ซึ่งทางบันเทิงไทยรัฐออนไลน์ จะสรุปเหตุการณ์สุดเดือดที่ กานต์ ได้โพสต์ตอบโต้กับลูกๆ ทั้ง 2 ของตัวเองให้เข้าใจง่ายๆ ดังนี้ 

1.ในวันที่ 4 ม.ค. เสือ เสฏกานต์ ลูกชายของ เสก โลโซ และ กานต์ วิภากร ได้ให้สัมภาษณ์หลังจากที่ไปออกรายการดังถึงกรณีข่าวใหญ่ของครอบครัวพร้อมกับแฟนสาว ดรีม กัญญาณัฐ ซึ่งเปิดใจทุกเรื่องที่เป็นประเด็นข่าว 

ซึ่งในวันเดียวกัน หลังจากที่เสือไปออกรายการ กานต์ วิภากร ผู้เป็นแม่ ก็ได้โพสต์รูปและข้อความผ่านทางอินสตาแกรมของตัวเอง บอกว่าคนเป็นแม่ทำเพื่อลูกมาตลอด สมบัติอะไรไม่มีเป็นของตัวเอง ยกให้ลูกเท่าๆ กัน พร้อมกับบอกว่าตัวเองนั้นเลี้ยงลูกผิดเองที่ทำงานหาเงินมากเกินไป ก่อนจะย้ำว่าตัวเองนั้นตายแทนลูกได้ 

2.และหลังจากที่ออกรายการจบในวันที่ 4 ม.ค. เสือ เสฏกานต์ ก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อ และได้ตอบคำถามเรื่องที่อยากจะให้แม่ไปตรวจสุขภาพจิตที่โรงพยาบาล และเสือนั้นยินดีที่จะพาแม่ไป

3.ในวันที่ 5 ม.ค. กานต์ วิภากร ได้แคปข้อความที่เสือให้สัมภาษณ์นี้มาโพสต์ลงในอินสตาแกรมของตัวเอง พร้อมกับบอกลูกชายให้มารับไปตรวจสุขภาพในวันที่ 6 ม.ค. ที่ผ่านมา ที่โรงพยาบาลมนารมย์ บ่ายสองโมง และถ้าตัวเองนั้นป่วยจริง ก็อยากให้ลูกกลับมาดูแลรักษา

จากนั้น กานต์ วิภากร ก็ได้ออกมาโพสต์ความรู้สึกของตัวเองกับเรื่องที่เกิดขึ้นผ่านทางโซเชียลของตัวเองอยู่เป็นระยะ ซึ่งก็มีชาวเน็ตที่เข้าใจในความเป็นแม่ และก็มีชาวเน็ตที่ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่กานต์โพสต์เข้ามาคอมเมนต์แสดงความคิดเห็นมากมาย

4.กานต์ ได้ออกมาเปิดใจถึงปมปัญหาที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าตัวเองไม่ได้หวงลูกชายมากจนเกินไป พร้อมกับยอมรับผิดว่าตัวเองเลี้ยงลูกผิดเอง อีกทั้งยังวอนขอโอกาสให้กับลูกชายอย่าโจมตีด่าว่าเป็นลูกเนรคุณ เพราะเสือถูกส่งไปเรียนที่ต่างประเทศตั้งแต่เด็กเลยไม่เข้าใจวัฒนธรรมประเพณีของสังคมไทยเท่าไร

แต่ชาวเน็ตก็ยังให้ความสนใจและวิจารณ์ถึงเรื่องนี้กันอยู่อย่างต่อเนื่อง และมีการพูดถึงปมที่เสือไม่ยอมพาแม่ไปหาหมอตามที่แม่ได้นัดไว้

5.ในวันที่ 9 ม.ค. เสือ เสฏกานต์ และ กวาง ลูกของ เสก โลโซ และ กานต์ วิภากร ก็ได้ออมมาโพสต์ความผ่านทางอินสตาแกรมของตัวเอง โดยเสือได้ออกมาชี้แจงถึงเรื่องการไปตรวจสุขภาพจิตของแม่ว่า

6.เสือไม่เห็นด้วยกับการที่แม่โพสต์เรื่องให้พาไปหาหมอออกสื่อจนกลายเป็นข่าว อยากให้เป็นเรื่องส่วนตัว และอยากให้ไปตรวจที่โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา เพราะโรงพยาบาลนี้มีความชำนาญเรื่องจิตเวช และพ่อเสือก็เคยรักษาที่นี่ และเสือยังบอกต่ออีกว่า ได้โทรคุยกับพ่อเรื่องโรงพยาบาลแล้ว และพ่อก็ไม่เคยห้ามไปโรงพยาบาลนี้

และเสือยังเล่าอีกว่า ได้สังเกตแม่มาหลายปี ได้เห็นพฤติกรรมของแม่ คนในครอบครัว คนใกล้ชิดเห็นแต่ไม่มีใครกล้าบอก และในวันที่เกิดเรื่องจนตัวเองต้องออกมาจากบ้าน ได้เห็นสีหน้าและอารมณ์ของแม่ที่ไม่อยากจะเห็น

และจริงๆ ส่วนตัวไม่อยากจะออกมาโพสต์อะไรออกสื่อแบบนี้ แต่เพราะแม่โพสต์เยอะมาก เลยต้องออกมาพูดให้แม่และทุกคนเข้าใจ ว่าตัวเองนั้นเจอและโดนอะไรมา ครอบครัวแต่ละครอบครัวไม่เหมือนกัน และสิ่งที่ได้เห็นตามข่าวมันลึกกว่านั้น

7.ในวันเดียวกัน กวาง ลูกสาวคนที่ 2 ของ เสก โลโซ และ กานต์ วิภากร ก็ได้เปิดอินสตาแกรมและโพสต์ข้อความให้ทุกคนเข้าถึงมุมมองของกวาง และเจ้าตัวก็ได้เขียนข้อความเอาไว้ว่า

การที่คนป่วยไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่หากมีคนใช้คำว่าป่วยมาทำให้คนที่ป่วยไม่ยอมรับ อาย ก็จะทำให้ผู้ป่วยและครอบครัวเจ็บปวดไปด้วย 

พร้อมกับบอกว่าตัวเองนั้นก็ได้ไปตรวจและพบว่าเป็น ซึมเศร้า โรควิตกกังวล โรคสมาธิสั้น ซึ่งมีอาการคล้ายๆ ไบโพลาร์ แต่ตัวเองนั้นก็พยายามทำให้ต้วเองดีขึ้น และมีพี่ชายคอยซัพพอร์ตเสมอ ตนไม่ใช่คนดังเป็นแค่ลูกของนักดนตรีที่มีความสามารถและเป็นคุณพ่อที่ดีที่สุด

8.หลังจากที่ เสือ และ กวาง ได้โพสต์ข้อความลงในอินสตาแกรมของตัวเองไป ทางด้าน กานต์ วิภากร ก็ได้โพสต์ข้อความผ่านทางอินสตาแกรมตอบโต้ลูกทั้ง 2 คนเอาไว้หลายโพสต์ว่า 

ให้เสือและกวางต้องบำบัดอย่างเร่งด่วนเพราะเสือเสียความเป็นตัวเองไปหมดแล้ว เห็นกงจักรเป็นดอกบัวควรเข้าวัดสนทนาธรรมกับพระบ้าง ก่อนที่จะเห็นผิดเป็นชอบไปมากกว่านี้ พ่อแม่คงสอนไม่ได้แล้ว ลูกเทวดาเห็นกงจักรเป็นดอกบัว บัวใต้ตมที่ให้พวกโรคจิตจูงจมูก 

และที่บอกว่าไม่อยากเป็นข่าวแต่ไปร้องศาลสั่งห้ามเข้าใกล้ และสั่งตรวจสุขภาพจิต นี้หรือที่บอกไม่ควรให้ชาวบ้านรู้ และกานต์มั่นใจว่าสิ่งที่เสือเขียนลงในโซเชียลนั้นไม่ใช่ความคิดของลูกชายเพราะขนาดภาษาไทยยังพูดผิดๆ ถูกๆ 

9.กานต์ วิภากร ยังถามลูกๆ ว่าหัดเป็นเด็กเลี้ยงแกะกันตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมถึงไม่พูดความจริงเรื่อง เสก ไม่อยากให้ไปตรวจที่โรงพยาบาลที่เสืออยากให้ไปเพราะเสกบอกว่ากานต์ไม่ได้เป็นอะไร จะไปตรวจทำไม และเสกและกวางก็เคยมารักษาตัวที่โรงพยาบาลที่กานต์จะให้เสือพาไปอีกด้วย

10.และกานต์ยังทิ้งท้ายเอาไว้อีกว่า ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว ลูกตอบแทนพ่อแม่ได้อย่างสุดซึ้งทำให้รู้ว่าควรให้อะไรกับลูกคนไหน พร้อมกับบอกว่า ดีที่เปิดเผยมาไว้ถ้าช้ากว้านี้ตัวเองคงถูกเอาไปทิ้งในโรงพยาบาลบ้า หรือไม่ก็บ้านบางแค 

11.จากนั้น กานต์ ยังโพสต์ถึงลูกของตัวเองต่อว่า การงานไม่ทำ สร้างแต่ปัญหา บุญคุณยังไม่เคยทดแทน เฝ้าแต่เรียกร้องขอนั่นนี่อยู่กันยังไงไร้ค่า วันๆ จ้องทำลายพ่อแม่ พร้อมกับบอกอีกว่า ให้ไปคิดและสำรวจตัวเองว่าตัวตนที่เป็นอยู่ใครให้มา ถ้าไม่อาศัยท้องกุมาเห่า พวกมันจะเอาอะไรมาปากดีได้

และดูเหมือนเรื่องราวความดราม่าในครอบครัว ศุขพิมาย จะยังไม่จบลงง่ายๆ ซึ่งต้องมาดูกันต่อไปว่าปัญหานี้จะจบลงอย่างไร คงต้องเอาใจช่วยให้ทุกอย่างจบลงอย่างแฮปปี้เคลียร์กันเข้าใจและกลับมาอยู่กันเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์เหมือนเดิม.