ตู่ ปิยวดี รับป่วยบ่อย หวั่นเป็นเจ้ากรรมนายเวร! เร่งขออโหสิกรรม
ผู้จัดคนสวย ตู่ ปิยวดี อัพเดตผ่าตัดเข่า ใจเสียวิ่งไม่ได้ตลอดชีวิต รับป่วยบ่อย-หวั่นเป็นเจ้ากรรมนายเวร! เร่งขออโหสิกรรม
เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
ออกจากโรงพยาบาลกลับมาพักฟื้นที่บ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับผู้จัดคนสวย ตู่ ปิยวดี มาลีนนท์ หลังต้องเข้ารับการผ่าตัดหัวเข่าด่วนเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา หนำซ้ำเจอแบคทีเรียลงกระเพาะอีก ทำให้ต้องแอดมิตต่ออีกหลายวัน
ล่าสุด ตู่ ปิยวดี เปิดใจกับทาง “ข่าวสดบันเทิงออนไลน์” อัพเดตอาการหลังผ่าตัด ยอมรับใจเสียเมื่อรู้ว่าจะวิ่งไม่ได้ตลอดชีวิต ก่อนเผยช่วงนี้ป่วยและเข้า-ออกโรงพยาบาลถี่ จนแอบคิดไปถึงเรื่องเจ้ากรรมนายเวร พร้อมเร่งสวดมนต์ขอขมา
ทำไมถึงต้องผ่าตัดเข่าด่วน? “คุณหมอบอกว่ามันเป็นตั้งแต่เกิด กระดูก 2 ชิ้นที่เข่าของคนปกติต้องเท่ากัน แล้วระหว่างกระดูก 2 ชิ้นมันจะมีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่ แต่ของเราชิ้นล่างมันใหญ่กว่า แทนที่มันจะกระทบกันพอดี กลับไปครอบชิ้นบนทำให้ชิ้นบนร้าว พอมันเริ่มร้าวก็มีผลทำให้น้ำในเข่าค่อยๆ หายไปด้วย”
“ตอนแรกไม่ได้คิดอะไรคิดว่าอาจจะด้วยอายุ 40 กว่าแล้ว ความกร๊อบแกร๊บต้องมา แต่ตอนหลังเริ่มมีอาการเข่าบวมขึ้นเวลาใส่ส้นสูง เลยไปหาคุณหมอ ตอนแรกให้ลองทานยาดูก่อนแต่ไม่ยุบเลย จนทำ MRI ดีกว่า สุดท้ายเจอปัญหาว่ากระดูกมันใหญ่เกินไป การผ่าตัดครั้งนี้เลยต้องผ่าเข้าไปเพื่อเจียกระดูกที่ใหญ่ให้มันเท่ากัน และฉีดน้ำเข้าไปในข้อเพื่อให้มีน้ำหล่อเลี้ยงเข่าด้วย”
“คุณหมอก็บอกว่าถ้าถามผมว่าเร่งด่วนไหม ผมอยากให้คุณผ่าพรุ่งนี้เลย คุณผ่าได้ไหมผมจะหาคิวผมให้ เพราะคุณหมอบอกว่ามันไม่ดีกับการที่กระดูกมาสีกันตลอดเวลา มันก็จะยิ่งร้าวมากขึ้น เลยกลายเป็นผ่าตัดด่วนโดยที่ไม่ได้บอกใครเลย”
ผ่าเข่าแล้วทราบว่าจะวิ่งไม่ได้ตลอดชีวิต? “ใช่ค่ะ คุณหมอบอกว่ากระดูกมันเสียหายค่อนข้างเยอะ แล้วคุณหมอก็เอาบางส่วนของสะบ้าออก เนื่องจากว่ามันโดนเสียดสีเยอะจนเสียหายมากไปแล้ว คุณหมอเลยเจียออกเลยดีกว่า ทำให้เราไม่มีสะบ้าขาด้านนอก เลยทำให้จะวิ่งไม่ได้”
“พอได้ยินคำว่าจะวิ่งไม่ได้ตลอดชีวิตก็ใจเสียนะ ใจแป้วเหมือนกัน แต่ก็พยายามคิดว่าวิ่งไม่ได้เราก็ยังเดินได้แหละ คือเราไม่ได้กะจะวิ่งมาราธอนอะไร เพียงแต่เราแพลนจะมีลูก เด็กมันก็จะต้องวิ่งบ้าง เราก็อยากมีโมเมนต์วิ่งเล่นกับลูก เลยยังมีความหวังอยู่ว่าจะพยายามสร้างกล้ามเนื้อเพื่อให้อย่างน้อยเรายังวิ่งเล่นกับลูกได้ค่ะ”
แต่มีเหตุให้ป่วยซ้ำซ้อนไปอีก? “หลังจากการผ่าตัด 7 วัน มันมีสิทธิ์ที่เราจะเป็นลิ่มเลือดได้ ซึ่งมันอันตรายถึงชีวิตได้กรณีมีลิ่มเลือด คุณหมอก็เลยต้องให้กินยาสลายลิ่มเลือดควบคู่ไปด้วย แต่ทีนี้ยาลิ่มเลือดตัวนี้มันค่อนข้างจะระคายเคืองต่อกระเพาะแต่คุณหมอก็จะให้กินคู่กับยาลดกรด แต่ด้วยความที่กระเพาะเราเซ้นซิทีฟเลยมีอาการกับยานี้ค่อนข้างเยอะ”
“สุดท้ายมันเป็นผลจากการที่ยาสลายลิ่มเลือดและยาแก้ปวดตัวหนึ่งค่อนข้างระคายเคืองกระเพาะ ประกอบกับในช่วงนั้นเรามีแบคทีเรียลงกระเพาะด้วย เลยไปกระตุ้นกันเยอะขึ้นทำให้เราเป็นลมไปก็เลยต้องแอดมิตต่อ”
คิดไหมว่าทำไมช่วงนี้ตัวเองป่วยบ่อย? “เอาจริงๆ คราวที่แล้วที่สลบยังแค่รู้สึกว่าโอเคมันก็เกิดขึ้นได้ในชีวิตคนเรา แต่พอมาผ่าเข่าปุ๊บแล้วมาสลบอีกรอบอ่ะ ตอนนี้เริ่มคิดไปถึงเรื่องเจ้ากรรมนายเวรอะไรแบบนี้แล้วว่าแบบเออ…หรือเราเคยไปทำอะไรกับใครไว้หรือเปล่า”
“พอออกจากโรงพยาบาลมาสิ่งที่ทำอย่างหนึ่งนอกจากกายภาพเลย คือขออโหสิกรรมขอขมากรรมกับเจ้ากรรมนายเวร ถ้าสมมติว่าเราเคยทำอะไรที่ผิดพลาดไป หรือมีความขัดแย้งกันใดใดก็ขออโหสิกรรมด้วยค่ะ เพราะว่ามันก็ค่อนข้างจะเป็นเยอะและเป็นถี่ ทุกคนก็จะคอยส่งบทขอขมากรรมกันมาเยอะไปหมด เราก็สวดทุกบทเลยนะ ไม่เชื่อก็ทำไว้ก่อนอะไรแบบเนี้ย เพราะเราก็ไม่ได้เสียหาย ตอนนี้ก็คือทุกทางเพื่อให้ไม่เกิดอะไรแบบนี้ขึ้นอีก”
ปีชงไหม? “ไม่ชง แล้วปีนี้จริงๆ เป็นปีที่ดีด้วยนะคะ หลังตรุษจีนไปเนี่ยจะเป็นปีที่ดีมากเลยของราศีของเรา แต่ว่าตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาฟังจากหมอดูตามรายการทั่วไปก็จะบอกอยู่แล้วว่าราศีพฤษภจะมีปัญหาเรื่องสุขภาพ แต่หลังจากตรุษจีนไปจะเริ่มดีแล้ว”
“หวังว่าจะให้ดีขึ้นเพราะว่าแพลนจะมีน้องมันก็ต้องเลื่อนไป เนื่องจากว่าเราผ่าเข่านี่แหละ ต้องรอให้เข่าดีก่อน แล้วถึงจะแพลนเรื่องมีน้องได้ ซึ่งจริงๆ เราไม่ค่อยอยากจะขยับแล้วเพราะว่าอายุเยอะแล้ว ทำได้เมื่อไหร่ก็อยากจะรีบเลย”
ดูข่าวต้นฉบับ
ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6830799
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6830799
