ฝ้าย เวฬุรีย์ ดีใจ แอนชิลี มงลง ปลื้ม บิวตี้ สแตนดาร์ดเปลี่ยน


ให้คะแนน


แชร์

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

ฝ้าย เวฬุรีย์ ดีใจ – ขอแสดงความยินดีกับ แอนชิลี สก็อต เคมมิส มิสยูนิเวิร์สไทยเเลนด์ 2021 สำหรับ ฝ้าย เวฬุรีย์ ดิษยบุตร อดีตมิสยูนิเวิร์สไทยเเลนด์ 2014 ซึ่งได้ออกมาเปิดใจถึงค่ามาตรฐานความสวยที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัยที่เปิดกว้าง พร้อมให้กำลังใจกับแอนชิลี มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2021

ล่าสุดเห็นโพสต์ไอจีเชียร์แอนชิลีสุดใจ?ชอบมาก อยากจะบอกน้องว่าเชียร์น้องตั้งแต่วันแรก คือฝ้ายก็แอบส่องดูในโพสต์นางงามบ่อยๆ พอรู้ว่าน้องคนนี้จะลง ดูสตอรี่ก็น่าสนใจแล้วพอได้ติดตามก็รู้ว่า เฮ้ย…ฉันชอบคนนี้มาก ไม่ได้ชอบแค่ในสตอรี่ คือชอบทุกอย่าง ทั้งในเรื่องของความธรรมชาติ คือเป็นคนที่ชอบผู้หญิงยิ้มสวยค่ะ ก็ยิ่งชอบน้องไปอีก แล้วพอมาเจอรอบตอบคำถามที่ได้โกลเด้นยิ่งชอบเข้าไปอีก ก็เลยรู้สึกว่าฉันเชียร์คนนี้แหละ

เอาจริงๆ คือไม่ค่อยได้ดูนางงามนะคะ แต่ว่าปีนี้ส่งใจให้ 100 เปอร์เซ็นต์ และจะเชียร์ต่อไป ดีใจกับน้องที่ได้มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ เหลือเวลาอีกไม่มาก ก็อยากจะเป็นกำลังใจให้น้อง ขอให้น้องตั้งใจแล้วก็ไม่ต้องกดดันตัวเองมากขนาดนั้น เป็นตัวเองให้ได้มากที่สุด ส่งกำลังใจให้ค่ะ เชื่อว่าหลายๆ คนก็ส่งกำลังใจให้น้องเหมือนกัน ทำให้เต็มที่ทำให้ดีที่สุดค่ะ”

ค่านิยมการประกวดนางงามที่เปลี่ยนไป?จริงๆ รู้สึกดีใจที่เห็นการเปลี่ยนแปลงความคิดของทุกคนเลย เพราะบางคนเขาอาจจะไม่ได้ดูนางงามมาก่อน แต่พอตอนนี้การประกวดมาแล้วคนภายนอกก็สนใจวงการนางงามมากขึ้น มันทำให้คนหลายๆ คน ที่ไม่ใช่แค่วงการนางงาม ได้ตระหนักถึงบิวตี้สแตนดาร์ด มันจะต้องอยู่แค่ตรงนี้ค่ะ

ผู้หญิงจะต้องเอวเล็ก เอว 23 นิ้วเท่านั้นถึงว่าสวย คือมันไม่ได้อยู่ที่รูปลักษณ์ขนาดนั้น แต่มันอยู่ที่สมาธิ อยู่ที่กึ๋นในสมองของเรามากกว่า ดีใจที่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงจากปีเรา คือมันคนละแบบกันเลย เรามาอยู่ตรงนี้คิดว่าโลกพัฒนาไปจริงๆ และประเทศไทยก็พัฒนาไปจริงๆ ดีใจค่ะที่มันมีวันนี้ขึ้นมาค่ะ”

ช่วงนี้คนไทยหันมารณรงค์การไม่บูลลี่เพิ่มมากขึ้น เรามีความคิดเห็นอย่างไรที่เราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้?
“จริงๆ เรารู้สึกว่ามันก็ดีที่หลายๆ คนเริ่มเปิดรับสิ่งต่างๆ เพิ่มมากขึ้น แต่สำหรับฝ้ายคิดว่ายังไงแล้ว เราต้องสร้างภูมิคุ้มกันที่ตัวเราเองก่อนอยู่ดี คือไม่สามารถที่จะไปห้ามความคิดเขาว่าห้ามบูลลี่ มันยากกว่าการสร้างภูมิต้านทานให้กับตัวเราเองว่าแข็งแกร่งถึงแม้เราจะเจอคำบูลลี่

แต่ว่าเราต้องสู้มันให้ได้ค่ะ เป็นฟีลนั้นมากกว่า ฉะนั้นก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมากมายกับการที่คนหันมาเลิกบูลลี่ คือเรารู้สึกว่าถึงคุณจะบูลลี่ฉันมา แต่ถ้าฉันแข็งแกร่งพอ เราก็จะไม่รู้สึกอะไรอยู่แล้ว เหมือนเราไม่ได้ให้ค่าเขาที่เขาว่าเรา”

ถ้าย้อนกลับไปรู้สึกเสียดายไหมกับโอกาสที่ได้รับมง แต่ดันอยู่ในยุคที่ยังมีการบูลลี่? “จริงๆ ก็เสียใจ คือตอนนั้นเรารู้สึกว่าเราตัดสินใจถูกแล้ว แต่เรากลับมาคิดว่าถ้าเกิดในตอนนั้นมาเป็นในตอนนี้ เราก็คงจะไม่ตัดสินใจแบบนั้น ทุกวันนี้เราก็เหมือนมีภูมิต้านทานจากเหตุการณ์ในวันนั้น มันก็จะคนละสถานการณ์กันอยู่ดี ซึ่งถ้าเป็นเราในวันนี้ไปยืนอยู่ในวันนั้น

เราก็อาจจะไม่สละตำแหน่งก็ได้ เพราะว่าเหมือนเราโตขึ้นแล้ว แต่มันก็พูดยาก เพราะสิ่งที่ทำให้เราโตขึ้นมันก็คือเหตุการณ์ในวันนั้น มันก็มีคนถามว่าถ้าย้อนเวลาได้จะกลับไปสละมั้ย ฝ้ายก็คิดว่าเราคงทำเหมือนเดิม ถ้าเกิดเราไม่ทำแบบนั้น มันอาจจะไม่มีเราในวันนี้เลยก็ได้ เราอาจจะไม่ได้โตมาแข็งแกร่งขนาดนี้”

เหตุการณ์ในวันนั้น หากย้อนคิดไปถูกโจมตีแรง? “มันกดดันค่ะ สำหรับฝ้ายก็แค่คิดว่ามันกดดันตัวเรา แต่ว่ามันพีก เพราะว่าเราหันไปเจอพ่อแม่ คนรอบตัวเรา ซึ่งฝ้ายเห็นว่าเขาเครียดมาก จนบางทีเขากินไม่ได้ มันก็เลยทำให้เรายิ่งเครียดไปมากกว่าเดิม ลำพังตัวเรา เราโอเค เราทนได้ ไม่ว่าคนจะด่าเรายังไง เรารับได้เสมอ แต่เราไม่ชอบที่ใครมาว่าพ่อแม่เรา คนที่ไม่ได้เกี่ยวกับสิ่งที่เราทำอะไรเลย เราก็เลยรู้สึกว่ามันไม่โอเคแล้ว

แต่สำหรับตัวเรา เราพร้อมหมด ด่าเรามาเถอะ เราไม่เป็นไร คือมันเหลืออดนะคะ ไม่ใช่ว่าไม่อ่านคอมเมนต์ต่างๆ แต่เราก็มีการเลือกสิ่งที่อ่านแล้วไม่ดีจริงๆ นำมาปรับปรุงต่อ แต่ว่าอันไหนที่มันไม่ใช่เรา เราก็พยายามมองผ่านไป ถามว่ามันเป็นปมจนมาถึงทุกวันนี้มั้ย มันก็เป็นปมนะคะ (ยิ้ม) มันเหมือนอยู่ในใจลึกๆ จริงๆ มันฝัง ถึงแม้เราจะบอกว่าไม่เป็นไร โอเค รับได้ แต่จริงๆ มันก็ยังอยู่ในใจเรา เหมือนมันฝังลึกไปในความทรงจำไปแล้ว”

เหตุการณ์นั้นมันทำให้เราพัฒนาตัวเอง ตอนนี้แซ่บมาก? “จริงๆ มันเหมือนเป็นแรงผลักดันค่ะ ตอนนี้ก็คือหน้าสดมาก (ยิ้ม) มันเป็นแรงผลักดันอยู่ลึกๆ ค่ะ เพราะมันเหมือนกลายเป็นว่าเราอยากจะพิสูจน์ให้คนอื่นเห็นว่าเราสามารถพัฒนาตัวเองได้นะ ไม่ใช่แต่เรื่องของหุ่น ถึงแม้ตอนนี้ฝ้ายจะไม่ได้เป็นนางงามแล้ว ฝ้ายมาเล่นละคร เราก็อยากจะพัฒนาตัวเองให้ได้ดีมากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้

ถ้าเราอยู่ในฐานะของนักแสดง เราก็อยากจะเป็นนักแสดงที่ดีไปเรื่อยๆ ไม่อยากหยุดอยู่กับที่ แล้วที่ทำไปก็ไม่ได้ทำเพื่อคนอื่น แต่ว่ามันเพื่อตัวเราเอง เพราะว่าถ้าเกิดเราพัฒนาตัวเราได้ สิ่งที่จะเกิดขึ้นมันก็จะเกิดขึ้นกับตัวเราเอง ไม่ใช่คนอื่นค่ะ”

นิยามความงามในฉบับที่ตัวเราเป็น? “จริงๆ ผู้หญิงในยุคนี้ถือว่าโชคดีมากๆ นะคะ คือโลกมันเปิดกว้างมากๆ ทั้งเรื่องของ หุ่น สีผิว รูปร่าง หน้าตา มันเปิดกว้างมาก เพราะฉะนั้นอยากจะให้ทุกคนมั่นใจในตัวเอง สำหรับฝ้ายในตอนที่ฝ้ายประกวด ฝ้ายรู้สึกว่าฝ้ายมั่นใจในตัวเอง คือเราไม่ได้มั่นใจว่าเราจะได้มงนะคะ แต่เรามั่นใจในความสวยของเรา เราคิดว่าเราสวย

ถึงแม้ว่าวันนั้นฝ้ายอาจจะไม่ได้เป็นตัวเต็ง ไม่ได้เป็นคนที่ทุกคนมองว่าสวยที่สุด แต่ในใจลึกๆ เรามองว่าเราสวย เพราะฉะนั้นความมั่นใจมันจะเป็นออร่า มันจะเป็นพลังที่สามารถส่งไปให้คนดูได้ว่าเราสวยจริงๆ ฝ้ายเลยอยากจะบอกให้ทุกคนมั่นใจเข้าไว้ ไม่ว่าจะมีรูปร่างหน้าตาลักษณะแบบไหน คือขอให้มั่นใจในตัวเองว่าฉันสวย ส่องกระจก พูดทุกวันเลยค่ะว่าสวย ฝ้ายว่ามันโอเคมากๆ ค่ะ”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6697310
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6697310