"ดิว อริสรา" เผยผลทริปวัดใจกับ "เซบ" รู้เลยรักดีๆ มีอยู่จริง


ให้คะแนน


แชร์

เริ่มจากความสวยสายฝอตอนนี้ ถูกแซวว่าหน้าเปลี่ยนทุกซีซัน ดิวตอบชัดๆว่า

“หน้าไม่ได้เปลี่ยนแต่ปากเปลี่ยน ก็ฉีดค่ะ ก็ทำ จริงๆแล้วคนน่าจะต้องชินได้แล้ว คือเราก็ดูแลตัวเองให้ตัวเองสวยไม่สร่างตลอดอะไรอย่างนี้ ดิวเป็นคนมีความสนุกแล้วก็มีความสุขที่ได้เปลี่ยนแปลงบ้าง แล้วเอาตรงๆตั้งแต่ฉีดปากโกยทรัพย์เราก็ต้องฉีด”

ปรึกษาหมอดูแนะนำให้ฉีดปากแล้วจะรับทรัพย์เหรอ?

“ไม่หรอกค่ะ ตั้งแต่พอเราฉีดฟิลเลอร์ไปก็เริ่มรู้สึกได้ว่าเรื่องการเงินเราค่อนข้างดีมาก เรารู้สึกได้เอง เราก็เดินหน้าฉีดมันต่อไป ก็ดูตามรูปของคนอื่นๆที่เราชอบแล้วเราก็ให้เค้าทำให้”

ฉีดตามเทรนด์มั้ย ซีซันนี้ลุคไหนมา?

“ดิวจะลองอะไรที่ใช่ พอดิวเจอที่ใช่แล้วดิวก็จะหยุด จมูกอย่างนี้ช่วงนึง ก่อนหน้านี้งวงช้างเราก็งวงช้างบ้าง ไม่รอดก็กลับมาเป็นน่ารักของเราเหมือนเดิม”

แรงบันดาลใจในการฉีดคืออยากสายฝอหรือยังไง?

“ดิวก็เป็นสายฟิลเลอร์อยู่แล้ว เป็นมา 10 กว่าปีแล้ว ดังนั้นมันคือหนึ่งอวัยวะของเรา มันก็ไม่ใช่แรงบันดาลใจขนาดนั้นหรอก”

แสดงว่าเราพอใจกับการเติมสวยตลอด?

“ใช่ ตราบใดที่ปลอดภัยและเราใช้ของดี เราก็ไม่วอรี่อะไร”

ถามเรื่องที่เราซุ่มเซอร์ไพรส์ให้แอร์-ภัณฑิลา ในโมเมนต์ถูกหนุ่มไอซ์-รัชชสิทธิ์ ขอแต่งงานเป็นยังไงบ้าง?

“ก็ทำให้เค้าเต็มที่แหละ เพราะเราก็ไม่ได้ไปอยู่ตรงนั้น ทำทุกอย่างเสมือนว่าเราอยู่ ก็เต็มร้อย ดิวก็หารองเท้า-หาชุดให้ จองสถานที่ เลือกอาหาร-เครื่องดื่มให้ คือทำทุกอย่าง ดูแลการตกแต่งงาน แล้วก็ประสานงานกับที่นู่นให้ ดิวรู้ทุกอย่างค่ะ เอาตรงๆตื่นเต้นมาก เราเป็นคนที่ทำ ก็ค่อนข้างรอลุ้นว่ามันจะโป๊ะมั้ย มันก็ออกมาได้ดีค่ะ”

เพื่อนจะเป็นฝั่งเป็นฝาแล้ว?

“เราก็ดีใจค่ะ เค้าก็แก่กว่าเราไง สมควรแก่เวลาแล้ว”

ไอซ์ให้ช่วยดูอะไรบ้างที่เค้ามาปรึกษาเรา?

“ทั้งหมดเลย ไอซ์บอกผมเชื่อในตัวพี่ครับ เราก็มีหน้าที่เป็นคล้ายๆออร์กาไนเซอร์ เราก็เต็มที่แล้ว พอถึงเวลาไอซ์ก็อนุมัติผ่าน”

โมเมนต์เหมือนแต่งเองเลยมั้ย?

“เอาจริงๆไม่ได้เหมือนแต่งเองหรอก แต่ค่อนข้างกดดัน เพราะถ้าเกิดมันผิดพลาดขึ้นมามันก็เพราะเราไง แล้วตอนนั้นดิวกลับมาไทยแล้ว ต้องตื่นตี 5 เพื่อคุยกับคนที่เมกาให้มันตรงเวลากัน ช่วงนั้นแทนที่แบบหายจากเจ็ตแล็ก กลายเป็นมันก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย เพราะว่าต้องตื่นตี 4-5 มาคุยเรื่องนี้”

เห็นโมเมนต์ดีๆของเพื่อนแล้วอยากมีโมเมนต์แบบนี้ของตัวเองหรือยัง?

“เพื่อนก็เป็นแรงกดดันไงคะ แต่ของเราก็ไม่เป็นไร ค่อยๆ”

ถามถึงทริปอเมริกาก็แฮปปี้มาก?

“แฮปปี้ค่ะ”

แต่ก็ยังมีเรื่องนิดหน่อย?

“เรื่องขโมยของใช่มั้ยคะ ใช่ค่ะ แต่พอเวลาผ่านมาแล้วเราก็ไม่ได้ซีเรียสแล้ว เราทำเต็มที่ที่สุดแล้ว แค่ดิวคิดในใจว่ามันดีแล้วแหละ คิดว่าถ้าดิวกลับมาที่รถ แล้วเค้ายังอยู่ในรถ แล้วดิวสายบู๊แล้วผู้ชายก็แบบไม่ยอมแน่ๆ ดิวกับเค้านี่เลือดออกแน่ๆ ก็เลยคิดว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเราเซฟแล้วดีแล้ว”

เป็นทริปพิสูจน์ว่าจะอยู่หรือไปเลย?

“ใช่ค่ะ ก็เป็นการพิสูจน์ว่าจะรอดหรือไม่รอดไง เหมือนคนเราไปใช้ชีวิตด้วยกัน 3 เดือน มันก็ค่อนข้างจะเห็นอะไรกันเยอะ รู้ว่าไหวไม่ไหว รอดไม่รอด ซึ่งก็รอดนะ (ยิ้ม)”

3 เดือนนี้ประทับใจอะไรในตัวเค้า?

“สำหรับตัวเซบเค้าก็มีอะไรที่คนอื่นไม่มี คือการที่เรามีผู้ชายที่ดีสักคนนึงที่อาจจะเทกแคร์เราดี
ซื้อของให้เรา ทุกคนมีเงินซื้อได้ไง แต่ในความดีเทลของเค้าที่พยายามทำให้ดิว มันคือความพยายามแล้วก็ใจล้วนๆ ซึ่งดิวว่าอันนี้ ตัวดิวเองยังทำไม่ได้ขนาดเค้าเลยค่ะ”

ทำให้เรารู้สึกรักเค้ามากขึ้นกว่าเดิมมั้ย?

“เราก็เป็นผู้หญิงที่โลกสวยขึ้น หมายความว่า เออ รักดีๆมันก็มีอยู่อะไรอย่างนี้ ไม่ได้แบบฟรุ้งฟริ้งนะ คนดีๆก็มีอยู่จริง เค้าก็ดีจริงๆ ซักผ้าให้อะไรแบบนี้ เค้าก็ดีนะ น่ารักนะคะ เค้าก็เดินมาบอกเลยมีอะไรต้องซักมั้ย ก็ซักให้ ยูทำกับข้าวไปนะเดี๋ยวไอซักให้”

เรียกว่าตอนนี้ผ่านโปรแล้ว?

“ตอนนี้ก็แฮปปี้ไง พูดเยอะเดี๋ยวหน้าแหกมา”

คิดไปถึงวันแต่งเลยมั้ย?

“เอาตรงๆนะคะ ตอนนี้ไม่ได้เป็นคนคิดอะไรไปไกลขนาดนั้นแล้ว เพราะว่าเราก็เคยผ่านอะไรมาเยอะอะ อะไรที่นานก็ไม่ได้หมายความว่าจะใช่ อะไรที่แป๊บเดียวก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่ใช่ ดังนั้นก็คือทุกวันเป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้นไปเลยดีกว่า แฮปปี้ๆไปเลยดีกว่า”.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2240081
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2240081