ละครแห่งปี 2564


ให้คะแนน


แชร์

สถานีโทรทัศน์แก้ผ้าเอาหน้ารอดไปได้อีกปี ขุดละครเก่ามาฉายรีรันควบคู่ไปกับออนแอร์ละครใหม่ไม่ให้จอดำ จึงทำให้มีละครที่โดดเด่นค่อนข้างบางตาจนน่าใจหาย

เริ่มต้นที่ ช่อง 3 มีละครเรื่องใหม่ให้ชมรวมแล้ว 28 เรื่อง ก็ถือว่าไม่น้อยสำหรับยุคนี้ที่การถ่ายละครเป็นไปอย่างยากลำบาก ไล่เรียงจากต้นปีก็มีเด่นๆอย่างเรื่อง “ดาวคนละดวง” ละครบู๊ของผู้กำกับระดับตำนาน ฉลอง ภักดีวิจิตร คว้า เกรท–วรินทร ประกบ บูม–สุภาพร,เรื่อง “ดวงใจในมนตรา” ละครแนวพีเรียดดราม่าที่ได้คู่แฟน โตโน่–ภาคิน กับ ณิชา–ณัฏฐณิชา มาเล่นคู่กัน ก็นึกว่าจะปังแต่กลับแป้กผิดคาดหมาย!, แต่ที่พลิกโผก็คือ “เมียจำเป็น” ฟอร์มละครเย็นที่มีพระเอกนางเอกค่อนข้างเบอร์เล็กอย่าง ไม้–วฤษฎิ์ และ พาย–รินรดา กลับมาแรงเฉยเลย!, แม้แต่ละครเย็นเรื่อง “เทพธิดาปลาร้า” นำแสดงโดย กระทิง-ขุนณรงค์ และ ชิปปี้–ศิรินทร์ ก็เหนือคาดหมาย

ดาวคนละดวง ดาวคนละดวง
ดวงใจในมนตรา ดวงใจในมนตรา
บาปอยุติธรรม บาปอยุติธรรม
สองเสน่หา สองเสน่หา
มนต์รักหนองผักกะแยง มนต์รักหนองผักกะแยง
ให้รักพิพากษา ให้รักพิพากษา

บาปอยุติธรรม” นำแสดงโดย บอย–ปกรณ์ และ จีน่า ซาลาส ถือเป็นละครน้ำดี ผูกเรื่องราวได้น่าสนใจไม่ซ้ำซาก แต่กลับไม่ถูกจริตคนดูเรตติ้งก็เลยจุ๊ดจู๋ น่าเสียดาย!, ยังมีละครที่สร้างคู่พระนางเคมีใหม่ขึ้นมาน่าสนใจอย่างเรื่อง “อุบัติร้ายอุบัติรัก” ที่มี มาสุ จรรยางค์ดีกุล คู่กับ โม–มนชนก และเรื่อง “พราวมุก” ที่เป็น ภณ–ณวัสน์ คู่กับ บัว–นลินทิพย์, ละคร “สองเสน่หา” เรื่องนี้เรตติ้งไม่พีก แต่นางเอก คิม–คิมเบอร์ลี่ นี่สิพีก เพราะโชว์ความสามารถกับการควบ 2 บทบาทฝาแฝดที่ต่างกันสุดขั้ว, ละคร “มนต์รักหนองผักกะแยง” ออร่าแยงตาตั้งแต่เริ่มลงจอเพราะยี่ห้อของ อ๊อฟ–พงษ์พัฒน์ การันตี แถมยังมีพระเอกนางเอกเคมีใหม่ไม่ธรรมดาอย่าง ณเดชน์ คูกิมิยะ กับ โบว์–เมลดา, ตบท้ายปลายปีด้วยละครแนวกินเด็ก 3 เรื่องรวด ได้แก่ “ให้รักพิพากษา Dare To Love” เคมีรักข้ามรุ่นระหว่าง เบลล่า–ราณี กับหนุ่มละอ่อนสไตล์เกา กองทัพ พีค ต่อด้วย “พฤษภา–ธันวา รักแท้แค่เกิดก่อน” ตามเรื่องราวนางเอกแก่กว่าเยอะทีเดียว เป็น แยม–มทิรา คู่กับหนุ่มหน้าใสสไตล์โอปป้า ริว–วชิรวิชญ์ และเรื่อง “กะรัตรัก” ที่ แอน ทองประสม ประกบคู่ เจมส์–จิรายุ

ช่อง 7 มีละครหลักช่วงก่อนข่าวและหลังข่าวทั้งใหม่ทั้งรีรันรวมทั้งปี 32 เรื่อง เริ่มด้วย “ทางเสือผ่าน” ละครบู๊เรตติ้งดี นำแสดงโดย อ๊อฟ–ชนะพล และ ฮาน่า ลีวิส, ละครโรแมนติกระทึกขวัญ “วงเวียนหัวใจ” รีเมกใหม่โดยค่ายกันตนา เป็นการโคจรมาเจอกันของ พอร์ช–ศรัณย์ และ นาว–ทิสานาฏ ตอนจบทำเรตติ้งทะลุ 7 ทีเดียว สูงที่สุดของช่อง 7 ในปีนี้, “ทะเลลวง” ละครเรื่องสุดท้ายของ แซมมี่ เคาวเวลล์ ก่อนจะฉีกสัญญา เล่นคู่กับ มิกค์ ทองระย้า, เรื่อง “คู่แค้นแสนรัก” ของค่ายโพลีพลัสละครแนวโรแมนติกคอมเมดี้ที่คว้าคู่จิ้นสุดฮอต ไมค์–ภัทรเดช กับ มุกดา นรินทร์รักษ์ กลับมาขยี้ความฟินอีกครั้งจนกลายเป็นกระแสฮอต

ทางเสือผ่าน ทางเสือผ่าน
วงเวียนหัวใจ วงเวียนหัวใจ
ทะเลลวง ทะเลลวง
คู่แค้นแสนรัก คู่แค้นแสนรัก
เผาขน เผาขน
แม่เบี้ย แม่เบี้ย
ธิดาวานร ธิดาวานร

ทำเอาเวลานอนไม่ได้นอนเพราะละครผีสุดสยองเรื่อง “ตุ๊กตา” นำแสดงโดย บูม– กิตตน์ก้อง และ แม็กกี้–อาภา, ละครบู๊แอ็กชัน “ทะเลเดือด” ซึ่ง หลุยส์ เฮส และ ทับทิม– อัญรินทร์ ก็ทำให้ทะเลเดือดสมชื่อ, เรื่อง “เผาขน” ก็เป็นการกลับมาบู๊อีกครั้งของพระเอกหน้าเข้ม เข้ม–หัสวีร์ ประกบนางเอกน้องใหม่ การ์ตูน–ณัฐฌา, ละครที่น่าจับตา “แม่เบี้ย” ซึ่งเวอร์ชันนี้นำแสดงโดย เอส–กันตพงศ์ และ นาว–ทิสานาฏ ถือเป็นละครที่กระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลมากที่สุดเรื่องหนึ่ง ก็มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ ขณะที่ละครก่อนข่าวค่ำก็มีแรงหลายเรื่องอย่าง “กำนันหญิง” ของค่ายดาราวิดีโอ แชป–วรากร คู่กับ แพรว–เฌอมาวีร์, เรื่อง “ทานตะวันสีเพลิง” ที่ อั๋น–อัครพรรฒ ประกบคู่ ชิงชิง–คริษฐา และเรื่อง “ธิดาวานร” ที่แจ้งเกิดนางเอกป้ายแดง ปิ่น–ชรินพร ก็ล้วนแต่ดังและสร้างเรตติ้งได้น่าพอใจ

วันทอง วันทอง
กระเช้าสีดา กระเช้าสีดา

ช่องวัน 31 ละครมาแรงขึ้นทุกปี เริ่มต้นก็ปังปุริเย่ด้วยละครเรื่อง “วันทอง” ที่ตีความนิยายพื้นบ้าน “ขุนช้างขุนแผน” ใหม่ และให้ “วันทอง” เป็นตัวเดินเรื่องแก้ข้อกล่าวหา “สองใจ” นำแสดงโดย ใหม่–ดาวิกา ประชันกับ ป้อง–ณวัฒน์ และ ชาคริต แย้มนาม, ต่อด้วยเรื่อง “เล่ห์ลวง” ละครแนวใหม่แซ่บถึงใจ แฉเบื้องหลังกลลวงเป็นการเชือดเฉือนกันสุดสะใจของ 2 นางเอก ปุ๊กลุก–ฝนทิพย์ และ เชียร์–ฑิฆัมพร ประชันกับ 2 พระเอก เจษ–เจษฎ์พิพัฒ และ ไบร์ท–นรภัทร, และก็ฉีกมาเรื่อง “พายุทราย” ละครโรแมนติกดราม่า ซึ่งถ้าเป็นแนวนี้ไว้ใจสาว เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา ได้, ละครแนวใหม่อีกเรื่อง “จิตสังหาร” ที่พระเอกมีพลังวิเศษอ่านใจคนได้ นำแสดงโดย แบงค์–ธิติ และ พีค–ภัทรศยา, ต่อด้วย “กระเช้าสีดา” ละครสุดแซ่บที่เป็นการประชันฝีมือกันของ 2 นางเอกอดีตช่อง 7 นุ่น–วรนุช และ กรีน–อัษฎาพร โคจรมาเจอกัน ประกบกับ ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล และ ก็อต–จิรายุ

เรยา เรยา
เรือนร่มงิ้ว เรือนร่มงิ้ว
เวราอาฆาต เวราอาฆาต

ช่อง 8 ที่ยังเน้นละครเข้มข้นต่อเนื่อง เริ่มด้วย “โลกทั้งใบให้นายคนเดียว” ที่นำหนังมารีเมกใหม่สไตล์ซีรีส์ จุดเด่นคือการนำพระเอกรุ่นใหญ่และรุ่นเก๋ามาร่วมงานกันอย่างลงตัว, ละครสุดแซ่บ “เรยา” ที่เป็นการคืนจอของ พลอย–เฌอมาลย์ งานนี้ต้องประชันเลิฟซีนกับพระเอกทั้ง 7 ซึ่งเธอทุ่มเทมากถึงกับลั่นว่าจะเล่นละครเป็นเรื่องสุดท้าย, “เรือนร่มงิ้ว” ละครสุดปังที่ดาราประชันแน่นจอ นำโดย พิ้งกี้–สาวิกา, อั๋น–วิทยา, กอล์ฟ–อนุวัฒน์, เทียน–อัจฉรี ฯลฯ, “เวราอาฆาต” เรื่องนี้ก็เข้มข้น ดารามากฝีมือมากมายอย่าง เคลลี่–ธนพัฒน์, แคทรียา อิงลิช, โบว์–แวนดา, โอม–อัชชา, มิว–ลักษณ์นารา ฯลฯ

ปีนี้ยังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 กองถ่ายก็ลักปิดลักเปิดจนเกิดละครขาดช่วงทำให้มีการนำละครเก่ามารีรันแก้ขัดในบางตอน สำหรับละครใหม่ที่มีความโดดเด่นในปีนี้ที่พอเข้าตาพิจารณา “ละครแห่งปี” ก็มีเรื่อง “ให้รักพิพากษา Dare To Love” โดยหนุ่ม กองทัพ พีค จีบข้ามรุ่น พี่เบล จนจุดประกายเคมีกินเด็กทำให้มีละครแนวนี้ตามมาอีกหลายเรื่อง และยังโดดเด่นในด้านแนวเรื่องที่ทันสมัยไม่ซ้ำซากจำเจ, เรื่อง “คู่แค้นแสนรัก” เคมีคู่จิ้นรีเทิร์นของ ไมค์–มุก ยังคงมีมนตร์ขลัง และยังดังไกลข้ามไปถึงประเทศจีน จน ไมค์–มุก ติดชาร์ตพระเอก-นางเอกคู่ฮอต มีทั้งบทสัมภาษณ์ในนิตยสาร และยังคว้ารางวัลคู่จิ้นขวัญใจในประเภทละครไทยจากเวทีประกวดประเทศจีนอีกด้วย, “วันทอง” ต้องบอกว่าสุดปัง ทั้ง ใหม่–ดาวิกา ที่สวมบท “นางวันทองสองใจ” และการเดินเรื่องที่ตีความได้แปลกใหม่ สร้างวิสัยทัศน์ใหม่ให้วงการละครไทย อีกทั้งยังการันตีด้วยเรตติ้งสูงสุดของปีที่ 7.7 อีกด้วย, “กระเช้าสีดา” ละครที่ต้องเจอกับพิษโควิด-19 จนต้องพักกองถ่ายทำให้ละครหยุดออนแอร์กลางคัน แต่พอเปิดกองได้ก็เร่งถ่ายและรีบฉายทันที ความพีกไม่ขาดช่วง ความสะใจไม่ขาดตอน ครบรสทั้งการปะทะระหว่าง พี่นุ่น และ น้องกรีน ยังมีความฟินกับเคมีใหม่ของ นุ่น และ ก็อต อีกทั้งยังความโหดสุดขั้วของ ตู่–นพพล, และ “เรือนร่มงิ้ว” ละครโดดเด่นในความดราม่า มีดาราประชันกันแน่นจอสไตล์ช่อง 8 และยังแหวกแนวด้วยฉากชายรักชายเปิดโลกใหม่ให้ละครแนวพีเรียดละครโดดเด่นทั้ง 5 เรื่อง มีหลากหลายแนวแตกต่างกันไป ทำให้เห็นถึงรสนิยมแฟนละครที่เลือกชมมากขึ้น และถ้าจะต้องเลือก ละครแห่งปี ขอบอกว่าปีนี้เลือกยาก แต่เมื่อมีได้แค่หนึ่งเดียว ดังนั้นขอฟันธงให้เรื่อง “กระเช้าสีดา” ซึ่งเหมาะสมกับบัลลังก์เกียรติยศนี้ที่สุด.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/novel/news/2277111
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/novel/news/2277111