‘ยุ้ย’นางเอกเจ้าบทบาท 21ปีไม่เคยหยุดพัฒนาฝีมือ


ให้คะแนน


แชร์

‘ยุ้ย’นางเอกเจ้าบทบาท21ปีไม่เคยหยุดพัฒนาฝีมือ – มาร่วมงานกับช่อง 8 ครั้งแรก นางเอกสาวเจ้าน้ำตา ‘ยุ้ย’ จีรนันท์ มะโนแจ่ม ก็ได้ท้าฝีมือกับบทบาทใหม่ในละคร “ร่านดอกงิ้ว” กับตัวละคร ‘สร้อยสน’

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

โดยวันนี้นางเอกสาวมากฝีมือได้มาพูดคุยถึงบทบาทและการทำงานในสังคมใหม่ รวมถึงอัพเดตชีวิตคู่กับสามี ‘ธันน์ ธนากร’

คาแร็กเตอร์ที่ได้รับในละคร ร่านดอกงิ้ว?

ยุ้ย – “รับบท นาว เด็กสาวใสซื่อบริสุทธิ์ จริงจัง และไว้ใจในความรักมาก จนวันหนึ่งถูกความรักและถูกผู้ชายที่ตัวเองรักมากที่สุดที่ยอมพลีกายให้ ทำร้ายถึงขั้นทำให้พ่อต้องมาตาย เสียทุกอย่างเหมือนแทบจะเสียชีวิตของตัวเองด้วยซ้ำ ทำให้ชีวิตของเด็กผู้หญิงใสซื่อกลายเป็นผู้หญิงที่มีแต่ความแค้น แข็งกร้าว พร้อมกับเปลี่ยนชื่อมาเป็น สร้อยสน แล้วก็ดำเนินชีวิตอยู่ด้วยความแค้นนับจากนั้น”

ความท้าทาย?

ยุ้ย – “ตัวบทมีอะไรให้เล่นเยอะมาก ตั้งแต่เล่นเป็นเด็กใสๆ แล้วก็ดราม่าหนักมาก ต่อให้คนจะมองว่าเป็นเรื่องร่าน แซ่บแน่เลย ไม่แบบนั้นเลย ต่อให้เราร่าน บางทีฉากเลิฟซีนมาพร้อมกับน้ำตาหยด แหมะๆ ยังคงความดราม่าอยู่ เพราะฉะนั้นมันมีความท้าทายในตัวสร้อยสนที่ยุ้ยอยากเล่น มันได้แสดงศักยภาพ แสดงฝีมือ เรียกว่าอะไรที่หลายคนไม่เคยได้เห็นก็จะได้เห็นยุ้ยแบบจัดเต็มเลยเรื่องนี้”

“ความเร่าร้อนจะมีทั้งเร่าร้อนแบบตั้งใจและเร่าร้อนแบบเก็บกด ตั้งแต่อ่านบทแล้วก็คิดว่าไม่เล่นไม่ได้ พอได้มาเล่นยอมรับเลยว่าเหนื่อยจริงๆ ยิ่งช่วงที่เป็นเด็กสาวร้องไห้หนักมากทุกซีน บางวันร้องจนหน้าบวมตาบวมกลับไปเป็นไข้ก็มี พอเริ่มโตจะเป็นอีกฟีลหนึ่ง แก้แค้น โกรธแค้น บทเข้มข้นมาก”

ร่วมงานกับนักแสดงในเรื่องเป็นยังไงบ้าง?

ยุ้ย – “อย่างพี่ออย (ธนา) คุ้นเคย เพราะเคยร่วมงานกัน ยังน่ารักและเก่งเหมือนเดิม เบนซ์ (ปุณยาพร) เป็นน้องที่สนิทกันอยู่แล้ว แต่จากที่เคยอยู่ช่องเดียวกันไม่เคยร่วมงานกันมาก่อน เรื่องนี้ก็ได้มาปะทะฝีมือและคารมกันเต็มๆ น้องทอย (ปฐมพงศ์) กับน้องนนนี่ (ณัฐชา) เป็นเรื่องแรกที่ได้เจอและร่วมงาน รวมถึงพี่แมทธิว (ดีน) ด้วย ก็ตื่นเต้นที่ได้มาเจอ แล้วมีพี่บีม (กวี) ที่เมื่อก่อนเราเป็นแฟนเพลงเขา เรื่องนี้ได้มาเจอกันได้เข้าฉากด้วยกันตลอด ธันน์เองก็ได้มาเล่น ด้วยกัน เชื่อว่าคนดูน่าจะคุ้มค่าค่ะ”

เลิฟซีนเยอะแค่ไหน?

ยุ้ย – “เยอะ อย่างกับพี่ออยจะขำๆ เพราะสนิทกัน แต่ความตื่นเต้นยังมีอยู่ แล้วก็แอบเกรงใจสามีนิดหนึ่ง อย่างบางฉากที่กำลังจูบกับพี่ออย อยู่ สามีต้องยืนแอบดูอยู่ในฉากยุ้ยก็แบบว่าแล้วฉันจะเล่นยังไงเนี่ย (หัวเราะ) คนเขียนบททำไมแกงกันอย่างนี้ ยอมรับว่าอายเขินและเกรงใจเขา เพราะในฉากยุ้ยต้องเป็นฝ่ายรุก เข้าไปจูบพี่ออยแบบดูดดื่ม โดยมีธันน์ที่รับบทปัทม์แอบมองอยู่ แล้วจะไม่ให้เกร็งได้ยังไงล่ะ”

ได้ผู้ชายในเรื่องหมดทุกคนไหม?

ยุ้ย – “ไม่ๆ แค่ 4 คนเอง (หัวเราะ) มีพี่ออย พี่แมทธิว พี่บีม และธันน์ เลิฟซีนกับแต่ละคนอารมณ์เร่าร้อนแตกต่างกัน อย่างพี่ออยตอนแรกจะแนวใสๆ เราเป็นฝ่ายถูกกระทำ ตอนหลังๆ กลายเป็นเราเข้าไปยั่ว อ่อยทุกอย่าง อดใจไม่ไหวถึงขั้นในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้างก็มี พี่แมทธิวจะเป็นแนวเอาตัวเข้าแลกเพื่อให้ตัวเองได้แก้แค้น มีเซ็กซ์ ไปร้องไห้ไป ธันน์ก็แนวเอาตัวเข้าแลกเหมือนกันเพื่อใช้เขาเป็น เครื่องมือ ส่วนพี่บีมมีด้วยเพราะใจรักแล้ว”

ต้องมาเลิฟซีนกับสามีฟีลมันยังไง?

ยุ้ย – “ตอนแรกที่รู้คือขำและอายมาก ฉากแรกที่เข้าฉากด้วยกัน ถึงขั้นนักแสดงร่วมฉากทนดูไม่ได้ (หัวเราะ) คนเล่นก็เขินคนดูก็เขิน ตลกและแปลกๆ ดี ธันน์เองก็ตื่นเต้นนะคะ ปกติเราเล่นด้วยกันจะเป็นแนวพี่ชายเป็นเพื่อน แต่เรื่องนี้ต้องมาตบกันจิกหัวกันแล้วก็มาเลิฟซีนต่อ ก็สนุกไปอีกแบบ แต่มันก็เขิน ยุ้ยอายตั้งแต่อ่านบทแล้ว ธันน์ต้องอุ้มยุ้ยขึ้นไปนั่งบนโต๊ะแล้วต้องถอดเสื้อต้องอะไร เชื่อว่าคนดูคงเขินและขำๆ ไปกับเราสองคน อย่างคอมเมนต์ก็เริ่มมีเข้ามาว่าผัวเมียเล่นด้วยกันตบตีกันด้วยเลิฟซีนกันด้วยน่าดู คือมันก็จะเป็นจุดขายอีก แบบหนึ่ง แต่ชีวิตจริงไม่ใช่แบบในละครนะคะ ชีวิตจริงต้องละมุนโรแมนติกนิดหนึ่ง จะจิกหัวมาตบแล้วมาจูบไม่เอานะเบาได้เบานะ (หัวเราะ)”

ช่วงหลังดูรับบทแรงๆ เยอะ?

ยุ้ย – “ยุ้ยโตแล้วอ่ะ คงไม่สามารถไปรับบทแบ๊วๆ ลูกสาวกำนันแก่นแก้วแบบนั้นได้อีกแล้ว เพราะฉะนั้นบทบาทที่ยุ้ยได้รับก็ต้องโตขึ้น มีมิติ มีสีสัน มีอะไรให้ได้เล่นได้ทำมากขึ้น บทที่เข้ามาก็ต้องเปลี่ยนไปตามช่วงวัยของเรา เอาจริงๆ ตอนนี้หลายคนลืมภาพสาวหวานเจ้าน้ำตาน่าสงสารไปแล้วแหละ (หัวเราะ) คือมัน 20 ปีแล้วเนอะ แต่เดี๋ยวหลังจากเรื่องนี้ยุ้ยจะกลับไปเจ้าน้ำตาอีก สลับๆ กันไป ยุ้ยเลยไม่อยากให้คนติดภาพว่าเป็นนางเอกเจ้าน้ำตา อยากให้มองว่ายุ้ยเป็นนักแสดง เจ้าบทบาทมากกว่า พอยุ้ยมาเล่นร้ายคนก็อินกับตัวร้าย พอยุ้ยไปร้องไห้คนก็อินก็สงสารอีก ยุ้ยชอบแบบนี้มากกว่า”

หลายคนมองว่าผ่านบทพีกๆ มาแล้วทั้งนั้น ยังมีบทอะไรที่ท้าทายได้อีกไหม?

ยุ้ย – “จริงอยู่ที่ยุ้ยผ่านบทมาเยอะมาก พอมาเรื่องร่านดอกงิ้วเหมือนเราได้มาเป็นนักแสดงใหม่ เพราะยุ้ยได้เปลี่ยนทีมงาน เปลี่ยนนักแสดง อะไรที่ไม่เคยเจอก็ได้เจอ เหมือนเปลี่ยนประสบการณ์ใหม่ๆ มากขึ้น เลยเหมือนเรากลับมาเป็นเด็กใหม่อีกครั้ง มีความตื่นเต้น ได้เจอครอบครัวและสังคมใหม่ๆ อะไรเหล่านี้ก็ทำให้ชีวิตเรามีสีสันมากขึ้น ต่อให้บทบาทอาจจะไม่ได้แตกต่างกันมาก แต่มันก็มีอะไรให้เราทำมากขึ้น”

ผลงานอื่นๆ?

ยุ้ย – “ตอนนี้จะมีละครเรื่อง เล่ห์ลุนตยา ทางช่อง 8 น่าจะได้ชมกันช่วงกลางปี เรื่องนี้บทบาทจะแตกต่าง เล่นเป็นเจ้านางสวยๆ เรียบร้อยเจ้าน้ำตา แต่ก็จะพลิกผันเหมือนกัน จากเจ้านางผู้เลอโฉมสุภาพอ่อนโยนจะกลายเป็นเจ้านางที่โกรธแค้นดุดัน เรื่องนี้จะหนักคนละแบบกับร่านดอกงิ้วค่ะ บทยุ้ยจะหนักขึ้นทุกวัน แต่ยุ้ยชอบนะเพราะถ้ามาจ้างให้ไปเดินผ่านกล้องไปมายุ้ยไม่เอา ชอบอะไรหนักๆ ให้มีอะไรทำ เล่นแล้วต้องขุดพลัง”

21 ปีในวงการที่ยังคงพัฒนาตัวเองไม่หยุด?

ยุ้ย – “ใช่ค่ะ มองตัวเองจากวันแรกจนถึงวันนี้คือพัฒนาตัวเองมากขึ้น แต่ถามว่าหยุดไหม ก็ไม่นะคะ ยุ้ยยังคงต้องพัฒนาและจะไม่ปล่อยผ่าน เราเองต้องเรียนรู้ไปเรื่อยๆ”

ตอนนี้งานเบื้องหลังยังทำอยู่ไหม?

ยุ้ย – “ยังคิดอยู่ว่าจะทำละคร แต่ก็ยุ่งมากถึงขั้นเวลานอนยังไม่มีเลย ตอนนี้ละครเหลือเรื่องเดียวก็เริ่มพอมีเวลามากขึ้น แต่ด้วยตัวเองทำอะไรหลายอย่าง แล้วแพลนที่อยากจะมีน้องก็อยากมีด้วย เลยอาจจะต้องมีการวางแผนชีวิตนิดหนึ่งค่ะ”

ก่อนหน้านี้เหมือนเริ่มต้นงานเบื้องหลังไปแล้ว ทำไมถึงพักไป?

ยุ้ย – “หลังจากที่ยุ้ยออกมาจากช่องเดิมเลยกลายเป็นว่ายุ้ยรับละครทีเดียว 3 เรื่อง ซึ่งมันหนักมาก แล้วเป็น 3 เรื่องที่บทหนักมาก ทั้ง ตะวันตกดิน ร่านดอกงิ้ว และเล่ห์ ลุนตยา เลยกลายเป็นบทที่จะเสนอทำละครยุ้ยเลยเบรกไว้แป๊บหนึ่ง รอให้ยุ้ยเคลียร์ตัวเองกับสถานะของการเป็น นักแสดงแป๊บหนึ่งก่อน แล้วเดี๋ยวงานเบื้องหลังที่ได้คุยกับผู้ใหญ่ไว้เขาก็ไม่อยากให้ทิ้ง เลยขอวางแผนชีวิต นิดหนึ่งก่อน”

เส้นทางในวงการบันเทิงยังอีกยาวไกลใช่ไหม?

ยุ้ย – “วงการบันเทิงเป็นงานที่ยุ้ยรักที่สุดในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเบื้องหน้าหรือเบื้องหลัง ยุ้ยไม่มีวันทิ้งแน่นอน ต่อให้วันหนึ่งยุ้ยจะมีลูกจะมีครอบครัวก็ตาม”

แพลนมีลูกถึงไหนแล้ว?

ยุ้ย – “ปิดเรื่อง เล่ห์ลุนตยา ก็จะขอเวลาปั๊มลูกจริงจัง ถ้าไม่ท้องจริงๆ จะฝากไข่ ตั้งใจจะฝากไข่ไว้ก่อน แต่ถ้ามี ยุ้ยจะมีเลย รีบมีก่อนที่ยุ้ยจะอายุมากไปกว่านี้ ลูกคืออยากมีมากๆ แต่ด้วยที่ปรึกษาคุณหมอเรายังคงต้องร้องไห้ทุกวัน ต้องทำงานหนัก ยังมีไม่ได้ เพราะเดี๋ยวจะมีผลต่อเด็ก เลยรอให้ปิดกล้องก่อน”

ยังไม่ถอดใจ?

ยุ้ย – “ยุ้ยคุยกับธันน์แล้วว่าเราจะตั้งหลัก 1 ปี ถ้าไม่มีก็คือถอดใจเหมือนกัน แต่ตอนนี้ตั้งใจแล้วว่าจะเอาให้ได้ ไม่ได้ก็ไม่เสียใจ แต่จะตั้งใจก่อน เดี๋ยวช่วงมี.ค.-เม.ย. ต้องเริ่มบำรุงแล้ว ที่คิดไว้คือปิดกล้องปุ๊บขอเที่ยวก่อนพักผ่อน 1 เดือนที่แบบตื่นขึ้นมากินบำรุงฉีดไข่ทำทุกอย่าง หลังจากนั้นถ้าไข่สมบูรณ์ก็ไปฝาก แต่กำลังคิดอยู่ว่าจะปล่อยเลย ถ้ามีบุญจริงๆ ก็ติดเลยค่ะ เพราะตอนนี้เราพร้อมหมดทุกอย่างแล้ว รอน้องมาอย่างเดียว”

มองว่าถ้ามีลูกจะเติมเต็มคำว่าครอบครัวได้มากขึ้นไหม?

ยุ้ย – “จริงๆ ทุกวันนี้มีความสุขมากแล้ว แต่ก็อยากมีลูกกันทั้งคู่ เพราะเรามีทุกอย่างพร้อม มีบ้าน มีครอบครัวที่อบอุ่น มีคนช่วยเลี้ยง เลยกลายเป็นว่าเราก็อยากมีลูกที่น่ารักสักคนหนึ่ง สมบัติเราก็เยอะแยะ เคยแบบนั่งคุยกับธันน์ว่าแล้วใครจะมารับสมบัติจากเราต่อถ้าเราไม่อยู่ เลยอยากมีลูกเป็นของตัวเองค่ะ”

อยากได้ผู้หญิงหรือผู้ชาย?

ยุ้ย – “ยุ้ยอยากได้ผู้หญิง ธันน์อยากได้ผู้ชาย แต่ตอนนี้ธันน์อยากได้ผู้หญิงแล้ว แต่อะไรก็ได้ขอให้มาก่อนค่ะ”

ชีวิตคู่สามีภรรยาเป็นยังไงบ้าง?

ยุ้ย – “เราคบกันมา 10 กว่าปี ถ้าแต่งงานปีนี้เป็นปีที่ 3 ถามว่าความสวีตลดน้อยลงบ้างไหม ไม่เลยค่ะ ยุ้ยว่าเรารักกันมากกว่าเดิม ตอนนี้เหมือนติดกันมาก พอแต่งงานรักกันมากขึ้น ยังบอกคิดถึง ยังกอด ยังหอม ขับรถยังจับมือ ยังแสดงความรักที่ดีงามต่อกันเหมือนเดิม บางอารมณ์เหมือนเพิ่งเริ่มจีบกันใหม่ด้วยซ้ำ คู่เราจะหมั่นเติมความหวานให้กัน มีความเป็นห่วงกันมากขึ้น”

ทุกวันนี้คือลงตัวแล้ว?

ยุ้ย – “โอเคมากๆ ค่ะ ทุกวันนี้มีความสุขมากถึงอยากมีลูกไง อยากมีลูกมาเติมเต็ม ไม่รู้หรอกว่าดีกว่าหรือไม่ดีกว่า แต่ก็อยากมีค่ะ”

จิรณัฏฐ์ จงประสพมงคล

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6835360
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6835360