งานนี้ยกหูเปิดใจหา แนนนี่ ว่าที่เจ้าสาวป้ายแดงถึงโมเมนต์หวานๆที่เกิดขึ้น… ก่อนหน้ามีเหตุการณ์ระแคะระคายมาก่อนมั้ยว่ากันจะขอแต่งานน่ะ

“ไม่มีเลยค่ะ จริงๆวันนั้นเพื่อนมาชวนนี่ว่าเดี๋ยวจะไปดูหนังกันเพราะว่าแบรนด์ที่เขาทำจัดรอบหนังพิเศษให้ตัวแทนหนัง เป็นรอบพิเศษ เพราะเราคู่กัน ก็ไม่ได้เอะใจอะไรเพราะนัดมาอาทิตย์นึงแล้วแต่แฟนจะถามตลอดเวลาว่าวันนี้จะเบี้ยวเขาไหมเนี่ย นี่บอกมีความเป็นไปได้สูงเพราะเหนื่อยมากแต่ไม่กล้าเบี้ยว ตอนแรกกะไปแบบไม่แต่งหน้าเลย กะดูหนังชิลๆ เพื่อนมาทักว่าแกวันนั้นมันงานอีเวนต์นะ โชคดีที่ตัดสินใจวินาทีสุดท้ายเพื่อแต่งหน้า (หัวเราะ) นี่รู้แค่นั้น พอขึ้นมาเพื่อนพูดลูกค้าแคนเซิลหลายคนขนาดแจกบัตรฟรีนะเนี่ย เราเหมือนมาให้กำลังใจเพื่อนเฉยๆ”

โดนซ้อนแผนเข้าให้แล้ว

“โอ๊ย แนบเนียนมากจน กระทั่งเข้าถึงในโรง นี่นั่งอยู่กับโยชิ นี่เธอปิดโรงเลยแล้วไม่มีใครมาเสียดายแทน ตั๋วทิ้งว่างขนาดนั้น ไม่เอะใจก็นั่งดูหนังปกติ ไม่เอะใจ ตอนจอขึ้นคำว่าแต่งงานกันนะ นี่ก็ยังคิดว่าเป็นฉากในหนัง ต๊าย…ย แล้วโรแมนติกเหลือเกิน แล้วเขียนคำว่า ‘เพราะแนนนี่คู่กัน’ คือตอนนั้นนี่เอาโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายด้วยเพราะเข้าใจว่าเพื่อนที่ชวนมานั่นแหละเขาใส่เข้าไปให้ดูน่ารัก ฉลองให้เราเพราะเค้ารู้ว่าเราจะแต่งงาน คิดแค่นั้น อยู่ๆเพื่อนทุกคนเปิดประตูเข้ามา ไม่รู้เลยจนกันเดินมา จริงๆ เรื่องแต่งงานเราแพลนมาสักพักแล้ว มีการดูสถานที่ มีการคุยๆอยู่แล้ว งานได้ถูกเลื่อนมาจนปลายปี ก่อนหน้าเราคุยกับทางผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายไว้แล้วว่าเราจะแต่ง เพียงแต่เขาไม่เคยขอแต่งงานเป็นทางการนี่เคยพูดน้อยใจเค้า …เธอไม่คิดจะขอเลยเนอะ แต่คุยเรื่องงานกันตลอด ผู้ใหญ่ก็รับรู้ เพื่อนสนิทรับรู้แต่เราไม่ได้แจ้งสื่อออกไป ไม่คิดเขาจะขอหรอก และทุกครั้งที่กันทำเซอร์ไพรส์นี่จับได้ทุกครั้ง แค่นี่ทำเป็นไม่รู้ (หัวเราะ) เคยพูดกับเขาเหมือนกันว่าเธอไม่คิดจะมีแหวนให้ฉันก่อนเหรอ แต่นี่เห็นถุงแหวนวางไว้ในรถ แต่นี่พยายามทำเป็นไม่เห็น ไม่รู้ไปดีลอะไรกับใคร เราก็คิดว่าเขาคงเซอร์ไพรส์เล็กๆน้อยๆมั้งแค่นั้นไม่คิดขนาดนี้ อันนี้ เพื่อนเราเป็นแม่งานมาก ก่อนที่นี่จะมาหาเพื่อน นี่เจอเขาด้วยนะ เขาบอกเดี๋ยวไปตัดผมเดี๋ยวเจอกันก็ไม่ได้คิดอะไร”

ครั้งนี้กลายเป็นว่ากันตีบทแตกทำเซอร์ไพรส์สำเร็จ

“เขามาเป็นขบวนการมาเป็นแก๊งเลย (หัวเราะ) ถ้าไม่เป็นขบวนการนี่เชื่อว่าพังไปแล้ว เขาเป็นคนเก็บความลับไม่ได้ เซอร์ไพรส์ไม่เป็น”

ตอนที่กันคุกเข่าขอแต่งงานเขาได้พูดประโยคว่าอะไรจำได้ไหม

“แต่งงานกันมั้ย? นี่ก็บอกแต่งสิ เราแพลนกันแล้วไม่ใช่เหรอ (หัวเราะ) ตลกอะ คือเขาเป็นคนขี้อายมาก ไม่มีวันทำอะไรแบบนี้หรอก นี่ประทับใจเขานะ แอบไปดีลกับเพื่อนเรา มีหลายๆอย่างที่นี่พยายามทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นแต่เราก็รู้ว่าเขาน่าจะเตรียมอะไรไว้แต่ไม่คิดจะขนาดนี้”

เห็นเพื่อนๆ ในแก๊งโพสต์ดีใจที่มีคนสละโสดแล้ว 1 และล้างคำสาปของวง

“จริงๆ เพื่อนรู้ตั้งแต่แรกแล้ว เราจะแต่งงาน เพื่อนบอกดีมากแก ล้างคำสาปของวงซะที นี่ก็งงล้างคำสาปอะไร วงเรามีคำสาปด้วยเหรอ”

คำสาปมายังไง

“คือทุกครั้งที่เราไปงานแต่งเพื่อนเรา เราไปกันหมด 4 คน เราคุยกัน พวกเราไม่มีวี่แววกันเลยเหรอ ใครจะได้แต่งก่อน เราคุยกันมาตลอด นี่ไม่รู้ว่าเพื่อนๆ คิดว่าเป็นคำสาปวงที่ไม่มีใครได้แต่งงานซะที แต่อ่อๆ เหรอ ฉันทำลายคำสาปวงแล้วจ้า ตามมานะ (หัวเราะ) เพื่อนๆเคยทายกันนะว่าจะเป็นนี่แต่งก่อนแต่ก็ไม่ได้คาดคิด นี่คบคนนี้ เราคบกันมานาน เราอยู่ด้วยกัน เพื่อนบอกน่ารักดี กระจุ๊กกระจิ๊ก แกต้องแต่งก่อนแน่นอน แต่นี่ไม่เคยคิดว่าคู่เราจะได้แต่งก่อนเพื่อน เพียงแต่เราคบแล้วสบายใจ เราอยู่ด้วยกันรู้สึกดี เรามองอนาคตร่วมกันแต่เราไม่คาดหวังเพราะเรากลัวผิดหวัง ทุกปีไม่ขอซะที เหมือนเวลาผ่านไปแล้วเรานั่งคุยกันจริงๆ มีคุยกันตั้งนานเด็กคนนี้น่ารัก คือเขาเป็นคนอยากมีลูกมาก และเขาเปรยๆเรื่องแต่งงาน เวลามีใครถาม นี่จะไม่พูดอะไรเพราะถือว่าเรื่องแบบนี้ผู้ชายขอ เป็นคนคิดแบบนี้มาตลอด ได้หมด อยู่แบบนี้หรือจะแต่งก็ได้หมด”

ฤกษ์แต่งระบุด้วย

“จริงๆดูไว้เป็นเดือนหน้า ปลายเดือนค่ะ แต่ด้วยสถานการณ์โควิด คงจัดงานเล็กๆ จะมีแต่ญาติ คนสนิท คนในครอบครัวจริงๆ เพราะเราเกรงใจมากที่หลายๆคนที่เราไม่ได้ชวนเพราะเขาจำกัดจำนวนคน ส่วนพิธีไทย หมั้น รดน้ำสังข์ สวมแหวน เหมือนเป็นงานเลี้ยงปกติที่ไม่ปกติเพราะปีนี้ก็โควิดมันจะไม่ปกติเหมือนงานทั่วไปค่ะ”.