"เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา" พ่อแม่ไฟเขียวเปิดให้ "เคน ภูภูมิ" เป็นคนในครอบครัว


ให้คะแนน


แชร์

เริ่มจากมาเต้นกันได้ยังไง พร้อมอัปเดตความรัก?

“การเต้นเกิดจากความว่าง ช่วงไหนที่ไม่ได้ทำงานเยอะ มีเวลาอยู่กับตัวเอง เราก็หากิจกรรมทำ ติ๊กต่อกก็เป็นหนึ่งในนั้น หนูว่ามันสนุกดีค่ะ เหมือนเราได้ปลดปล่อยพลังในตัวเอง เราทำแล้วสนุกแล้วเวลาเราแชร์ไปคนดูมีความสุข ได้สร้างเสียงหัวเราะให้คนดูมันก็ดีนะคะ เราชอบอ่านคอมเมนต์ต่างๆ ตลกมาก”

คนคาดไม่ถึงว่าลุคนางเอกหน้าหวานเราจะเต้นมันส์แบบนี้?

“ช่วงแรกๆคนก็บอกแบบนั้น ก็รู้สึกขอบคุณนะคะ เพราะตั้งแต่หนูเริ่มเล่นติ๊กต่อกบางคนอาจจะยังไม่เคยเห็นอีกด้านของเรา เค้าเลยไม่คิดว่าเราจะทำแบบนี้ได้ เอาจริงบางงานที่เข้ามาเขาก็เห็นจากติ๊กต่อกของเรา ลูกค้าคิดว่าเราเต้นได้ก็เลยนึกถึง”

กับน้องสาวใครเป็นคนชวนใคร?

“สลับกันค่ะ อย่างน้องสาวจะเป็นแนวเต้นจริงจังสวยๆ พรสวรรค์ล้วนๆชอบเต้น ชวนเราเต้นแบบที่ความสามารถเรายังไม่ถึง เราก็ต้องพยายาม ส่วนเราเป็นสายคลิปตลกๆ มาแชร์กัน มาต่อท่ากัน”

มีชวนเคนมาเต้นมั้ย?

“ชวนตลอดเลยค่ะ ถ้าไม่ยากเกินความสามารถ อะไรที่ง่ายๆเค้าจะทำ แต่อะไรที่ยากเกินเค้าจะบอกว่าไม่ไหวๆ น้องทำเถอะ เค้าจะมีความอดทนต่ำเรื่องการเต้น ถ้าต้องทำคนเดียวเค้าไม่เล่นนะคะ ถ้าหนูชวนเล่นแล้วถ่ายอยู่ด้วยกันหลายๆคนเค้าโอเค คนเดียวเค้าจะเขิน”

ความรักตอนนี้เคนดูสนิทกับทั้งครอบครัว?

“ใช่ค่ะ ตอนนี้เค้าเป็นเหมือนคนในครอบครัวค่ะ เป็นน้องชายคนสุดท้อง เป็นลูกคนที่ 4 ของแม่ (หัวเราะ) คือด้วยความที่เค้าเป็นลูกคนเดียว มันจะมีโมเมนต์ของลูกคนเดียวเช่นเอาแต่ใจนิดนึง ต้องการเดี๋ยวนี้นะ อย่าขัดใจ คนในครอบครัวเลยชอบแซวว่าเค้าเป็นน้องคนสุดท้อง”

ปรับตัวเข้าหากันกว่าจะถึงวันนี้ที่ดูลงตัวต้องปรับกันเยอะมั้ย?

“ไม่เยอะเลยนะคะ ด้วยความที่คุณพ่อกับคุณแม่หนูเค้าเปิด แล้วเค้าเป็นสไตล์ฝรั่ง คุณแม่หนูเป็นคนต่างชาติ เค้าเลยรู้สึกว่าเปิดให้เค้าเข้ามา เรียนรู้ซึ่งกัน พอมันคลิกกันปุ๊บก็สนิทกัน น้องหนูก็สนิททุกคนสนิทกับเค้าหมด”

เวลาเค้าทำงานอะไรครอบครัวเราก็คอยเชียร์เค้าไปด้วย?

“ใช่ค่ะ เหมือนตอนนี้เราดูแลซึ่งกันและกันเกื้อหนุนกัน ตอนนี้เหมือนเค้าเป็นคนในครอบครัวเลยค่ะ หนูชอบที่เป็นแบบนี้ อยู่ด้วยกันแล้วสบายใจ ไม่ต้องมีพิธีรีตองว่าต้องทำตัวยังไง เจอกันคุยอะไร แบบนี้ทุกคนเอ็นจอยสนิทกัน”

แล้วมุมคู่รักสวีตกันสองคนล่ะ?

“ถ้าช่วงโควิดจะไม่ค่อยมีเลยค่ะ เหมือนเราก็ไม่ค่อยกล้าออกไปไหนด้วย และด้วยอายุที่เรากำลังโฟกัสกับงานมากๆเราก็จะไม่ได้ออกไปไหนไปเที่ยวกัน”

หลายคนมองว่าการมาคบกับเอสเธอร์ ทำให้เคนดูเปลี่ยนไปดูอ่อนโยน จากก่อนหน้านี้ลุกเป็นหนุ่มดูเจ้าชู้แบดบอยหน่อย?

“ตอนแรกก็กลัวนะคะ เพราะหลายๆคนที่รู้จักก็มาเตือนว่าจะดีเหรอ ตอนแรกเราก็ไม่ค่อยเข้าใจ เพราะไม่ค่อยได้ติดตามข่าวของเค้า แต่เราก็เห็นการเปลี่ยนแปลงของเค้าที่ไปในทิศทางที่ดีขึ้น อาจจะด้วยอายุที่โตขึ้นของเค้าด้วย ความคิดเค้าเลยเปลี่ยน และเราก็ดูจากการกระทำของเค้าด้วย”

แปลว่ามีช่วงพิสูจน์ใจอยู่เหมือนกัน?

“เหมือนเราเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ดูไปในทุกๆวัน ดูระยะยาวว่าจริงๆเค้าเป็นคนยังไง”

เรื่องความงอนกันล่ะ?

“มีค่ะ มีเป็นประจำ งอนเป็นพิธีเล็กๆ ด้วยความที่บางช่วงเค้าจะโฟกัสกับสิ่งที่ชอบมากๆ บางอย่างนิสัยเค้าเปลี่ยนไปนิดนึงแล้วเรารู้สึก เลยคิดว่า เอ๊ะ ถ้าตรงนี้ปล่อยไปเรื่อยๆน่าจะไม่โอเค ทั้งที่เราเคยพูดไปแล้วนะ จนสุดท้ายก็เลยซ่อนรูปในอินสตาแกรม ซึ่งเค้าก็ไม่รู้ไม่คิดอะไรเยอะ เป็นผู้ชายไม่ซับซ้อน และตอนนี้ก็ยังไม่เอาออกด้วย (หัวเราะ)”

คุณแม่ก็ไว้วางใจให้เคนดูแลเรา?

“ก็ฝากฝังได้ในระดับหนึ่ง แต่ส่วนมากหนูจะดูแลเค้ามากกว่า (ยิ้ม) แม่จะไม่ห่วงหนู แม่จะห่วงพี่เคนมากกว่า”

ดูแลเค้ายังไง?

“เค้าเป็นคนขี้ลืม บางอย่างที่เค้าต้องทำหรือเอกสารที่ต้องรับผิดชอบ ก็ต้องคอยเตือนเค้า เรื่องจิปาถะ”

ข้อดีของเค้าล่ะ?

“เค้าเป็นคนอดทนค่ะ เป็นคนใจเย็น ไม่เคยขึ้นเสียงใส่เรา มีแต่เราที่จะบอกว่าจะโมโหแล้วนะ (ยิ้ม) เค้าจะใจเย็นกับเรื่องที่ไม่ควรใจเย็น แต่เรื่องที่ควรใจเย็น ก็ไม่ใจเย็น เรื่องการทำงานเอาอยู่ คนละขั้วคอยเบรกกัน”.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2278597
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2278597