“เดียร์ไม่ใช่คนเรียบร้อย” หรือ “ตอนนี้มีคนคุยแล้วค่ะ” เธอบอกกับเราด้วยน้ำเสียงธรรมดาแต่ดูจะเรื่องราวที่เป็นข่าวได้เลยทีเดียว ว่านางเอกคนดังตอนนี้สถานะหัวใจไม่ว่างแล้ว ติดตามชีวิตของเดียร์น่าอีกหลากแง่มุมที่ไม่เคยพูดที่ไหน Thairath talk ลึกที่สุด  

เธอพูดเสียงดังฟังชัดเมื่อพิธีกรแซวว่า นิสัยแท้จริงของเดียร์น่าเรียบร้อยอ่อนหวานเหมือนหน้าตาหรือไม่ 

“ไม่นะ (หัวเราะ) หน้าตาและบทบาทในละครอาจจะเป็นคนหวานๆ แล้วดูขึ้นไง แต่จริงๆ แล้วไม่ได้เป็นคนหวาน เป็นคนออกแมนๆ ลุยๆ ด้วยซ้ำ ไม่ได้หวานแต่ไม่ได้จัดจ้านมาก เป็นคนกลางๆ อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ว่า เราจะเลือกใช้นิสัยตามสถานการณ์ ถ้าอยู่กับผู้ใหญ่ก็จะมีสัมมาคารวะ แต่อยู่กับเพื่อนก็จะไม่เรียบร้อย ซึ่งเพื่อนๆ ก็เดียร์ก็จะบอกว่า เดียร์ไม่เรียบร้อยแน่นอน”

พอถามว่า เดียร์น่าเคยพูดคำหยาบไหม นางเอกคนนี้ก็นิ่งคิด และอธิบายตัวตนว่า ไม่ใช่คนพูดหยาบโดยพื้นฐาน เรียกแทนตัวกับเพื่อนก็ ‘เค้ากับแก’ จะมีหลุดการอุทานบ้าง เช่น อุ๊ยเชี่ย! มันก็มีบ้าง แต่ด่าคนด้วยคำหยาบแทบจะไม่มีเลย 

เดียร์น่าเข้าวงการมาด้วยดวง “มันคือดวงค่ะ คือเดียร์มาลองสอบตรงเข้ามหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ กับเพื่อนๆ ก็เลยพากันไปแฮงเอาต์กันตอนกลางคืน ได้นั่งโต๊ะข้างกับ ‘พี่เอ ศุภชัย’ แล้ววันนั้น พี่เขามองเราอยู่ตลอดเวลา แล้วเขาก็เดินเข้ามาแนะนำตัว ขอเบอร์ติดต่อเราไป จากนั้นก็ให้มาแคสต์งานละครเรื่องแรก ‘สามีตีตรา’ แล้วก็ได้งานเลย ไม่น่าเชื่อว่าจะได้ เพราะเราใหม่มาก ไม่เคยเรียนแอ็กติ้งมาก่อนเลย”

“มาสเตอร์พีซของเดียร์ก็ยกให้สามีตีตรา เป็นเรื่องที่จุดประกายให้เดียร์มากๆ คนจะจำเดียร์ได้ มันประสบความสำเร็จมาก ทุกคนในเรื่องด้วยนะคะเลยส่งมาถึงน้องคนนี้ด้วย เดียร์ประทับใจมากตรงที่ตอนนั้นเดียร์ไปห้าง มีคนมาทักว่า เราคือหมอก้อย ตัวจริงๆ เป็นหมอใช่ไหม นั่นแปลว่าเขาอินกับบทบาทของเราในละครมาก”

ตลอด 8 ปีที่เดียร์น่า ฟลีโป อยู่ในวงการบันเทิงเล่นละครมาแล้ว 8 เรื่อง พิธีกรถามเธอว่าพอใจกับผลงานและชื่อเสียงในตอนนี้หรือไม่ เดียร์น่าใช้เวลาคิดก่อนตอบว่า 

“พอใจนะคะ เดียร์พอใจกับสิ่งที่เดียร์ได้รับ เดียร์เชื่อว่าทุกอย่างมันกำหนดไว้แล้ว ถ้ามันจะเป็นของเราก็คือของเรา มันจะดีในตัวของมันเอง เราไม่อยากกดดันตัวเองมากจนเกินไป เหมือนชีวิตมันต้องบาลานซ์และมีความสุข จะไปหวังว่าต้องดังมากๆ เดียร์ก็รู้สึกว่าแล้วความสุขมันอยู่ตรงไหน คือความสุขมันคือความพอดีอะค่ะ สิ่งที่เราได้มามันดีที่สุดแล้วหล่ะ เขาเลือกมาให้เราแล้ว เราต้องพอใจกับสิ่งที่เราได้รับ”

มีนักแสดงหลายคนเล่นละครหรือภาพยนตร์มาหลายสิบปีอาจจะยังไม่โด่งดัง แต่พอมาเจอเรื่องหรือจังหวะที่เหมาะสมก็ทำให้นักแสดงคนนั้นดังติดลมบน เดียร์น่าเองก็รอเวลานี้เช่นเดียวกัน 

“เดียร์ก็รอนะ รอบทที่จะโดนใจคน บทที่ตรงกับตัวเราและทำได้ดี แต่เหมือนกับมันต้องหาไปเรื่อยๆ มันเป็นจังหวะของแต่ละคน เจอเร็วๆ ก็เป็นเรื่องที่ดี เจอช้าก็ยังดีค่ะที่ได้เจอ”

“เดียร์ยอมรับค่ะว่าเป็นคนไม่ชอบความทะเยอทะยาน ชอบอยู่ในจุดที่สบายใจ พอเริ่มรู้สึกทะเยอทะยานมันเครียด มันเหนื่อย คนอื่นๆ อยากจะรู้สึกว่าต้องแข่งขัน ต้องสู้ แต่เดียร์พูดตรงๆ ว่าเดียร์ไม่ใช่นักสู้ เดียร์เกิดมาเป็นเดียร์น่า เกิดมาเป็นแบบนี้ ไม่ทำอะไรที่ฝืนตัวเองจนเกินไป จะให้เราไปฝืน เราทำไม่ได้ มันคือการแข่งขันที่อยากได้อยากมีแล้ว ซึ่งมันไม่ใช่เรา เราจะทำในแบบที่เรารู้สึกสบายใจ จะให้เดียร์ไปทำเหมือนคนนั้นคนนี้ เดียร์ทำไม่ได้”

นางเอกเรียบง่ายคนนี้เล่ายกตัวอย่างเหตุการณ์สิ่งที่ขัดกับตัวตนว่า บทละครบู๊ เธอคงไม่รับเล่น เนื่องจากสรีระร่างกาย หน่วยก้านไม่ได้เหมาะกับการต่อสู้จริงๆ ให้รับบททหารตำรวจ เธอกลัวว่าภาพที่ออกไปคือผู้หญิงที่ไม่แข็งแรง ให้ถือปืนยิงปืนคือไม่รอดแน่ๆ เราก็เลยรู้สึกว่าถ้าอะไรที่มันฝืนมากไป มันไม่มีความสุข

ตลอดช่วงชีวิตที่เดียร์น่าอยู่ในวงการบันเทิง ไม่เคยมีข่าวความรักเลยสักครั้ง ซึ่งเดียร์น่ากล่าวถึงประเด็นนี้ว่า เธอเป็นคนแปลก ไม่ได้โฟกัสเรื่องความรัก และคิดว่าตัวเองยังเด็ก ไม่อยากมีแฟน ยิ่งเข้าวงการก็มีคนจับผิดเยอะ ขนาดแม่ของเดียร์น่ายังบอกให้คุยกับคนอื่นบ้าง เปิดใจบ้างก็ได้ แต่ถ้าคุยกันแล้วไม่ชอบ ก็พร้อมจะสวมบทพี่น้องกันต่อไป ไม่สานสัมพันธ์ในฐานะคนสนิท

ส่วนข่าวคราวที่เราเพิ่งได้ยินมาไม่นานมานี้ พระเอกหนุ่ม บอย ปกรณ์ ปลื้มตัวเธอ จนเข้ามาจีบ เดียร์น่าได้ยินคำถามนี้แล้วก็ขำก่อนตอบว่า 

“(หัวเราะ) อุ๊ย! พี่บอยไม่ถึงขั้นมาจีบเลย ก็มีทักมาบ้าง คุยเรื่องเรื่อยเปื่อย อย่างซีรีส์เกาหลี ดูเหมือนกันเลย เป็นการคุยแบบเพื่อนนักแสดงคุยกัน ไม่คิดว่าพี่บอยจะปลื้ม ก็คุยกันไม่ยาว ทักแซวกัน ไม่ได้หวือหวา ไม่ได้เกิดอะไรขึ้นเลย เป็นข่าวไปแล้ว ไม่ได้สปาร์กอะไรกัน

ด้วยความที่ลุคที่บอยเป็นคน Friendly ก็เลยเป็นที่จุดที่เดียร์มองว่าถ้าเป็นแฟน เราก็คงจะหวงมาก เพราะเขาดู Friendly ไป ดูแบบใจดีไปหน่อย แต่เขาไม่ได้มาจีบจริงๆ คุยกันเป็นพี่เป็นน้อง และเขาก็คงรู้ว่าอย่าข้ามเส้นนั้นเลย เดี๋ยวพอมันไม่ใช่มันจะไปต่อไม่เป็น จะเลิ่กลั่กนะเวลาเจอกัน“

บอกแล้วว่า เดียร์น่ามีของมาเล่าแบบเราเองยังตกใจ เธอยอมรับเต็มปากเลยว่าตอนนี้ มีคนคุยแล้ว ไม่ใช่คนในวงการบันเทิง เป็นนักธุรกิจธรรมดา ให้บอกสถานะชัดเจนว่าเป็นแฟนหรือไม่ เดียร์น่าออกอาการเขินเพราะคุยกันด้วยความสนิทมาเป็นเวลาปีกว่าแล้ว จะให้มาลงลึกเรียกว่าแฟน ก็ยังไม่กล้า 

“พูดตรงๆ นะ คนก็คงอยากรู้อยู่แล้วเรื่องของดารา แต่ถ้าวันหนึ่งมันเกิดอะไรขึ้นมา เราก็คงไม่อยากให้คนมาซ้ำเติม หรือมารับรู้อะไรที่มันยังไม่ถึงจุดที่เดียร์ออกมาพูด ถ้าวันใดวันหนึ่งเดียร์รู้สึกว่ารอดแล้วล่ะกับคนนี้ เดียร์พูดแน่นอน แต่ตอนนี้ยังคุยกันมาประมาณหนึ่งอยู่ ก็เลยอยากให้ความเป็นส่วนตัวกับเขาด้วย”

ชัดเจนแบบไม่อ้อมค้อม อธิบายความเป็นตัวตน กับคำตอบของคำถามที่ว่า ‘เดียร์น่าอยากแต่งงานไหม?’

“ก็ยังอยากแต่งงานนะ อยากเจอคนที่ดีและเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี ก็มีความรู้สึกอยากแต่งบ้าง แต่ไม่ได้เป็นภาพที่ชัดมาก เดียร์ยังรู้สึกว่ามันไวไปอยู่

เดียร์ไม่ได้กำหนดแพลนชีวิตเลย คือเดียร์รู้สึกว่า การมีแฟนหรือคู่ชีวิต ถ้าเดียร์มีแล้วไม่ดี ถ้ามีแล้วมันไม่สบายใจ เดียร์ไม่มีดีกว่า เพราะเดียร์รู้สึกว่าเดียร์ดูแลตัวเองมาดีมากที่ผ่านมา อยู่กับตัวเองได้ ช่วยเหลือตัวเองได้ ซึ่งถ้ามีอีกคนเข้ามาแต่ทำให้เดียร์กังวลใจ เดียร์ไม่เอาดีกว่า”

ผู้เขียน : Bouquet Talk