เอ็ม-มิกซ์ เปิดเผยครั้งแรกเป็นลูกหม่ำ จ๊กมก ไม่ง่าย มีความลำบากใจ


ให้คะแนน


แชร์

การเกิดมาภายใต้ร่มของลูกหม่ำ ยากมั้ย?
เอ็ม : มันยากมากกับการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเดินไปไหน เหมือนเรามีไฟมาส่องตลอด ทุกคนรู้จักเรา เราจะทำอะไรทุกคนจะคอยจ้องละ ถูกหรือเปล่า ผิดหรือเปล่า ทำไมลูกพี่หม่ำทำแบบนี้ คือมันเหมือนมีบรรทัดฐานของพ่อ

เอาง่ายๆ มีเงาและรอยเท้าของพ่ออยู่แล้ว เราไม่สามารถเหยียบให้มันเท่ารอยเท้าพ่อได้ แต่พอโตขึ้นมาเอ็มเปลี่ยนมุมมอง คนจะมองว่าเราจะต้องเหมือนพ่อ ต้องตลกเหมือนพ่อ แต่ธรรมชาติแล้วไม่มีใครเก่งเหมือนกันหรอก ออกมาจากท้องพ่อท้องแม่ ไม่ได้หมายความว่าเอ็มต้องเป็นตลก เอ็มอาจจะถนัดทางอื่นก็ได้

เอ็มอยากให้มองที่ความสามารถของแต่ละคน อย่างเอ็มชอบพูด เอ็มอยากเป็นพิธีกร น้องชอบร้องเพลง ซึ่งอย่างเมื่อก่อนจะโดนดูถูกเยอะ โดยเฉพาะช่วงที่เอ็มเข้ามาทำหนังเรื่องแรก แรงกดดันก็จะเยอะมากว่าจะ 100 ล้านเท่าพ่อหรือเปล่า จะทำได้เท่าพ่อมั้ย ไปเรียนมาต้องดีกว่าพ่อสิอะไรอย่างนี้

ซึ่งมันกดดันมาก ทุกครั้งที่เอ็มไปออกกอง เอ็มร้องไห้ตลอด ไม่เอ็นจอย รู้สึกว่ามันกดดันมากเลย มันเหมือนเราไม่ได้เป็นตัวเอง เหมือนเราต้องเป็นเอ็มลูกหม่ำ มันไม่ใช่ เอ็ม บุษราคัม แค่ตอนนี้ดีเพราะทุกคนสามารถรู้จัก เอ็ม บุษราคัม ได้แล้ว ไม่มีลูกหม่ำมาต่อท้ายแล้ว

ถ้าจำไม่ผิดเรื่องนี้คว้าไป 200 กว่าล้าน?
เอ็ม : ใช่ค่ะ แต่ว่าแอบรู้สึกว่าส่วนนึงเป็นเพราะเครดิตของพ่อหรือเปล่า เพราะพอเป็นเอ็ม ลูกหม่ำปุ๊บ คนก็มาดู อันนี้เป็นส่วนที่เอ็มคิดนะ อาจจะแสดงความสามารถได้ไม่เต็มที่

มิกซ์รู้สึกอย่างนั้นไหม?
มิกซ์ : ผมพูดตรงๆ ผมไม่สนแล้วว่าคนอื่นจะมองผมยังไง แต่สมัยก่อนคิด เหมือนพยายามมากดดัน แล้วใส่เรื่องราวที่ไม่ใช่ตัวเรา แล้วเราก็พยายามจะทำให้คนยอมรับให้ได้ แต่พอมาตอนนี้ผมไม่สนแล้ว

เราหลุดมาจากกรอบตรงนี้ได้ไง?
มิกซ์ : ช่วงโควิด ล็อกดาวน์ครั้งแรกผมคิดมากเกินไป ผมไปอ่านคอมเมนต์พวกดราม่าจนผมเข้าโรงพยาบาล กินไม่เป็นเวลา บวกกับเรื่องเพลง ผมก็เลยคิดวันที่ผมเข้าโรงพยาบาลมีพี่สาวผมโทรมาถาม พ่อผม แม่ผม แล้วแฟนผมมาหาผมเลย

ผมเลยรู้สึกว่าทำไมผมต้องไปแคร์คนแบบนั้นด้วย แล้วคำถามผมคือรู้สึกกดดันมั้ย มันเป็นคำถามของเขามากกว่า คุณรู้สึกกดดันมั้ยที่ได้แค่เมนต์อย่างเดียว ถ้าคุณมาดูผม คุณก็สามารถเช็กงานผมในยูทูบได้

สรุปว่าดีมั้ยเป็นลูกพี่หม่ำ?
เอ็ม : ดีทุกตรง อาจจะมีบ้างตอนเด็กๆ โดนล้อ แต่พอเราโตมาดีทุกตรง ภูมิใจในความเป็นพ่อ เพราะคนรักพ่อเยอะมากมันทำให้พลังรักที่คนส่งมาให้พ่อ มันส่งต่อมาถึงเอ็ม ถึงน้อง ไม่ว่าจะหยิบจับอะไรยอมรับเลยว่ามีคนสนับสนุน เพราะเขารักพ่อเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

หลายคนจะอิจฉาว่าเราสองคนไม่ได้เริ่มจากศูนย์ เก่งจริงต้องเริ่มจากศูนย์สิ ซึ่งจริงๆ แล้วเอ็มมองว่านี่เป็นข้อดีของเอ็ม แล้วเอ็มต้องมองเห็นข้อดีของเอ็มให้ได้ เพื่อที่จะเอาต้นทุนชีวิตที่ดีไปทำให้กำไรชีวิตเอ็มดีด้วย

ถ้ามีคนรักก็ต้องมีคนมาหาผลประโยชน์ เจอเยอะมั้ย?
เอ็ม : เยอะมาก มาทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนอยากจะมาเป็นแฟน อยากจะมาทำธุรกิจด้วย ทุกคนล้วนมีอะไรในใจทุกคน

ที่มาหนักสุดมายังไง?
เอ็ม : อยากได้อะไรจากพ่อเรานี่แหละ อยากให้พ่อเอาเขาไปเล่นหนัง หรืออยากจะเข้ามาถ่ายอะไรกับพ่อ แต่ส่วนใหญ่จะมาหาเราเพราะอยากพุ่งไปหาพ่อ แต่เอ็มบอกตรงๆ ว่าเอ็มเป็นคนทันคน เอ็มเป็นห่วงน้องมากกว่า

มิกซ์ : คือบางทีก็มีคนเข้ามาทางพ่อทางแม่ แล้วมาทำดีกับเรา แต่เราก็มองเห็นและดูออก แต่ก็ไม่บอกพ่อ แค่มองหน้าเฉยๆ

เคยมีคนเดินมาขอเงินเลยมั้ย?
เอ็ม : มีค่ะ มีครั้งนึงคนไม่รู้จักเลยนะ มากดออดหน้าบ้านตอนเที่ยงคืน มาขอยืมเงินหมื่นนึง แล้วพ่อก็ไปเปิดประตูให้เขา

มิกซ์ : ล่าสุดผมก็เจอ ขับรถเข้าบ้านเจอเลย ผมมาหาหม่ำ อยากมาทำงานกับพ่อ

เอ็ม : น่ากลัวมาก บางทีก็หาที่อยู่เราเจอได้ไงก็ไม่รู้ กลายเป็นว่าความเป็นส่วนตัวก็ไม่มี เข้ามาเจอเลย

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2230744
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2230744