“ไทยรัฐทีวี” ขึ้นอันดับ 4 เดินหน้าปี 65 เพิ่มข่าวตอกย้ำเป็นผู้นำ


ให้คะแนน


แชร์

ในปี 2564 ไทยรัฐทีวีปิดท้ายปีเรตติ้งเดือนธันวาคมเติบโตขึ้น 14% จากเดือนธันวาคม 2563 และเป็นสถานีอันดับที่ 4 ครองใจคนกรุงเทพฯด้วยเรตติ้งกลุ่มคนดู BKK ที่อายุ 15 ปีขึ้นไป เฉลี่ย 1.179 เติบโตขึ้นจากปี 2563 ถึง 16% นับว่าเป็นไปตามกลยุทธ์ของสถานีที่ต้องการรักษาฐานคนดูกรุงเทพฯ แม้ในปี 2564 จะมีวิกฤติโควิด-19 หลายระลอก รวมถึงการเมืองที่ร้อนแรงและผลจากพิษเศรษฐกิจตกต่ำที่ส่งผลให้เรตติ้งของทีวีแต่ละสถานีส่วนใหญ่ลดลง แต่สำหรับเรตติ้งโดยรวมของช่องไทยรัฐทีวีสามารถรักษาระดับไว้ได้ แม้ว่าในแต่ละเดือนจะมีการขยับขึ้นลงบ้าง แต่ไม่ได้รับผลกระทบในทางลบมากนัก เนื่องจากคนดูส่วนใหญ่ยังคงต้องติดตามข่าวสารกันอย่างต่อเนื่อง

โดยเรตติ้งในช่วงวันธรรมดาเติบโตเพิ่มขึ้น 6% จากปี 2563 อยู่ในอันดับที่ 5 โดยเฉพาะเรตติ้งช่วงเวลากลางวัน (05.30-18.00 น.) อยู่ในอันดับที่ 5 เรตติ้งเฉลี่ยเติบโตขึ้นถึง 17% โดยเติบโตสูงสุดจากกลุ่มคนดูกรุงเทพฯถึง 39% ทำให้ไทยรัฐทีวีอยู่ในอันดับที่ 4 ของคนดูกลุ่มนี้ ซึ่งคาดว่าจะเป็นผลจากการ WFH (Work From Home) รายการข่าวเช้าหัวเขียว เรตติ้งเติบโต 20% โดยเฉพาะกลุ่มคนดูกรุงเทพฯที่เติบโตเพิ่มขึ้น 29% จากการปรับทัพผู้ประกาศใหม่ ในด้านของ รายการข่าวเย็นไทยรัฐ ที่มีการปรับโฉมใหม่เมื่อปี 2564 ผู้ประกาศข่าวอย่าง กระเต็น-วราภรณ์ สมพงษ์ และ เบิร์ด-ณัชฐพงศ์ มูฮำหมัด สามารถสร้างการเติบโตของเรตติ้งได้เพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 79% ข่าวใส่ไข่ สด ใหม่ ให้เยอะ เพิ่มผู้ประกาศลูกหม้อของไทยรัฐทีวี มิ้นท์-อรชพร ชลาดล ร่วมโต๊ะกับพิธีกรอย่าง มดดำ-คชาภา, หนุ่ม-กรรชัย และ รถเมล์-คะนึงนิจ ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากแฟนๆ เม้าท์ข่าวกันลงตัว ส่งผลให้เรตติ้งเพิ่มขึ้น 30% ในปี 2564 จนมีการเพิ่มเวลารายการให้มาเร็วขึ้นตั้งแต่ 17.45 น. ตั้งแต่เมื่อปลายปี

ไทยรัฐนิวส์โชว์ คนข่าวตัวจริง เล่าข่าวถึงใจ นับเป็นรายการข่าวไฮไลต์ของไทยรัฐที่อยู่ในช่วงไพรม์ไทม์ 19.00 น. ซึ่งทำเรตติ้งเฉลี่ยในปีที่ผ่านมาได้ 2.754 สำหรับกลุ่มผู้ชมกรุงเทพฯ อายุ 15 ปีขึ้นไป เติบโตขึ้น 4.5% ส่งผลให้ภาพรวมเรตติ้งรายการนี้เฉลี่ยทั้งปี 2.432 นอกจากผู้ประกาศหลัก อุ๋ย-ภาคภูมิ พันธุ์สถิตย์ และ มิลค์-เขมสรณ์ หนูขาว แล้วยังได้เพิ่มผู้ประกาศคู่เด็ดอย่าง เบิร์ด-ณัชฐพงศ์ มูฮำหมัด และ มิ้นท์-อรชพร ชลาดล มาเล่าข่าวให้ถึงใจยิ่งขึ้นตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา

จิตสุภา วัชรพล เจ้าหน้าที่บริหารสายงานคอนเทนต์ไทยรัฐทีวี บริษัท ทริปเปิลวี บรอดคาสท์ จำกัด กล่าวว่า “ในปี 2565 วงการทีวีดิจิทัลจะดุเดือดกว่าปีที่ผ่านๆมา ทุกๆช่องน่าจะใส่ของกันอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะรายการประเภทข่าวที่หลายช่องเริ่มให้ความสำคัญมากขึ้น สำหรับไทยรัฐทีวีในฐานะสถานีข่าวของคนไทยจึงได้ปรับเพิ่มเวลารายการข่าวให้มากขึ้นในวันเสาร์-อาทิตย์ จาก 8 ชั่วโมง เป็น 11 ชั่วโมง เพื่อตอบรับกับความต้องการของกลุ่มคนดูให้มากขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่รายการข่าวเช้าที่ปรับเวลาให้เร็วขึ้น 07.00-09.00 น. ต่อด้วยตะลอนข่าวสุดสัปดาห์เริ่ม 09.00-11.00 น. และเพิ่มรายการข่าวเที่ยงไทยรัฐ 11.00-12.00 น. ปรับและขยายเวลาบันเทิงไทยรัฐให้มากขึ้นในเวลา 12.00-13.00 น. และยังเพิ่มรายการคู่กัดสะบัดข่าวในวันเสาร์-อาทิตย์ 16.00-17.00 น.

อีกเรื่องที่ไทยรัฐทีวีต้องพูดถึงและเกาะติดสถานการณ์ คือ การเลือกตั้ง ทั้งการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขตหลักสี่ และศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร ทีมงานที่เจนสนามการเมืองทั้งจากไทยรัฐทีวีและไทยรัฐออนไลน์ผนึกกำลังกันนำเสนอข่าวเนื้อหาและรายการเลือกตั้งที่จะมาในรูปแบบใหม่ ที่จะพลิกโฉมรายการเกาะติดเลือกตั้งแบบเดิมๆไปเลย ในขณะเดียวกันสิ่งที่ขาดไม่ได้ คือผู้ประกาศข่าวที่ยังคงยกทัพคนคุณภาพนำทีมโดย อุ๋ย-ภาคภูมิ, มิลค์-เขมสรณ์, เบิร์ด-ณัชฐพงศ์ และ กระเต็น-วราภรณ์ นอกจากนั้นแล้วเรายังเสริมด้วยผู้ประกาศหน้าใหม่อีก 2 คน จากโครงการ “ไทยรัฐตามล่าหาคอเล่า” ที่จะมาเล่าข่าวให้ผู้ชมได้ติดตามกันเร็วๆนี้

ทั้งนี้ การปรับผังรายการที่เน้นความหลากหลายเข้มข้นของข่าวในวันเสาร์-อาทิตย์ให้เพิ่มมากขึ้น รวมถึงกองทัพผู้ประกาศคุณภาพนั้น ถือเป็นการตอกย้ำ Positioning ของการเป็นที่หนึ่งของสถานีข่าว “ข่าวครบรส สดทั้งวัน” และจะเป็น 2 ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ได้รับผลตอบรับที่ดี ตรงใจแฟนข่าว และแข่งขันในสมรภูมิทีวีดิจิทัลที่ดุเดือดในปีนี้ได้อย่างแน่นอน”

นอกจากรายการข่าวหลากหลายจัดเต็มแบบครบรสแล้ว ไทยรัฐทีวียังปรับเพิ่มความสนุกของรายการวาไรตี้สไตล์ไทยรัฐอีกด้วย อย่างรายการ เศรษฐีป้ายแดง ที่ในปีที่แล้วขยับเวลาจากวันธรรมดามาอยู่ในวันอาทิตย์ ส่งผลให้เรตติ้งเติบโตขึ้น 59% โดยในกลุ่มกรุงเทพฯ ได้เรตติ้งเฉลี่ยถึง 0.908 เติบโตถึง 60% ในขณะที่กลุ่มหัวเมืองใหญ่เติบโต 37%

โดย จิตสุภา กล่าวว่า “ในปีนี้ รายการ “เศรษฐีป้ายแดง” ได้เพิ่มความสนุกแบบฉุดไม่อยู่ด้วย จ๊ะ นงผณี ร่วมเป็นพิธีกรคู่กับ ป้อง ณวัฒน์ ซึ่งเริ่มออนแอร์ไปแล้วเทปแรกเมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา ทั้งสองคนเคมีเข้ากัน ต่อมุกกันไม่หยุด รับรองว่าดูแล้วได้ทั้งเรื่องสาระปากท้องปนกับความสนุกความฮา ทุกวันอาทิตย์ 17.00 น. ส่วนวันเสาร์เวลาเดียวกัน ติดตามความมูไปกับ มดดำ คชาภา เบอร์หนึ่งสายมูในรายการ “คชาภาพาไปมู” จากนั้นก็ไปต่อกันกับ เอ-ไชยา มิตรชัย ในรายการ “เกมต่อชีวิต” เวลา 18.00 น. ก่อนที่จะเข้าสู่ “ไทยรัฐนิวส์โชว์” เวลา 19.00 น. แล้วเปิดทีวีต่อเนื่องดูละครคุณภาพที่มีหลากหลายรสชาติ ในเวลา 21.30 น. ซึ่งปีนี้ไลน์อัปมาแล้ว 4 เรื่อง คือ บ้านโชคดี เดอะซีรีส์ ยมยามวิกาล ก่อนพู่กันจะบาน และ อัด-ชะ-ลิ-ยะ ซึ่งในปีนี้ไทยรัฐทีวีจะมีรายการวาไรตี้ใหม่ๆอะไรมาเสิร์ฟให้กับคนดูอีกต้องติดตามชมความเคลื่อนไหวตลอดทั้งปีกันให้ดีค่ะ”

ตบท้ายที่ขาดไม่ได้ด้วยโปรแกรมรายการกีฬาที่ยกขบวนต่อคิวกันมา เริ่มด้วยฟุตบอลทีมชาติไทยที่กลับมาเตะได้แล้ว ให้ติดตามการถ่ายทอดสดกีฬาจากไทยรัฐทีวีตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็น แมตช์อุ่นเครื่อง FIFA DAY และ AFC Asian Cup ถ้วยสำคัญสู่การก้าวเป็น No.1 ของเอเชีย หรือจะเป็นกีฬา มวยชิงแชมป์โลก WBC ของ แหลม ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น และรายการ One Championship ที่ขุนศึกนักสู้ชาวไทยยกทัพขึ้นสังเวียนเพียบ นอกจากนี้ยังมีการแข่งขันกีฬาระดับภูมิภาคอย่างซีเกมส์และเอเชียนเกมส์ที่ไทยรัฐทีวีจะติดตามข่าวมาให้ติดตามกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็น #วาระแห่งชาติไทย ที่คนไทยจะร่วมกันส่งแรงใจเชียร์ทัพนักกีฬาตัวแทนคนไทยให้กึกก้องกันอีกครั้ง ในปีนี้ไทยรัฐทีวีการันตีคุณภาพคับช่อง ผู้นำสถานีข่าวที่มาพร้อมความสนุกในปีเสือทองเป็นของขวัญให้ผู้ชมคนดูตลอดทั้งปีกันอย่างแน่นอน.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2292314
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2292314