เปิดใจทุกเรื่อง ดิว อริสรา ผ่านทุกกระแสดราม่ากว่าจะมีวันนี้ ไม่สนใครแซะ


ให้คะแนน


แชร์

ต้องยอมรับว่า ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์ เป็นอีกหนึ่งสาวเซ็กซี่เบอร์ต้นๆ ของวงการบันเทิงที่ถูกจับตามอง ด้วยความสวย ความเซ็กซี่ และความร้อนแรงของเธอ ทำให้ไม่ว่าจะทำอะไร ก็ต้องมีประเด็นเป็นกระแสให้หลายๆ คนพูดถึง

วันนี้เรามีโอกาสได้สัมภาษณ์นางร้ายสาวเจ้าของฉายาเน็ตไอดอลภาคพื้นทะเล จึงไม่พลาดที่พูดคุยเรื่องราวชีวิตที่แสนจะ Luxury ของเธอ ซึ่งสาวดิวก็อยากจะตอบให้ทุกคนได้หายสงสัยกับการใช้ชีวิตของเธอเช่นกัน 

กว่าจะเป็น ดิว อริสรา มาไกลกว่าที่คิด

ซึ่งเราไม่รอช้า เริ่มต้นคำถามแรกกับนางร้ายสาวสวยสุดเซ็กซี่ที่นั่งอยู่ตรงหน้ากับคำถามง่ายๆ ที่ว่า เคยคิดหรือไม่ว่าตัวเองจะมายืนอยู่ในจุดที่หลายคนในความสนใจ จะทำอะไรก็เป็นประเด็นให้คนพูดถึง งานนี้ ดิว อริสรา ยิ้มก่อนตอบคำถามนี้ของเราว่า 

“ดิวไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมายืนอยู่ตรงจุดนี้ แต่ยอมรับว่าการที่มายืนอยู่ตรงนี้ก็ไกลกว่าที่เคยคิดเอาไว้ เวลาดิวจะตัดสินใจทำอะไร ดิวจะทำเพราะอยากทำ ที่อยากเล่นละครเพราะอยากจะเล่นเท่านั้น อยากเล่นละครเพราะอยากได้ตังค์ ในตอนนั้นก็จะทำด้วยเหตุผลนี้

ดิวมีเป้าหมายให้ตัวเอง และดิวรู้สึกดีที่หลายๆ คนเขาเห็นค่าของตัวดิว อย่างหนังเรื่อง Dark World…เกม ล่า ฆ่า รอด เขาก็เอาดิวเป็นจุดเริ่มต้น ดิวยังไม่คิดเลยว่าตัวเองจะถูกเลือกก่อนคนอื่นค่อยว่ากัน

เพราะดิวรู้ตัวว่าตัวเองเป็นตัวเลือกหลังๆ ตัวเลือกสุดท้าย ดิวยังเคยขอเขาเล่นละครอยู่เลย แต่อยู่มาวันหนึ่งกลายเป็นว่าดิวถูกเลือกก่อน มันก็รู้สึกว่ามาไกลเกินฝัน (ยิ้ม)” 

จากนั้น ดิว อริสรา ก็เล่าให้เราฟังต่อว่า จากวันที่เริ่มเข้าวงการตั้งแต่วิ่งแคสต์งานต่างๆ จนถึงวันนี้ก็เป็นเวลา 15 ปีแล้วที่เธอนั้นทำงานอยู่ในวงการบันเทิง ซึ่งก็ล้มลุกคลุกคลานมาไม่น้อย

“จากวันที่เริ่มแคสต์งานต่างๆ จนถึงวันนี้ก็ประมาณ 15 ปีแล้วค่ะ นานมากเลย (ยิ้ม) ดิวเล่นโฆษณา เล่นเอ็มวี เล่นหนังเรื่องแรกค่าตัวแค่ 3 หมื่นบาทเอง (หัวเราะ) ชีวิตมันก็ล้มลุกคลุกคลานมาตามสไตล์นะ (หัวเราะ)

แต่เอาจริงๆ ดิวไม่ได้อยากอยู่ในวงการบันเทิงเพราะอยากหาอาชีพทำ คือดิวมีเป้าหมายว่าอยากจะเล่นละครก็จะรับงานแน่นๆ 7 วัน เพราะคิดว่าจะได้เงินมาเป็นกอบเป็นกำ อันนี้คือเป้าหมาย

ดิวไม่ได้มีความคิดว่า อาชีพของดิวคือนักแสดง เพราะในขณะที่ดิวเป็นนักแสดง ดิวก็ทำงานอย่างอื่นๆ ของดิวไปด้วย มีงานหลายอย่างที่ดิวต้องทำ ดิวทำงานหลายอย่างมาก ทำยันรับเหมาก่อสร้าง ดิวทำอะไรที่มีอยู่รอบตัวและใช้คอนเน็กชั่นที่ดิวมีให้เกิดประโยชน์”

ตัวตนที่แท้จริงของเน็ตไอดอลภาคพื้นทะเล

ภาพลักษณ์คนมองว่า ดิว อริสรา เป็นสาวเซ็กซี่ตัวแม่ เป็นนางร้ายสุดเปรี้ยว แต่ตัวตนจริงๆ ของดิวนั้นเป็นอย่างไร งานนี้สาวดิวบอกถึงตัวตนจริงๆ ของเธอให้เราฟังว่า 

“ดิวไม่ได้เลือกว่าตัวเองจะต้องเป็นคนเซ็กซี่ มาสายเซ็กซี่หรืออะไรเลยนะ เพราะนี่คือตัวตนจริงๆ ของดิว ดิวอยู่วงการมา 15 ปีแล้ว ก็ถูกคนอื่นตัดสินจากภาพลักษณ์ภายนอกที่เขาเห็น แต่เวลาก็ผ่านมา 15 ปีแล้ว มันก็ทำให้คนได้เห็นและเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อตัวดิวไปเยอะเหมือนกัน

เพราะเขาได้เห็นชีวิตของเรามาแล้ว พอดูยาวๆ เขาก็เห็นและไม่อยากจะตัดสินอะไรดิวแล้ว นอกจากคนที่เป็นพวกมือใหม่หัดขับที่อยากจะมาตัดสินชีวิตของดิว เขาเพิ่งเริ่มต้นโดยที่เขาไม่รู้ว่าดิวเริ่มปีที่ 1 มาจนถึงปีที่ 15 นี้ได้ยังไง (ยิ้ม)”

เป็นคนติดหรู ใช้เงินเก่ง 

และต้องยอมรับว่าเมื่อพูดถึงการใช้ชีวิตหรูหรา ไฮโซ แน่นอน ชื่อของ ดิว อริสรา จะต้องติดโผที่หลายคนมองว่ามีชีวิตที่สุขสบายสุดๆ เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ นางร้ายสาวสวยแสนเซ็กซี่ก็ตอบคำถามที่หลายคนสงสัยในความเป็นตัวเธอให้หายข้องใจว่า 

“ดิวเข้าใจที่คนมองว่าดิวใช้ชีวิตหรูหรา เพราะเขาคงมีคำถามว่า เป็นดาราที่ไม่ได้เบอร์ใหญ่เท่าแม่ชม แต่ทำไมใช้ชีวิตได้ขนาดนี้เลยเหรอ ใช้ของแพงขนาดนี้เลยเหรอ

ดิวรู้ตัวว่าเป็นคนติดหรู ใช้เงินเก่งใช้เงินเยอะ ถ้าไม่ทำหลายอาชีพเราก็ไม่มีสิทธิ์มาอยู่ตรงนี้ ก็เลยต้องทำ อย่างทำรับเหมาก่อสร้าง คือที่บ้านดิวทำอยู่แล้ว พอเรามีคอนเน็กชั่น ประมูลงาน ดิวก็จะไปทำ

ดิวเป็นคนดิ้นรน เพื่อนฝรั่งอยากได้กะทิไปขายที่อเมริกา ดิวมีเพื่อนเป็นเจ้าของสวนมะพร้าวก็ติดต่อไป ทำทุกอย่างที่ทำได้ ดิวทำหมด ไม่หมิ่นเงินน้อย ผู้จัดการยังถามเลยว่า ดิวจะมาไลฟ์ขายของทำไม ช่วงที่โควิดก็ไลฟ์ขายของเพราะเพื่อนมีร้านเสื้อผ้า อะไรที่ได้เงินดิวทำหมด ถ้ามีเวลาว่างทำอะไรแล้วได้เงินดิวก็ทำค่ะ

แต่ถึงแม้จะเป็นคนที่ใช้เงินเก่งใช้เงินเยอะ แต่ดิวก็ไม่เคยใช้เงินเกินตัวเลยเพราะว่ารู้ตัว ไม่ใช่เป็นคนที่ใช้เงินแล้วไม่ดูตัวเอง ดิวรู้ว่าถ้าอยากจะใช้เงินเยอะก็ต้องหาเงินเยอะๆ หาให้ได้เท่าที่ตัวเองใช้ (ยิ้ม)”  

เพราะความใช้ชีวิตหรูหรามีระดับ งานนี้จึงทำให้หลายๆ คนชอบเข้ามาคอมเมนต์แซะนางร้ายสาวสวยผ่านทางโซเชียลอยู่เสมอๆ ซึ่งเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ดิว อริสรา ก็บอกกับเราเวลาถูกคนเข้ามาแซะเรื่องการใช้ชีวิตของเธอว่า  

“เอาจริงๆ นะ ดิวไม่ค่อยใส่ใจอยู่แล้ว เพราะไม่ค่อยได้สนใจ แต่ถ้าจังหวะที่ดิวเห็นหรือดิวให้ความสนใจก็อาจจะมาตอบบ้าง แต่ปกติดิวจะไม่ค่อยคิดอะไร เพราะตอนนั้นดิวมีความสุขอยู่ และดิวก็ไม่ได้ว่างมานั่งดูว่าใครแซะดิวบ้าง

ดิวมีงานที่ต้องทำ มีกิจกรรมที่ต้องทำ จะให้เอาเวลาเอาเงินที่เสียไปตั้งหลายบาทตอนไปอยู่อเมริกามานั่งทุกข์กับการที่ถูกใครก็ไม่รู้มาคอมเมนต์แซะมันก็ไม่ใช่เนอะ เราควรจะอยู่กับความสุขของเรา 

แต่ต้องยอมรับทุกครั้งที่มีคนแซะ ก็จะมีคนมาให้กำลังใจและปกป้อง ซึ่งเอาตรงๆ ดิวก็ไม่คิดนะว่าจะมีคนที่รักดิว และคนที่รักดิวก็เป็นคนที่รักดิวในความที่ดิวเป็นดิว

เรื่องนี้ก็ทำให้ดิวรู้ว่าที่เราเป็นเราอยู่ทุกวันนี้มันก็ดีนะ มันอาจจะมีเรื่องที่ไม่ดี แต่เราก็พร้อมจะปรับปรุง และก็ทำให้ดิวได้เห็นว่าจริงๆ แล้ว คนเรามีน้ำใจต่อกันนะ ให้โอกาสกันนะ สังคมเราถึงได้น่าอยู่”

และถ้าใครที่ได้ติดตามชีวิตอันหรูหราไฮโซของ ดิว อริสรา ก็จะเคยเห็นว่าเธอนั้นเคยไปช็อปปิ้งกระเป๋า เสื้อผ้าแบรนด์เนมสุดหรู ครั้งละหลายบาท เพราะความอยากรู้เราเลยตามนางร้ายสาวตรงๆ ว่า ของแบรนด์เนมบางอย่างที่ผ่านการใช้ถ่ายรูปลงโซเชียลแล้ว ทำอย่างไรกับข้าวของเหล่านั้น งานนี้เราได้รับคำตอบที่ทำให้ได้รู้ว่า ดิว อริสรา เป็นคนหวงของ

“เอาจริงๆ นะดิวไม่เคยขายของใช้ตัวเองเลย ไม่ชอบขายเพราะดิวเป็นคนหวงของ กว่าจะได้มามันเป็นของที่ซื้อมาจากเงินที่หามาได้ด้วยน้ำพักน้ำแรงของเรา ดิวเป็นพวกขี้หวงเวลาจะขายก็รู้สึกว่าไม่อยากขาย 

เพื่อนอยากซื้อต่อแต่ดิวก็ไม่ยอมขาย แต่ให้เพื่อนยืมไปใช้ได้ (หัวเราะ) ของแบรนด์เนมขายไปก็ไม่ได้กำไรอะไร สู้เราให้เพื่อนยืมดีกว่า ทุกวันนี้ดิวเหมือนกองเบิกเครื่องประดับ กระเป๋า เสื้อผ้า

เพื่อนๆ ลูกๆ จะมาขอยืมของใส่ไปถ่ายงาน ดิวก็จัดให้ พวกบิกินีก็ไม่เคยขาย บางตัวใส่แค่ครั้งเดียว บางตัวก็ให้เพื่อนยืมไปใส่ มันคือความสุขของดิวนะที่ได้แบ่งปันของให้เพื่อนๆ ได้ใส่” 

สาวสายบุญ

แม้จะเป็นสาวเปรี้ยว สายเซ็กซี่ร้อนแรง แต่หลายๆ คนก็คงจะรู้ว่า ดิว อริสรา นั้นชอบทำบุญมาก หากมีโอกาสได้ทำบุญหรือช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน สาวดิวก็จะไม่ลังเลและรีบทำเมื่อมีโอกาส 

“ดิวแค่อยากทำ อยากช่วยเหลือคนค่ะ แล้วก็รู้สึกดีที่ได้ทำ ดิวชอบทำบุญมานานแล้ว แต่ตอนเด็กๆ ดิวมีเท่านั้นก็ทำเท่านั้น แต่พอมาวันนี้พอเรามีมากกว่าเมื่อก่อน ดิวก็ทำเต็มแม็กเท่าที่ดิวสามารถทำได้

ดิวไม่เคยรู้สึกเสียดายเลยสักบาทที่ดิวได้บริจาคหรือทำไป จะเป็นเงินล้านหรือเท่าไหร่ก็ไม่เสียดาย ดิวอยากช่วย ดิวอยากทำ ก็เลยเป็นงานอดิเรกของดิวไปเลย เพราะทำแล้วมีความสุขมาก 

ดิวทำ ดิวช่วยทุกช่องทางเลย ทำบุญเกือบทุกวัน ตอนที่ช่วงโควิดหนักๆ ก่อนจะไปอเมริกา ดิวทำทุกวันเลย ทำข้าวกล่อง ซื้อของบริจาค บริจาคเงิน สร้างเตียงสนาม ถ้าดิวรู้ว่าตอนนั้นต้องการความช่วยเหลืออะไร ดิวจะทำ

เพราะความสุขมันเริ่มตั้งแต่ตอนที่ทำแล้ว แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว ดิวไม่ได้คาดหวังว่ากระแสตอบกลับมาถึงตัวดิวจะเป็นยังไง รู้แค่ว่าจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ ข้าวกล่องก็ต้องเลือกเมนู ห่วงและนึกถึงคนที่จะได้รับว่าเขาจะโอเคกับข้าว ขนม น้ำที่ส่งไปมั้ย อยากให้เขาทานของดีๆ ตามสไตล์ดิว (หัวเราะ)”

เพราะเป็นคนที่ทำบุญหนัก ช่วยเหลือเต็มที่ งานนี้เลยทำให้หวานใจหนุ่ม เซบาสเตียน ถึงกับไม่เข้าใจในการกระทำของแฟนสาว ซึ่ง ดิว อริสรา เล่าถึงเรื่องนี้ให้ฟังก่อนจะบอกว่า ทุกวันนี้แฟนหนุ่มได้ซึมซับเรื่องนี้ไปจากเธอบ้างแล้ว

“สำหรับเซบาสเตียน แรกๆ เขาไม่เข้าใจเลย เขาไม่ค่อยเก็ตเลยว่าทำไมต้องทำขนาดนี้ ว่างไม่ได้ต้องหาอะไรมาทำ ทำไมต้องช่วยคนมากขนาดนี้เลยเหรอ ไปบริจาคเงิน 1 ล้านบาท เขาไม่เข้าใจ แต่ทุกวันนี้เขาเข้าใจแล้ว ซึมซับขึ้น รับวัฒนธรรมของเราไปมากขึ้น”

จากนั้น ดิว อริสรา ก็ได้เล่าถึงความน่ารักของหวานใจหลังจากที่คบหาและเรียนรู้ว่าแฟนสาวชอบการทำบุญมากจึงได้จัดทำเซอร์ไพรส์ให้ในวันเกิดที่ผ่านมา ซึ่งดิวเล่าถึงเซอร์ไพรส์เรื่องนี้ด้วยรอยยิ้ม 

“อย่างตอนวันเกิดก็มีเซอร์ไพรส์พาดิวไปถวายสังฆทานให้พระ 9 รูป นี่คือเซอร์ไพรส์ที่เขาทำให้ เขารู้ว่าดิวชอบทำอะไรแบบนี้ บางวันมีเซอร์ไพรส์บอกไปบริจาคเงินให้กับที่นี่ด้วยนะ เพราะเขารู้ว่ามันคือความสุขของดิว

ดิวอธิบายให้เขาฟังว่า ประเทศของเราถ้าไม่พึ่งกัน มันก็จะเหนื่อยจะแย่ คนไทยเราช่วยกันมานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาช่วยกันตอนโควิด มันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว เวลาที่มีคนถามดิวว่าทำไมต้องช่วย ดิวก็จะบอกว่าแต่ละคนมีบทบาทหน้าที่ไม่เหมือนกัน คนบางคนมีหน้าที่เป็นผู้รับ คนบางคนเกิดมาเพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ให้ โลกมันถึงกลม เพราะมันมีทั้งคนรับและคนให้

ดิวอาจจะมีดวงที่เกิดมาแล้วเป็นคนชอบให้ ดิวก็จะอธิบายไปแบบนี้เหมือนกัน แต่ถ้าทุกคนคิดว่าไม่ต้องช่วยๆ มันก็จะฉิบหายไปเลยสิ จริงๆ แล้วก็ตามแต่ละคนจะสะดวก ตัวดิวสุขที่จะให้ ถ้าคุณจะไม่ให้ก็ไม่ต้องพูดเยอะ”

ยังไม่พร้อมแต่งงาน

ไม่ต้องพูดถึงความรักของนางร้ายสาวกับหวานใจหนุ่ม หลายคนคงจะรู้ว่าทั้งคู่รักกันสวีตหวานสุดๆ แต่เมื่อถูกถามถึงเรื่องอนาคตถึงขั้นแต่งงาน งานนี้ ดิว อริสรา ก็ได้บอกความในใจของเธอให้ฟังว่า 

“ถ้าเรื่องแต่งงาน เขาก็น่าจะมีมองนะ มีคุยๆ แต่ตัวดิวไม่รีบขนาดนั้น พอเราผ่านอะไรมาเยอะ การที่คบใครมา 1 ปีแล้วคิดถึงเรื่องแต่งงานสำหรับดิวมองว่าไวไป อาจจะดูเหมือนหัวโบราณนะ ดิวก็เลยยังไม่ค่อยอยากจะคุยเรื่องนี้เท่าไร เพราะอะไรๆ มันก็ไม่แน่นอน 

ดิวไม่มีภาพอยากจะแต่งงานเลย ไม่มีความคิดว่างานแต่งงานจะต้องเป็นแบบนั้น ดิวก็ไม่รู้ว่าจะคิดไปทำไม เพราะไม่รู้จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เอาไว้เกิดขึ้นก่อนแล้วค่อยคิดก็ได้ 

แต่ดิวรู้ว่าเขาคงยังไม่ทำเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานในเร็วๆ นี้หรอก เพราะเขาก็มีแพลนเอาไว้ว่า ดิวจะต้องไปเจอพ่อกับแม่ของเขาก่อน และเหตุการณ์นั้นมันถึงจะเกิดขึ้น 

ซึ่งดิวรู้ว่ายังไงก็ไม่ใช่ช่วงนี้อย่างแน่นอนเพราะยังไม่ได้เจอ ก็เหมือนเป็นการซื้อเวลาไปก่อนว่ายังไม่ต้องมากังวลเรื่องนี้ แต่ถ้าได้เจอพ่อกับแม่เขาก็คงจะเริ่มหลอนๆ ถ้าความรักเรายังแฮปปี้ดี จะปฏิเสธก็ไม่ได้ ดิวคงเด๋อๆ ด๋าๆ (ยิ้ม) 

แต่สำหรับเขาได้เจอคุณแม่ดิวแล้ว แต่ยังไม่ได้เจอคุณพ่อ ซึ่งเขาเข้ากับแม่ดิวได้ดี เขาน่ารัก ดูแลแม่ดิวดีมาก เขาไม่เคยบ่ายเบี่ยงเลย เขาอยากจะเสนอหน้าเจอแม่ดิวตลอดเวลา บางทีดิวอยากจะกลับบ้านไปกินข้าวกับแม่แบบแม่ลูก แต่เขาก็อยากจะไปด้วย แต่เขาก็น่ารักค่ะ (ยิ้ม)”

ประสบการณ์ที่ผ่านมาสอนให้เข้าใจ

เพราะ ดิว อริสรา เป็นคนในวงการบันเทิงมีชื่อเสียงที่คนรู้จัก งานนี้เราเลยถามนางร้ายสาวตรงๆ ว่า การที่เซบาสเตียน มาคบหากับเธอนั้น ฝ่ายชายเข้าใจในอาชีพการงานของเธอหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้สาวดิวก็หัวเราะก่อนจะเล่าให้ฟังว่า 

“ตอนที่เขามาจีบ เขารู้ว่าดิวเป็นดาราแต่ไม่คิดว่ามีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักขนาดนั้น พอมารู้ก็งงและเกาหัว อย่างเหตุการณ์ตอนวาเลนไทน์ เหตุเกิดเพราะไปอ่านคอมเมนต์ในใต้เตียงดารา แล้วก็แคปคอมเมนต์นั้นไปให้เพื่อนแปล เพราะนางสงสัยว่าทำไมคอมเมนต์นี้คนกดหัวใจเยอะจัง เป็นพวกแบบถ้ามีคนเห็นด้วยเยอะแบบนี้ต้องจริง พอเพื่อนแปลก็มโนว่าดิวซื้อแหวนให้ 2 คน จากนั้นก็อัพด่าดิวเรียบร้อย

จากนั้นเขาก็ตกใจว่าแค่อัพสตอรี่จะเป็นข่าวได้ขนาดนี้ จนเพื่อนเขาต้องสะกิดบอกว่าแฟนเธอก็มีชื่อเสียงนะ ก็ต้องทำการเคาะกะโหลกนิดนึงเพื่อให้รู้ว่าจะทำอะไรตามใจไม่ได้นะ ต้องคิดอะไรหลายๆ สเตป 

อย่างกรณีจุดพลุ เขาก็จะคิดแค่ว่าขออนุญาตโรงแรมแล้ว แต่ลืมไปว่าเขาไปบอกชาวบ้านหรือยัง คือคิดชั้นเดียวไม่ได้ ประสบการณ์ที่เจอทำให้เขาก็ค่อยๆ เรียนรู้มากขึ้นค่ะ และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ทำให้เราคุยกันเยอะขึ้น และทำให้เราเข้าใจกันมากขึ้นด้วยค่ะ” 

หายหน้าไปจากละคร

ก่อนหน้านี้แฟนๆ มักจะได้เห็นหน้าและการแสดงของนางร้ายสาวโผล่ตามช่องต่างๆ อยู่เสมอๆ แต่ตอนนี้ ดิว อริสรา แทบจะหายไปจากหน้าจอทีวี ซึ่งเรื่องนี้เราได้รับคำตอบจากปากของเธอว่า 

“คือถ้ามีโอกาสได้บทที่อยากเล่น ดิวก็อยากเล่น ที่อยากเล่นไม่ใช้เพราะอะไรนะ เพราะคิดถึงบรรยากาศกองถ่าย แต่ดิวก็รู้ตัวถ้ากลับไปทำงานละครเต็มตัวเหมือนเดิม งานอื่นๆ ก็จะทำไม่ได้ ก็ต้องจัดสรรเวลาเลยต้องดูดีๆ

แต่ละครที่ดิวจะไม่รับเล่นเลยคือแนวคอมเมดี้ เพราะดิวเป็นคนไม่ขำ เป็นคนช้า บื้อๆ ไม่ทันคน ก็จะบอกผู้จัดการไว้เลยว่าไม่เอานะถ้ามีบทแบบนี้ ถึงจะไม่เคยลองเล่นแต่ดิวรู้เลยว่าเล่นไม่ได้”

กลัวการทำศัลยกรรมผ่าตัด 

และ 15 ปีที่อยู่ในวงการบันเทิงของ ดิว อริสรา ต้องยอมรับว่าความสวยของเธอนั้นสวยแจ่มขึ้นทุกปีและเจ้าตัวก็ยอมรับว่าสวยขึ้นเพราะทำศัลยกรรมแต่เป็นการทำด้วยเข็ม เพราะเธอนั้นกลัวการทำศัลยกรรมผ่าตัดมาก เพราะกลัวจะเกิดการผิดพลาดขึ้น ซึ่งดิวเล่าให้เราฟังว่า 

“ดิวทำศัลยกรรม แต่ดิวไม่ได้ทำศัลยกรรมแบบผ่าตัดเลยเพราะดิวใจไม่ถึงและไม่กล้า แต่ถ้าเป็นเข็มดิวสู้ตาย ดิวสวยเพราะเข็มมาตลอด 10 กว่าปี เพราะฉะนั้นการทำศัลยกรรมของดิวเลยไม่ค่อยพลาด เลยไม่มีอะไรต้องแก้หรือกลัว เพราะฉีดแล้วเห็นเลย ถ้าไม่ดีก็เพิ่ม ดิวเป็นสวยสายเข็มโดยไม่ต้องใช้ยาชา (ยิ้ม) 

คือจะบอกว่าการทำศัลยกรรมแบบลงมีดผ่าตัด ดิวเห็นมาหลายเคสแล้วว่ามีการผิดพลาดและต้องแก้ ดิวไม่อยากแก้ ดังนั้นดิวเลือกการใช้เข็ม ส่องกระจกแล้วแก้ไปด้วยกันกับหมอถ้าจุดนี้เราไม่พอใจ

ดิวเป็นสายฟิลเลอร์ ดิวเติมหน้าทุกปี ยอมทำบ่อยๆ แต่ได้ความสวยที่มันชัวร์ แต่ผู้จัดการเคยบอกให้ไปกรีดตา 2 ชั้น แต่ดิวกลัวและไม่รู้ว่ามันจะเป็นยังไง ดิวเลยทนกับการติดเทปตา 2 ชั้นเอา กับคุณหมอที่ทำให้ดิวเจอตั้งแต่อายุ 17 และคุณหมอคนนี้ก็ยังดูแลดิวอยู่จนถึงตอนนี้ (หัวเราะ)”

ถ้าผิดต้องขอโทษ 

ต้องยอมรับว่าไม่ว่าจะทำอะไร ก็จะมีคนคอยจับผิดและทำให้ชีวิตของ ดิว อริสรา มีเรื่องดราม่าอยู่เสมอ งานนี้เราเลยถามถึงวิธีรับมือและพาตัวเองออกจากเรื่องดราม่าว่าทำอย่างไร งานนี้นางร้ายคนสวยบอกกับเราว่า 

“เวลาเกิดเรื่องที่หลายๆ คนเรียกว่าดราม่า ขั้นแรกคือต้องถามตัวเองก่อนว่าเราผิดมั้ย มีส่วนผิดสักนิดมั้ย ถ้าใช้ไม่ต้องลังเลกับการที่จะพูดคำว่าขอโทษ ดิวไม่ใช่คนที่พูดคำว่าขอโทษไม่ได้นะ ดิวไม่ใช่คนแบบนั้น พอผิดก็ขอโทษ เรื่องจะได้จบง่าย

แต่ถ้าเป็นเคสที่เราไม่ผิด ถ้ามั่นใจก็ไม่ต้องคิดว่าคนอื่นจะคิดยังไง เพราะความเป็นจริงคำว่าดราม่ามันไม่ได้มีอยู่จริง ดราม่าคือสิ่งที่เกิดขึ้นจากคนรอบข้างที่พูดขึ้นมา ดิวไม่เคยเจอใครที่มาด่ามาว่าเราต่อหน้า ถ้าเราอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี และมีคนที่ดีกับเรา ก็อย่าไปสนใจดราม่า อย่าเอามาใส่ในใจ

ดิวไม่ได้ชอบใช้ชีวิตอยู่ในโลกออนไลน์ ดิวอยู่กับชีวิตจริง มองชีวิตจริงๆ ของตัวเอง ใครที่ยกให้ดิวเป็นไอดอล หรือชื่นชอบ ดิวรู้สึกขอบคุณมากนะคะ ยินดีที่เขาชื่นชอบดิวขนาดนี้ แต่ดิวไม่เคลิ้มไปกับคำชมนะ อยากจะบอกว่าอะไรที่ดีก็ทำตาม แต่อะไรที่ไม่ดีก็อย่าทำตามนะคะ”

ผลงานเรื่องล่าสุด 

และตอนนี้ ดิว อริสรา ก็กำลังจะมีผลงานภาพยนตร์เรื่องล่าสุด Dark World…เกม ล่า ฆ่า รอด ที่กำลังจะเข้าฉายที่โรงภาพยนตร์ในวันที่ 11 พ.ย.นี้แล้ว ซึ่งต้องบอกเลยว่า หนังเรื่องนี้ เราจะได้เห็นนางร้ายสาวในอีกบทบาทหนึ่งที่ยากและท้าทายสำหรับเธอไม่น้อย ซึ่งดิวเล่าให้เราฟังว่า 

“บทเรื่องนี้คือสนุก อ่านแล้วใช่ อยากเล่น ท้าทาย ดุเด็ดเผ็ดมันมาก เรื่องนี้มันคือความจริงของโลกปัจจุบัน ดิวอยากให้ทุกคนได้ดูเพราะมันคือเสน่ห์ของหนัง 

ตอนที่เล่นเรื่องนี้ดิวสนุกมาก และก็อยากรู้ว่าคนดูจะได้อะไรจากการถ่ายทอดของเราในหนังเรื่องนี้ ในเรื่องนี้คนก็จะได้เห็นความเซ็กซี่ของดิวอยู่แล้ว เพราะเขาจ้างดิวมา ก็ต้องให้เล่นให้คุ้ม (หัวเราะ) และมีเลิฟซีนกับแซมมี่ด้วย 

ความยากของหนังเรื่องนี้สำหรับดิว คือ การวางความคิด อินเนอร์ของตัวละครที่ได้รับมันหนักหน่วงมาก บางทีดิวเครียดเหมือนจะบ้า บทมันหนักและเครียดมาก ดิวต้องทำการบ้านให้มากกว่าบทที่เขาเขียนมาให้ 

และในเรื่องนี้ดิวสวยทั้งเรื่อง เพราะเขาจ้างนางร้ายเซ็กซี่มาก็ต้องการให้กลิ่นความเป็นดิวอยู่ แต่ข้อเสียของเรื่องนี้คือ หนังเรื่องนี้นานเกินไปจนเราหน้าเปลี่ยนไปแล้ว (หัวเราะ) จากปากที่บาง ก็เป็นปากอวบอิ่ม

ส่วนฉากเลิฟซีนกับแซมมี่ เรา 2 คนสนิทกัน ไม่มีกำแพงต่อกัน ตอนเล่นก็ใส่เต็ม ไม่เขินเลยตอนที่เล่น ฉากที่ถ่ายทอดออกมาก็สวย ละมุน 

ดิวดีใจที่หนังได้ออกฉายในช่วงนี้ คนดูน่าจะเก็ตในเนื้อเรื่องที่เรานำเสนอ เพราะตอนนี้ทุกคนเจอความลำบาก และเรื่องหนักหนาในช่วง 2 ปีนี้ คนน่าจะเปิดรับมากขึ้น”

ผู้เขียน : จันทร์เจ้าขา

กราฟิก : Chonticha Pinijrob

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2237469
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2237469