สตาร์ต่างแดน – ‘เลดี้ กาก้า’ถ่ายทอดชีวตซับซ้อน HOUSE OF GUCCI วังวนสุดดราม่า

‘เลดี้ กาก้า’ถ่ายทอดชีวตซับซ้อนHOUSE OF GUCCI วังวนสุดดราม่า – นักร้องสาวซ่า เลดี้ กาก้า กลับมาอีกครั้งในฐานะนักแสดง กับภาพยนตร์เรื่อง House of Gucci ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากเรื่องจริงที่น่าตื่นตะลึงของตระกูลผู้อยู่เบื้องหลังอาณาจักรแฟชั่นอิตาลี

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

ไม่นานหลังจากที่หนังสือของ ซารา เกย์ ฟอร์เดน เรื่อง The House of Gucci : A Sensational Story of Murder, Madness, Glamour and Greed ถูกตีพิมพ์ในปี 2001 สก็อตต์ ฟรี บริษัทโปรดักชั่นมากผลงานของผู้กำกับฯ และผู้อำนวยการสร้าง ริดลีย์ สก็อตต์ ก็ได้ ซื้อสิทธิ์ในการสร้างภาพยนตร์ของหนังสือเรื่องนี้มา

ความรุ่งโรจน์และความตกต่ำของตระกูลกุชชี่ผ่าน คนสามรุ่น ซึ่งรวมถึงความหรูหรา ความโลภ การหักหลังและท้ายที่สุด การฆาตกรรม เป็นประเด็นที่มีเสน่ห์ เย้ายวนใจ

“โปรเจ็กต์นี้เกิดขึ้นเพราะจิอันนีน่า (หนึ่งใน ผู้อำนวยการสร้าง) ภรรยาของริดลีย์ได้ซื้อสิทธิ์หนังสือเรื่องนี้มาเมื่อยี่สิบปีก่อน” เควิน วอลช์ ประธานบริษัทสก็อตต์ ฟรี โปรดักชันส์ และผู้อำนวยการสร้าง House Of Gucci กล่าว เธอทึ่งกับประวัติศาสตร์ของกุชชี่ การยื้อแย่งอำนาจและการเป็นตระกูลผู้อยู่เบื้องหลังบัลลังก์แฟชั่น มันเป็นเครื่องพิสูจน์อย่างแท้จริงถึงความสามารถของเธอในฐานะผู้อำนวยการสร้าง ที่เธอ อยู่กับหนังเรื่องนี้จนถึงเส้นชัยได้ หนังเรื่องนี้เกิดขึ้นได้เพราะความ แน่วแน่ของเธอ”

ผู้อำนวยการสร้าง จิอันนีน่า สก็อตต์ กล่าวว่า “ด้วยความที่ฉันใช้เวลาครึ่งชีวิตอยู่ในอิตาลีและ ตัวฉันเองก็หลงใหลในเรื่องของแฟชั่น ฉันก็เลยสนใจว่าเรื่องราวที่น่าเศร้าสลดนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ความคลั่งไคล้มากแค่ไหน แม้กระทั่งตอนที่พวกเขาทำผิดพลาดทุกสิ่งที่ตัวละครหลักทำลงไปก็เต็มไปด้วยความคลั่งไคล้”

ด้าน ริดลีย์ สก็อตต์ กล่าวเสริมว่า “นี่เป็นประวัติศาสตร์ครอบครัวที่มีเสน่ห์ ตระกูลกุชชี่เกือบจะเป็นเหมือนราชนิกุลของอิตาลีภายในวงการแฟชั่น และการล่มสลายของมันก็เกิดขึ้นจากภายในก่อนที่มันจะแผ่ขยายออกมา มันจะไม่น่าสนใจได้ยังไงล่ะ”

เมื่อ แพทริเซีย เรจจิอานี (เลดี้ กาก้า) คนนอกวงการผู้มีต้นกำเนิดต่ำต้อย ได้แต่งงานกับ เมาริซิโอ กุชชี่ (อดัม ไดรเวอร์) และเข้าสู่ ตระกูลกุชชี่ ความทะเยอทะยานที่แรงกล้าของเธอก็เริ่มคลายปมตำนานของตระกูลนี้และกระตุ้นให้เกิดวังวนแห่งการทรยศ ความเสื่อมทราม การแก้แค้นและท้ายที่สุด…การฆาตกรรม

นอกจาก เลดี้ กาก้า, อดัม ไดรเวอร์ ยังมีนักแสดงดังอีกหลายคน อาทิ จาเรด เลโต (เปาโล กุชชี่), อัล ปาชิโน (อัลโด กุชชี่), เจเรมี ไอรอนส์ (โรดอลโฟ กุชชี่), แจ๊ก ฮูสตัน (โดเมนิโก เดอ โซเล) และ ซัลมา ฮาเยก (พีน่า ออเรียมม่า)

หนึ่งในองค์ประกอบที่ดึงดูด เลดี้ กาก้า ให้เข้าร่วมโปรเจ็กต์นี้คือ ความซับซ้อนของ แพทริเซีย ผู้หญิงที่ทำผิดพลาดได้และมีศีลธรรมที่น่า เคลือบแคลง แต่ในขณะเดียวกันก็รัก เมาริซิโอ กุชชี่ อย่างจริงใจ และกระตือรือร้นที่จะช่วยเขาก้าวไปข้างหน้า ในธุรกิจแฟชั่นของครอบครัว

“ก่อนที่จะดูหนัง บางคนอาจคิดว่าแพทริเซียเป็นนักขุดทอง” เลดี้ กาก้า กล่าว “แต่เมื่อทั้งคู่แต่งงาน ครอบครัวของเขาก็หันหลังให้กับเขา ดังนั้น เธอไม่ได้แต่งงานเพื่อเงินค่ะ แต่เธอแต่งงานเพื่อความรัก”

“ฉันใช้เวลาไปเยอะกับการอ่านเรื่องราวของเธอ ดูเธอให้สัมภาษณ์ ดูการสัมภาษณ์เกี่ยวกับเธอ แต่ฉันพยายามไม่อ่านหรือดูอะไรที่เป็นการแสดงความคิดเห็นมากเกินไป เพราะฉันต้องการจะสร้างเธอขึ้นมาด้วยตัวฉันเอง”

เลดี้ กาก้า เล่าว่า หลังจาก เมาริซิโอ ได้รับมรดก ครึ่งหนึ่งของกุชชี่จากบิดาผู้ล่วงลับไปแล้ว ความทะเยอทะยานของเธอถึงได้เข้าครอบงำ แต่ถึงกระนั้น ความทะเยอทะยานที่ว่าก็ยังเล็ดลอดออกมาจากความต้องการการยอมรับ

“เธออยากให้ครอบครัวยอมรับเธอเอามากๆ เธอฉลาดและรู้สึกว่าต้องทำอะไรเพื่อขับเคลื่อนบริษัทให้ก้าวไป ข้างหน้า แต่การยอมรับของพวกเขา เป็นเพียงภาพลวงตา ทั้งหมดแค่ใช้เธอเพื่อเข้าถึงเมาริซิโอและตอกย้ำอำนาจควบคุมของพวกเขา”

“เธอเป็นคนนอกเสมอ และเป็นผู้หญิงในโลกของผู้ชาย เธอทำอะไรไม่ได้มากนักหรอก เหมือนอย่างที่ผู้หญิงหลายคนรู้ พลังของพวกเธอมักจะถูกมองข้ามเสมอ”

และแม้ว่าการตอบโต้ของแพทริเซีย จะกลายเป็นโศกนาฏกรรม นักแสดงสาว กลับพบวิธีที่จะรักตัวละครตัวนี้จากข้อบกพร่องทั้งหมดของเธอ

“ฉันเชื่อว่าความพยายามทำให้สถานการณ์ในชีวิตของเธอดีขึ้นนั้นมาจากความคิดที่ไร้เดียงสา ไม่ใช่ความรู้สึกผิด น่าเศร้าที่ในท้ายที่สุด ไม่เพียงแต่เธอจะไม่บรรลุเป้าหมาย แต่เธอยังลงเอยไปอยู่ในจุดที่ต่ำกว่า ที่เธออยู่ในตอนเริ่มต้นอีกด้วย”

กาก้าพูดถึง ริดลีย์ สก็อตต์ ไว้ว่าเป็น “ผู้มีวิสัยทัศน์ทางสถาปัตยกรรม เขามีแนวทางสร้างหนังในแบบเดียวกับจิตรกร นอกจากนี้ เขายังเข้าใจถึงความฉลาดทางอารมณ์ของบทและวิธีทำงานร่วมกับนักแสดงและค้นหาสิ่งที่พวกเขาพยายามจะพูดด้วย”

“หนังเรื่องนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีจริงๆ มันเป็นเรื่องสนุกสนานสุดเหวี่ยงและทุกวินาทีเพลิดเพลินจริงๆ ส่วนหนึ่งของความมหัศจรรย์ของริดลีย์ก็คือ ท้ายที่สุดแล้ว เขาต้องการให้ผู้ชมสนุกเพลิดเพลิน ไปกับมัน ด้วยแนวทางการรังสรรค์งานศิลปะทั้งหมดของเขา”

สำหรับแฟชั่นใน House of Gucci ต่างจากภาพยนตร์ร่วมสมัยหรือใกล้เคียงหลายเรื่อง เนื่องจากมันเป็นส่วนประกอบสำคัญใน เรื่องราวและความเป็นจริงของภาพยนตร์เรื่องนี้

แจนตี้ เยตส์ ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย เป็นสมาชิกที่ได้รับการนับถือในบรรดาทีมงานสร้างของ ริดลีย์ สก็อตต์ มาช้านาน

“แจนตี้เป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง และเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมากที่ได้ร่วมงานด้วย” เลดี้ กาก้า ยืนยัน “เครื่องแต่งกายช่วยให้ฉันเข้าถึง ตัวละครตัวนี้จริงๆ เราใช้แฟชั่นในรูปแบบต่างๆ มากมายจนมันแทบจะกลายเป็นเหมือนผิวของฉัน แต่ก็เหมือนกับวิกและการแต่งหน้า เครื่องแต่งกายจะต้องรองรับตัวละครอยู่เสมอ มันสง่างามมาก และเหมาะสมอย่างยิ่ง”

ด้านเยตส์มีแต่คำชมเชยให้กับความสัมพันธ์ในการทำงานกับ เลดี้ กาก้า เธออธิบายว่านักแสดงหลายคนเข้ามาเพื่อลองชุด แล้วก็จากไป แต่ เลดี้ กาก้า ผู้ซึ่งอดทนต่อการทดลองชุดต่างๆ เป็นเวลาหกสิบชั่วโมง ยังคงอยู่ต่อเพื่อช่วยจัดหาเครื่องประดับสำหรับแต่ละชุด

ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ กระเป๋าถือ รองเท้า นอกจากนี้ เธอยังนำเอาของจากคลังส่วนตัวของเธอมาใช้และจัดหาชุดที่เหมาะสมสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย

House of Gucci เข้าฉายให้ชม 20 มกราคม ในโรงภาพยนตร์

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6831272
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6831272