“ส่วนใหญ่จะเป็นช่วงในตัวเมือง ซึ่งก็ถือว่าหนักสุดในรอบ 10 ปี แต่ที่สวนของผมโชคดีคือมันจะมี 2 ฝั่ง ดังนั้นเวลาน้ำมามันก็จะท่วมแล้วก็ไป โดยธรรมดาเวลาที่ท่วมก็ประมาณครึ่งวันก็แห้งแล้วครับ แต่ว่าสิ่งที่มากับน้ำคืองู ล่าสุดงูเหลือมซัดไก่ผมไป 3 ตัว (ยิ้ม) เขาหนีน้ำมาแหละ เราก็ถือว่าโอเคนะ เราเอาอยู่ และจริงๆทุกปีมันก็จะอยู่ในช่วงนี้ แต่ว่าปีนี้ก็ต้องยอมรับว่ามันตกหนักจริง ในจุดที่เป็นสวนของผม ผมคิดว่าเรารับได้ แต่สวนคนอื่นผมก็เป็นห่วงครับ”

ชีวิตตอนนี้ถือว่าเป็นเกษตรกรเลยรึเปล่า?

“แบ่งพาร์ตครับ คือเอาความตั้งใจว่าในบั้นปลายเราจะมาอยู่ที่นี่ขึ้นมาทำก่อน ก็คือไม่ต้องรอแล้ว และก็ต้องขอบคุณครอบครัวภรรยาด้วยที่ให้ความรู้ รวมถึงตัวเราเองก็เปลี่ยนวิกฤติจากโควิด-19 ให้เป็นโอกาส เพราะ 2 ปีที่ผ่านมา เราได้เรียนรู้และก็ได้พัฒนาไปพร้อมๆกัน อย่างตอนนี้ก็กำลังขยายแปลงด้วย ถือว่าเป็นความพอเพียงอย่างหนึ่งในครอบครัวที่สร้างความมั่นคงได้”

สนุกมั้ยกับการได้ลงมาทำด้วยตัวเองแบบนี้?

“สนุกครับ และมันไปได้ดีเลยทีเดียว อีกอย่างมันก็เป็นเรื่องของปัจจัย 4 เพราะถึงยังไงคนเราก็ต้องกิน แต่ว่าในพาร์ต การทำงานหลักเราก็ยังทำเหมือนปกติ เพียงแค่ตรงนั้นเราก็เริ่มไว้เพื่อที่วันหนึ่งเราจะได้กลับไปเป็นชาวสวน ผมมีที่ดินอยู่ตรงนั้นตั้งแต่ตอนอายุ 20 ต้นๆ และก็คิดว่าบั้นปลายอายุสัก 60 คงได้ไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น แต่พอจังหวะชีวิตมันมีโอกาสให้ผมได้ไปก่อน ผมรู้สึกว่าทำไมต้องรอ อีกอย่างมันก็สร้างความมั่นคงให้กับครอบครัวผมด้วย”

พูดถึงครอบครัวบ้าง มีแพลนเรื่องทายาทคนต่อไปแล้วหรือยัง?

“พยายามอยู่ครับ ตั้งแต่ครึ่งปีหลังมานี้เราก็ลุ้นกันอยู่ และก็บำรุงกันมาเรื่อยๆ”

ตั้งใจจะให้เป็นลูกสาวเลยมั้ย?

“ถ้าเลือกได้ก็อยากให้เป็นครับ แต่เราก็อยากจะให้เป็นธรรมชาติก่อน และหากต้นปีหน้ายังไม่มีวี่แววเราก็คงต้องมาคุยกันใหม่ว่าอาจจะมีน้องโพธิ์คนเดียวหรือเปล่า เพราะวัยเราเองก็มาถึงจุดหนึ่งแล้วด้วย”

น้องโพธิ์อยากมีน้องมั้ย?

“อยากครับตามประสาลูกคนเดียว (ยิ้ม) อย่างเวลาเราอยู่บ้านด้วยกันแล้วเค้าชวนเราไปเล่นด้วย เค้าบอกว่าเขาไม่มีเพื่อน เราได้ยินเราก็ใจหล่น”

น้องโพธิ์บอกมั้ยว่าอยากได้น้องสาวหรือน้องชาย?

“เค้าอยากได้น้องสาวครับ”.