังไง ตอนนี้โอเคขึ้น ยิ่งประสบการณ์มากขึ้น ยิ่งมีชื่อเสียงขึ้น มันก็ยิ่งวางตัวยากขึ้น มันวิ่งกันเหมือนเส้นขนาน”

ช่วงหลังบทบาทโดนใจ แฟนๆเยอะขึ้น ขึ้นแท่นเป็นหนุ่มฮอตแถวหน้า? “ก็ไม่ขนาดนั้นนะครับ รู้สึกดีใจครับที่คนชอบในสิ่งที่ผมเป็น”

ความดังมาพร้อมข่าวถาโถม เล่าตัวเองช่วงเวลาที่โดนกระแสข่าวหน่อย?

“ที่มันเกิดเรื่องดราม่าหรือเรื่องอะไรมันค่อนข้างหนัก ถ้าเราพลาด 1 ครั้ง เราก็โดนหนัก แต่โชคดีที่คนรอบข้างให้กำลังใจ มีคนเข้าใจเรา”

เครียดและทำให้กลัวไปเลยมั้ย? “กลัวนะครับ กลัวตลอดเวลา แม้กระทั่งตอนนี้ก็ยังกลัว และผมค่อนข้างมั่นใจว่าในอนาคตก็ยังกลัวเหมือนเดิม สิ่งที่ทำได้คือยอมรับสิ่งที่มันเกิดขึ้นมากกว่าแล้วแก้ไขมัน แต่มันก็ทำให้เราได้เรียนรู้ว่าเราต้องวางตัวยังไง ผมคิดว่ายิ่งโตขึ้นปัญหาคนเรา มันก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ครั้งนี้อาจจะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต อนาคตอาจจะมีเรื่องที่มันรุนแรงกว่านี้หรือมากกว่านี้ก็เป็นได้ มันก็เป็นประสบการณ์ที่เราได้เจอ และได้เรียนรู้แก้ไขปัญหา”

อีกด้านหนึ่งท่ามกลางดราม่าทำให้เห็นว่าแฟนคลับเราเหนียวแน่นและไม่ทิ้งไปไหน?

“ผมก็ดีใจในเรื่องนึงที่ว่าคนรอบตัวผม รวมถึงแฟนคลับเค้าเชื่อในสิ่งที่เค้าเห็นมากกว่าสิ่งที่เค้าฟัง ดีใจที่สัมผัสได้ถึงความจริงใจที่แฟนคลับส่งให้กันและกันและตัวผม”

ณ โมเมนต์ที่เจอเรื่องถาโถมมีจุดที่รู้สึกดาวน์หรือรู้สึกว่ามันโหดร้ายกับเราจังเลยมั้ย? “จริงๆผมก็พยายามตั้งรับกับทุกอย่างในชีวิตไม่ว่าจะทำอะไร ทั้งเรื่องงานและเรื่องเรียน ไม่ว่าเรื่องอะไรก็คิดว่ามันมีอีกด้านได้เสมอ”

มีจุดที่ทำให้อยากหยุดจากวงการนี้มั้ย? “ไม่หยุดครับ ผมก็ต้องเดินหน้าต่อ”

กำลังใจที่สำคัญกับเรามาจากอะไร? “ครอบครัวครับ แฟนๆและทุกคนรอบตัวให้กำลังใจเยอะมาก”

ทำให้การเปิดรับใครเข้ามาในชีวิตหรือการเรียนรู้ใครต้องดูให้รอบคอบมากขึ้นมั้ย?

“มันต้องดูให้รอบคอบขึ้นครับ ที่ผ่านมาผมก็คิดว่าผมรอบคอบนะ อาจจะยังไม่เปิดรับใครดีกว่า ต้องคิดให้เยอะกว่าเดิม ก็ต้องระวังมากขึ้น บางทีระวังอย่างเดียวไม่ได้ อาจจะต้องระแวงด้วย”

แกร่งขึ้นมั้ยจากเรื่องดราม่า? “แกร่งขึ้นในระดับหนึ่งและระวังตัวมากขึ้นครับ”

เห็นเป็นหนุ่มนิ่งๆ แต่จริงๆเซนซิทีฟ? “ใช่ครับ ผมแค่เป็นคนไม่พูดออกมา ตอนข่าวเยอะๆตอนนั้น พยายามพักผ่อน นอน ตัดหลายๆอย่างออก พอเสพอะไรเยอะมันเครียด โชคดีตอนนั้นเป็นช่วงที่ไม่ได้ทำงานเยอะ”

เวลาคนมองว่าเป็นเจ้าเสน่ห์ เจ้าชู้ เราเป็นแบบนั้นมั้ย? “ไม่เจ้าชู้กรุ้มกริ่มนะครับ ปากดีปากแจ๋วเฉยๆ (ยิ้ม) เวลาใครเล่นอะไรมาก็ตามน้ำ แหย่กันเล่นๆมากกว่า”

ณ ตอนนี้สาวที่เข้ากับเราได้ต้องเป็นแบบไหน?

“ต้องเป็นคนที่เข้าใจงานของเราจริงๆ และไม่ได้คิดที่จะทำร้ายกันจริงๆ เข้าใจในงานเวลาเราเล่นละครกับผู้หญิง หรือบทเลิฟซีน หรือเวลาไปออกรายการต่างๆ ร่วมงานกับใคร”

ต้องเป็นคนใน วงการรึเปล่าจะได้เข้าใจกัน? “จริงๆคนที่จะเข้าใจก็ไม่จำเป็นต้องเป็นคนในวงการครับ”

สถานะหัวใจ ณ ตอนนี้ล่ะ? “ปล่อยให้มันว่างเปล่าเลยครับ ให้เวลาเป็นตัวกำหนดว่าเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น”

ชีวิตช่วงสถานการณ์โควิด–19 ของลี เป็นไงบ้าง?

“ผมว่าเป็นช่วงที่ได้กดปุ่มรีเฟรช เราได้ทำในสิ่งที่เราอยากทำบ้าง เช่น อยากทำกีตาร์ก็นั่งทำกีตาร์อยู่บ้านเล่น ช่วงนั้นจะมีคลิปผมเล่นกีตาร์เยอะหน่อย ก็ได้รีแลกซ์แต่ก็อยากกลับมาทำงานครับ”

เหงาหรือว่างขนาดนั้นมั้ย? “ผมไม่ค่อยเหงาเพราะผมเป็นคนชอบอยู่บ้านอยู่แล้ว”

แปลว่าฝันเรื่องการทำเพลงอยู่ในใจตลอด? “ใช่ครับ เป็นงานอดิเรกที่ผมชอบ แพลนเรื่องการทำเพลง ผมปล่อยไปแล้วเพลงนึง กระแสก็ดีนะครับ หลายคนบอกว่าน่าจะมีเพลงที่สองได้แล้วก็กำลังดูอยู่ครับ จริงๆ ผมอยากเป็นคนที่ทำงานในวงการทุกอย่าง เบื้องหน้าเบื้องหลัง ถ้าแก่กว่านี้ไม่ได้เล่นบทนำ เล่นเป็นพ่อก็ได้ ทำเบื้องหลังก็ได้”

วงการบันเทิงคือชีวิตเรา? “สามารถพูดได้เลยว่ามันคืองานหลักและอาชีพหลักของผมเลย”

มองตัวเองตอนนี้อยากพัฒนาด้านไหนอีก? “อยากพัฒนาทุกๆด้าน มองตัวเองเหมือนน้ำไม่เต็มแก้วครับ นักแสดงใหม่ๆเข้ามาทุกวัน เราเองก็ควรเป็นรุ่นพี่ที่ดีและมีอะไรสามารถบอกต่อน้องๆได้ด้วย ไม่ใช่ว่าเราจะทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้วเรียบร้อยแล้ว บางทีน้องๆ รุ่นใหม่อาจจะเป็นคนสอนอะไรผมได้มากกว่า”.

เรื่อง: สุภลัคน์ วุฒิกรีธาชัย

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2225580
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2225580