เปิดโปรไฟล์ 2 หนุ่มหน้าใส ยุ่น-สุดยอด คู่จิ้นเคมีใหม่จาก ใส่รักป้ายสี


ให้คะแนน


แชร์

กำลังเข้มข้นเลยทีเดียว สำหรับซีรีส์เรื่อง ใส่รักป้ายสี ที่ได้ สิงโต ปราชญา กับ เต้ ดาวิชญ์ มารับบทนักแสดงนำของเรื่อง ร่วมด้วย 2 หนุ่มที่กำลังจะเป็นคู่จิ้นใหม่ของแฟนซีรีส์ สุดยอด พัฐสิฐ เพิ่มพูลสวัสดิ์ และ ยุ่น ภูษณุ วงศาวณิชชากร มาเป็นคู่รองของซีรีส์เรื่องนี้ ซึ่งเป็นคู่ที่น่าสนใจของแฟนซีรีส์ไม่แพ้ใครเลยทีเดียว

ล่าสุด บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พร้อมทำความรู้จักกับ 2 หนุ่ม ยุ่น และ สุดยอด เป็นครั้งแรก ต้องบอกเลยว่า ระหว่างที่เรานั่งพูดคุยกันนั้น ออร่าความเป็นคู่จิ้น เป็นเพื่อนซี้นั้นเฉิดฉายมาแต่ไกล จึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมแฟนซีรีส์ถึงจับจิ้นกัน เพราะคู่นี้มีเคมีที่ลงตัวอย่างมาก แม้ว่าจะเพิ่งเคยร่วมงานกันเป็นครั้งแรก แต่ทั้งคู่ก็เข้าขาเข้าบทกันได้ดีเลยทีเดียว 

โดย 2 หนุ่ม ได้เปิดใจเล่าถึงการทำงานร่วมกันเป็นครั้งแรก พร้อมกระแสตอบรับจากแฟนๆ ที่ได้ยินแล้วหายเหนื่อยมากเลยทีเดียว 

สุดยอด “ตอนนี้ฟีดแบ็กก็ดีกว่าที่คิดครับ เพราะว่าแฟนคลับก็ไม่เคยเห็นเรา 2 คนทำงานคู่กัน เป็นโปรเจกต์แรกครับ เพราะฟีดแบ็กดีทุกๆ EP ล่าสุดนี่ก็รีแคปภาพโมเมนต์กันมากขึ้นครับผมตามที่หลายๆ คนคาดหวังครับ 

พอในซีนเริ่มมีฉากที่ได้มีความรักกันมาขึ้น เริ่มแสดงออกกันมากขึ้น ก็เริ่มมีแคปภาพแล้วแชร์กันในโซเชียล ในทวิตเตอร์ครับ”

ยุ่น “ฟีดแบ็ก EP.5 ดีขึ้นเรื่อยๆ ครับผม เป็นเหมือนแบบกลางเรื่องแล้ว เริ่มเห็นเนื้อเรื่องมากขึ้นแล้ว เป็น EP ที่ได้กระแสตอบรับดีมากขึ้นครับ มีคนแคปและติดแท็กมาหาเยอะมากขึ้นเลยครับ

ถามว่าหายเหนื่อยมั้ย หายเหนื่อยเลยครับ เพราะว่าเห็นคนชอบ เห็นคนปั่นกระแสในทุกๆ EP เลยครับ ก็เป็นกำลังใจในการทำงานของเรา มีกำลังใจขึ้นเยอะเลยครับ ส่วนตอนต่อๆ ไป บอกเลยว่า จะมีความหวานให้เห็นแน่นอนครับ เพราะว่าตอนนี้แค่จุดเริ่มต้นเองครับผม (ยิ้ม)”

เพิ่งเจอกันครั้งแรก ก็ทำงานได้สบายหายห่วง

ยุ่น “ผมเจอกับ น้องสุดยอด ครั้งแรกในวันฟิตติ้งเลย ก็ยังเกร็งๆ อยู่เพราะเรายังไม่เคยร่วมงานกันแบบจริงจังหรือคุยกันเลย พอได้คุย ได้ทำงานกันแล้วก็หายห่วง สบายครับ ทำงานกันง่าย”

สุดยอด “ของผมก็ได้เจอพี่ยุ่นครั้งแรกวันฟิตติ้งเหมือนกัน ก่อนหน้านั้นก็ยังไม่เคยเจอกันครับ ก็คือผู้ใหญ่ทางทีวีธันเดอร์ พี่ไก่ ก็ได้เรียกเข้ามาแคสต์ ของเราได้ลองแคสต์หลายๆ บท แล้วมาไฟนอลที่เรา ก็ได้รับบท ธาน ครับ

แล้วเจอพี่ยุ่นครั้งแรกตอนวันฟิตติ้ง ครั้งแรกก็ยังไม่ได้เกร็งอะไร แต่แค่เรายังไม่เคยเจอกัน ยังไม่เคยทำงานด้วยกัน ก็ไม่รู้ว่าพี่ยุ่นเป็นยังไง แต่พอได้ทำงานด้วยกัน พี่ยุ่น ทำงานด้วยง่ายครับ ผมเคยได้ยินชื่อ พี่ยุ่น มาก่อน แต่ว่าไม่ได้รู้จักกันกับเป็นส่วนตัวเลยครับ”

ยุ่น “เคมีในวันฟิตติ้งมันก็เข้ากันโอเคครับ เข้ากันดี ทำงานกันได้ สะดวกครับ แล้วพอลงเวิร์กช็อป ลงซีน ก็ต้องปรับเรื่องคาแรกเตอร์และเคมีที่ต้องเข้ากันมากกว่านี้ และบุคลิกในการเดิน ความเป็นตัวละครก็ต้องใช้เวลาในการเวิร์กช็อป 3-4 วัน ถึงจะถ่ายทำจริงๆ ได้”

สุดยอด “เริ่มมารู้จักตัวละครมากขึ้นจริงๆ ก็ตอนวันเวิร์กช็อปครับ เพราะครูสอนแอ็กติ้งก็มีเทคนิคในการหาคาแรกเตอร์ในตัวละคร สุดท้ายก็ไปเจอตัวละครนี้ได้ตอนท่าเดิน เขาให้ลองเดินหลายๆ ท่า โดยใช้อินเนอร์ แต่สุดท้ายแล้วเรามาเจอท่าเดินที่ปล่อยสบายๆ มองโลกในแง่ดี นั่นคือคาแรกเตอร์ของ ธาน ได้จากท่าเดินนี้”

ยุ่น “บทบาทที่ได้รับของ ยุ่น นะครับ จะรับบท หนึ่ง เป็นพระเอกชื่อดังในเรื่อง แล้วมีชื่อเสียงมากพอสมควร เป็นพี่ชายของ ปรเมศ (รับบทโดย สิงโต ปราชญา) แต่ต่างพ่อต่างแม่ครับ เราโตมาด้วยกันจนสนิทเหมือนพี่น้องจริงๆ แต่ ปรเมศ เขารู้สึกว่าเรารักกันเหมือนพี่น้องรึเปล่า จนต้องมีเหตุบังเอิญที่ต้องแยกกัน แต่แยกกันไม่ดีเท่าไหร่ พอได้มาเจอกันอีกทีก็เกร็งๆ เหมือนมีปมในใจกัน ก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ครับ ได้คลายปมกันเรื่อยๆ ครับ”

สุดยอด “ผมรับบท ธาน ครับ ก็เป็นนักแสดงเหมือนกัน แต่เป็นนักแสดงใหม่ที่ยังไม่มีชื่อเสียงมาก ยังไม่ได้รับบทที่โดดเด่นเท่าไหร่ แต่เพิ่งได้มารับบทแสดงซีรีส์วายครั้งแรก เป็นคู่หลักกับ พี่หนึ่ง (ยุ่น ภูษณุ) ในเรื่องครับ 

สำหรับผมก็ถือว่าค่อนข้างตรงกับคาแรกเตอร์ของเรา เราเป็นเพื่อนกับ ปรเมศ เหมือนกัน แต่พอความรักความสัมพันธ์มันเกิดขึ้น เราก็ต้องทบทวนหลายอย่าง เพื่อนก็รัก แล้วเราก็ไม่รู้ว่าเพื่อนกับพี่หนึ่งเป็นยังไงกัน แต่ว่าความรักของเราก็ค่อยๆ คลายมากขึ้นใน EP หลังๆ แต่สุดท้ายแล้วเราจะจัดการกับความรู้สึกนี้ยังไง”

ยุ่น “ถามว่าคาแรกเตอร์เหมือนกับที่เคยเล่นมามากน้อยขนาดไหนของ ยุ่น นะครับก็มีทั้งเหมือนและต่างกันบ้าง ในเรื่องที่ต่างกันก็คือส่วนใหญ่ที่เคยเล่นจะเป็นคอมเมดี้ ส่วนที่เหมือนกันก็จะเป็นในเรื่องของ Y – Destiny จะเป็นคนที่สุขุม แต่ว่าเรื่อง ใส่รักป้ายสี จะหนักกว่าไปในทางสุขุมและขี้แกล้งครับผม”

สุดยอด “ของยอดค่อนข้างต่างกับคาแรกเตอร์ที่เคยได้รับครับ ส่วนใหญ่จะเป็นคาแรกเตอร์ที่ค่อนข้างตลกไปเลย คือจะสร้างสีสันไปเลย แต่อันนี้มันเป็นในเชิงบวกเหมือนกัน เป็นไปในทางที่สุขุมมากขึ้น และต้องทำงานในวงการบันเทิง ต้องมีความรับผิดชอบ และความรักค่อนข้างซับซ้อน”

ยุ่น “ขอฝากซีรีส์เรื่อง ใส่รักป้ายสี ด้วยนะครับ เป็นซีรีส์ที่ครบรสมากแล้วก็เป็นบทบาทที่ผมเพิ่งได้รับแบบนี้ครั้งแรกด้วยนะครับ แล้วก็ได้ร่วมงานกับ น้องสุดยอด ครั้งแรกด้วยครับ เป็นเคมีใหม่ที่ทุกคนอาจจะไม่เคยเห็น ก็ขอฝากด้วยนะครับ”

สุดยอด “ก็ฝากให้ทุกคนได้ติดตามเหมือนกันครับ กับซีรีส์เรื่อง ใส่รักป้ายสี เป็นซีรีส์วายแนวคอมเมดี้ ที่ผมรู้สึกว่ามันค่อนข้างแปลกใหม่ เป็นแต่ละเรื่องราว การใช้ศิลปะในคาแรกเตอร์ของแต่ละตัวละคร มารวมกับเส้นเรื่องให้เล่าในรูปแบบใหม่ครับ ก็อยากให้ทุกคนติดตามทาง POPS App ทุกวันศุกร์ เวลา 20.00 น. และทางช่อง 3 กด 33 ทุกวันจันทร์ เวลา 23.00 น. ครับผม”

การทำงานจริงไม่เหมือนกับที่เคยคิดไว้

ยุ่น “การทำงานในกองถ่ายของพวกเราก็จะสนุกดีนะครับ ตอนแรกคิดว่า วันแรกเราจะเกร็งๆ หน่อยเพราะยังไม่เคยทำงานกับพี่ผู้กำกับเลย ก็จะคิดว่าโหดๆ หน่อย แต่พอได้มาทำงานด้วยกันจริงๆ ก็สบายใจกว่าที่คิด เพราะพี่ๆ เขาช่วยเรื่องซีน เรื่องอารมณ์ ทำให้ผมกับ ธาน ไปได้ถึงอารมณ์ที่เขาต้องการได้มากขึ้นครับ”

สุดยอด “ของผมอะ จะเกร็งกับพี่ผู้กำกับเหมือนพี่ยุ่นเลย แต่ว่าบทหรือการร่วมงานก็ไม่ได้เกร็ง เพราะว่าเราเตรียมพร้อมเต็มที่ แต่ว่าคาแรกเตอร์ของพี่นอต (พงศธร ทองเจริญ) ผู้กำกับเขาจะดูห้าวๆ ดุๆ หน่อย พอทำงานด้วยแล้วเขาจะเป็นคนจริงจัง แต่เขาจะมีเทคนิคให้เราไปถึงคาแรกเตอร์ ไปถึงอารมณ์ซีนได้ง่าย”

เป็นการร่วมงานกันครั้งแรกกับ เต้ ดาวิชญ์ – สิงโต ปราชญา

ยุ่น “เรื่องนี้เราได้ร่วมงานกันเป็นครั้งแรกกับ สิงโต ปราชญา เลย แต่กับพี่เต้ ดาวิชญ์ เนี่ยเราเจอกันมาก่อน แต่ยังไม่เคยร่วมงานกัน ทั้ง 2 คน ก็ทำงานด้วยแล้วสบายครับ ไม่ถือตัวเลย”

สุดยอด “ของผมยังไม่เคยร่วมกับพี่ทั้ง 2 คนเลย แต่ว่าพอได้พูดคุยกันกับพี่ๆ ทั้ง 2 คนก็น่ารักครับ แต่พี่สิงจะชอบแกล้ง แกล้งผมไม่ให้กลับก่อน ว่างๆ ก็เดินมาแกล้งแล้ว มาบีบคอข้างหลัง หรือมานวดๆ เลยทำให้การเข้าบทของผมกับพี่สิงไม่เกร็งแล้ว”

หนุ่มขายป๊อปคอร์นหน้าใส

ยุ่น “ของผมเริ่มจากไปแคสต์ละครช่องครับ ตอนนั้นทำงานพาร์ทไทม์ขายป๊อปคอร์นอยู่ครับ แล้วก็มีคนมาทักว่าให้ลองไปแคสต์เรื่องนี้ดูมั้ย ก็เลยลองไปดู เพราะว่าตอนนั้นใกล้จะเรียนจบแล้วครับ กำลังทำธีสิสอยู่ เลยลองไปดูเพราะว่างๆ ก็เลยได้รับบทนั้นพอดี ตื่นเต้นมาก ก็ได้ถ่ายเรื่องนั้นประมาณ 7-8 เดือน ทำให้ผมลืมงานด้านที่เรียนมาไปเลย เลยตัดสินใจมาทำงานด้านวงการบันเทิงดูครับ 

เรื่องแรกที่ผมไปแคสต์เป็นเรื่อง สายลับจับแอ๊บ ครับ เล่นกับพี่บอย ปกรณ์ แล้วก็ แพทริเซีย ครับ ตอนที่ผมมาแคสต์อะ พี่ผู้จัดการในตอนนั้นเขารู้จักกับค่ายกู๊ดฟิลลิ่งครับ ก็เลยพาเข้าไปแคสต์ดู ตอนนั้นเขากำลังหานักแสดง 4 คนเป็นบอยแบนด์ เลยได้ลองไปแคสต์ดู พอได้ปุ๊บเฮลั่นบ้านเลย 

ผมเรียนมาทางด้านบริหารโปรแกรมเมอร์ครับ แต่ตอนนี้คืนวิชาที่เรียนไปหมดแล้ว (หัวเราะ) จากตอนนั้นมาก็มาทำงานด้านวงารบันเทิงมาโดยตลอดครับ ก็เข้าวงการมาประมาณ 5 ปีแล้ว แต่พอจบจากเรื่อง สายลับจับแอ๊บ ผมก็ว่างงานอยู่ประมาณ 1-2 ปีครับ (หัวเราะ) แล้วมาเริ่มใหม่ครับ

จากนั้นก็มาเล่นซีรีส์เรื่อง YYYมันส์เว่อร์นะ แล้วซีรีส์เรื่องนี้มีชื่อเสียงมาก เลยทำให้ผมได้มีโอกาสทำงานมาเรื่อยๆ คนโน้นคนนี้เห็น ผู้ใหญ่ก็เลยได้ลองให้มาแคสต์ดูครับ”

“ตัวจริงของผมจะเป็นคนรั่วๆ ติงต๊อง แต่ถ้าไม่รู้จักก็จะเป็นอย่างที่เห็นในภาพทั่วไปครับ ถ้ารู้จักกันจริงๆ เป็นเพื่อนสนิทกันแล้ว จะบ้าๆ เฮฮา เพื่อนเคยตั้งฉายาให้ผมว่า เอ๋อ ด้วย เพราะบางทีจะเป็นคนเอ๋อๆ หน่อย เรียกแล้วไม่ได้ยินไรงี้ 

ผมเคยประกวดเดือนคณะตอนประมาณปี 2 จริงๆ ได้ที่ 2 ครับ แต่คนที่ได้ที่ 1 เขาเป็นคนต่างชาติ แล้วเขากลับประเทศ ผมก็เลยได้เป็นที่ 1 แทน (หัวเราะ)”

เคยเป็นจุดเล็กๆ ที่ไม่ค่อยมีใครสนใจ

สุดยอด “ของผมเริ่มจากถ้าเป็นงานเล็กๆ มีพี่มาชวนผมไปแคสต์มิวสิกวิดีโอของ AF แต่เป็นมิวสิกวิดีโอสั้นๆ ครับ ยังไม่ได้เป็นจุดสนใจเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นงานเต็มตัวเลยเริ่มจาก พี่นิว ศิวัจน์ สวัสดิ์มณีกุล ผู้กำกับซีรีส์วาย ก็ชวนมาเล่นสมทบใน Water Boyy the Series ตอนนั้นเล่นกับนักแสดงตัวใหญ่ๆ ก็เกร็งอยู่ จากนั้นก็ได้ต่อเรื่อง บังเอิญรัก Love By Chance อันนี้ที่ทำให้มีชื่อเสียงขึ้นมาบ้างระดับหนึ่งครับ ก็ดีใจครับที่มีคนให้การสนับสนุนมาตั้งแต่ตอนนั้น”

“ผมมาจากการประกวดดาวเดือนของคณะด้วยครับ อาจจะมีพี่ๆ ไปเห็นประกวด คือตอนนั้นไม่ได้อยากประกวดเลย ถ้าย้อนกลับไป ผมเป็นคนที่ค่อนข้างจะมีความเป็นส่วนตัวสูง ไม่ค่อยเที่ยว แต่มีสังคมนะครับ เป็นคนที่สนุกสนานกับเพื่อนๆ อยู่แล้ว แต่จะไม่ค่อยเล่นโซเชียล เปิดโลกภายนอกเท่าไหร่ แต่ถ้ากับเพื่อนสนิท ที่รู้จักกันจะโอเค เต็ม 100 เหมือนเดิม

ถามว่าต้องปรับตัวเยอะมั้ย ก็ถือว่าปรับตัวเยอะเลย เพราะว่ามันเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ของเราไปเลยในเรื่องของการเล่นโซเชียล การพบปะผู้คน การเข้าถึงสื่อ หรือว่าให้สื่อเข้าถึงเรา ช่วงแรกๆ ก็ปรับตัวเยอะมาก ก็พยายามเปลี่ยนตัวเอง

แต่หลังๆ ผมโอเคนะ กลับกลายเป็นว่าแฮปปี้กับการที่เราทำแบบนี้ ไปเจอคน ได้ทำอะไรหลายๆ อย่าง ได้อัปเดตชีวิต แล้วแฟนคลับก็มีฟีดแบ็กในทุกๆ การอัปเดตของเรา ก็มีความสุขครับ”

พ่อแม่พร้อมซัพพอร์ต แม้ปากจะบอกไม่สนใจ

ยุ่น “ที่บ้านผมเป็นครอบครัวที่อะไรก็ได้ จะทำอะไรก็ได้ แค่มีความสุขก็พอ ไม่ได้กดดัน ไม่ได้ซีเรียส แค่เอาชีวิตตัวเองรอดก็พอครับ พ่อกับแม่ผมนะ ปากก็บอกว่าไม่ได้สนใจ แต่ผมเห็นแชร์ทุกอันเลยที่เกี่ยวกับผม” 

สุดยอด “ที่บ้านผมตอนแรกเรียกว่าไม่เข้าใจเลยดีกว่าครับ แต่ว่าไม่ได้ขัดขวางหรือว่าไม่ได้สนับสนุน เขาสนับสนุนทุกอย่างที่ผมทำ แต่ตอนแรกเหมือนไม่เข้าใจว่าเราจะทำงานในวงการบันเทิงได้ยังไง เลี้ยงตัวเองได้ยังไง

เพราะว่าการเล่นซีรีส์หลังๆ มานี่มันเพิ่งเห็นภาพ ก่อนหน้านั้นคนที่จะเป็นดาราดังได้ต้องเป็นนักแสดงช่อง มีสังกัด ต้องเป็นพระเอกนางเอก แต่ผมว่าซีรีส์สมัยนี้มันเปิดกว้างมากขึ้น แล้วพอเราได้ทำงาน มีผลงาน แล้วก็ได้ต่อยอดไปได้

พ่อแม่เขาก็เบาใจลง จากที่ไม่เข้าใจก็มาสนับสนุน เลยกลายเป็นว่า ผมต้องห้ามมากกว่าว่า แม่อย่าเพิ่งไปบอกใครนะ ว่ายอดกำลังจะเปิดกล้องเรื่องนี้ ยังไม่ออฟฟิเชียลเลยแม่ ใจเย็นๆ ก็ให้เขาพูดได้กับคนสนิทๆ เท่านั้น ตอนนี้เขาก็เหมือนเป็นกองเชียร์ เป็นเบื้องหลังของผมครับ”

ขอบคุณความพยายามของตัวเอง

สุดยอด “ถามว่าจุดที่ยืน คิดว่าประสบความสำเร็จรึยัง สำหรับผมนะ ผมคิดว่ายังครับ ผมยังอยากจะไปต่อให้มากกว่านี้ แต่ผมก็ยังไม่ได้คิดนะว่าจุดสูงสุดของผมมันจะเป็นยังไง แต่ผมก็จะพยายามทำให้ได้มากขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆ วัน ทุกงานที่เคยได้รับ ตอนนี้ได้รับบทนี้แล้ว อยากเพิ่มความยากไปขึ้นเรื่อยๆ อยากเพิ่มฐานแฟนคลับ อยากเพิ่มวงกว้างไปเรื่อยๆ อยากไปต่อ อยากไปอินเตอร์บ้าง แต่มันก็ยังไม่สุด ผมอยากทำให้เต็มกำลังของผม และพอถึงเวลาค่อยพักครับ”

ยุ่น “สำหรับผมนะครับ ถือว่าประสบความสำเร็จมาขั้นหนึ่งแล้ว ผมมาไกลกว่าที่ผมคิดแล้ว แต่ถามว่าสุดมั้ย ผมก็ไม่รู้ว่ามันสุดแค่ไหน ผมทำเท่าที่ตัวเองทำไหวหรือว่าเลี้ยงตัวเองไหว แต่ถ้ามันสุดแล้วก็คงไปหาอะไรอย่างอื่นทำ แต่ว่างานแสดงก็เป็นงานที่ชอบ เป็นงานที่ลองทำแล้วมันก็มีเสน่ห์ของมัน ทำแล้วมีความสุข ถามว่าทำต่อได้มั้ย ได้เรื่อยๆ แหละครับ สนุกครับ”

ยุ่น “ขอบคุณแฟนคลับทุกคนที่ติดตามมาตลอดครับ ไม่รู้ว่ายังอยู่กันรึเปล่า (หัวเราะ) ก็ขอบคุณมากเลยครับ แล้วผมจะมีผลงานออกมาเรื่อยๆ ครับ ทำเต็มที่แน่นอนครับ”

สุดยอด “ของ สุดยอด ก็ขอบคุณทุกคนที่ยังติดตามตั้งแต่วันแรกครับ บางคนก็เห็นหน้ากันตั้งแต่วันแรกที่ผมยังไม่ได้มีผลงานอะไรเลย ชุดนั้นที่ยังอยู่ก็ดีใจมากครับที่ยังอยู่สนับสนุนกันมาตั้งแต่แรก ทุกวันนี้ยังมีแท็กผลงานตั้งแต่แรกๆ เข้ามาอยู่เลย ขอบคุณที่เลือกที่จะซัพพอร์ตเรามาตลอด และเลือกที่จะฝากความหวังไว้กับเราครับ จะทำตามความหวังที่คาดไว้ให้ดีที่สุดครับ”

ยุ่น “ถ้าในอนาคตเรามีงานด้วยกัน เป็นคู่จิ้นกันก็ดีใจมากครับ ยินดีมากๆ เลยครับ (ยิ้ม)”.

ผู้เขียน : โอ้ว…ซาร่า

กราฟิก : Jutaphun Sooksamphun

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2284402
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2284402