อี๊ด ซื้อบ้านหลังโตต้องทุบทิ้งหมด เผยเหตุปาฏิหาริย์แม่ ปลื้มลูกมีแววศิลปิน


ให้คะแนน


แชร์

ปลดล็อกปมในใจจุดเปลี่ยนชีวิต! อี๊ด โปงลาง ปลื้มลูกมีแววศิลปิน เล่าที่มาซื้อบ้านหลังโตแล้วทุบทิ้งหมด เผยเหตุปาฏิหาริย์แม่

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

ทำเอาหลายคนตกใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณพ่อคนเก่ง “อี๊ด โปงลางสะออน” หลังได้ซื้อบ้านหลังใหม่เป็นของขวัญให้ลูกชาย แต่พอซื้อบ้านปุ๊บกลับทุบบ้านทิ้งซะอย่างงั้น งานนี้เจ้าตัวได้มาไขข้อข้องใจผ่านรายการคุยแซ่บ Show ทางช่อง วัน 31 ที่มี ซินแสเป็นหนึ่ง และ หนิง ปณิตา ดำเนินรายการ รวมไปถึงเรื่องปาฏิหาริย์สำคัญในชีวิตที่ทำให้ชีวิตเปลี่ยนมาจนถึงทุกวันนี้

สร้างบ้านแล้วทำไมต้อบทุบ เกิดอะไรขึ้น? คือ.. สองปีที่แล้วผมกำลังหาบ้านอีกหลังนึง เพราะเรามีบ้านหลังนึงอยู่แล้ว แต่หลังนั้นอยู่กับน้องสาวและน้องเขย แต่พอจะมีลูกชายก็เลยอยากจะหาบ้านอีกหลังนึงจะได้ให้เขาอยู่มีห้องพิเศษต่างๆ สำหรับเขา พอซื้อปุ๊บผมก็ทุบเลยด้วยความรีบร้อนอยากสร้างใหม่แบบที่เราอยากได้

แล้วทำไมไม่หาซื้อที่ดินเปล่า จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียดายเงิน เพราะบ้านเขาสร้างอยู่แล้ว ไปทุบอีกก็ต้องเสียเงินอีก? เราแค่อยากอยู่ใกล้กับบ้านหลังเดิม มันเป็นหมู่บ้านนึงที่เราซื้อบ้านไว้ก่อน แล้วบ้านหลังนี้ก็ไม่เคยมีใครเข้ามาอยู่เลยเราก็เลยซื้อและสร้างแบบที่เราอยากได้ พอทุบเสร็จเกือบสองปีแล้วก็ยังไม่ได้สร้างเลย เพราะโควิดเข้ามาบ้าง แบบไม่เสร็จบ้างอะไรบ้าง ตอนนี้ก็เลยจะสร้างใหม่อีกรอบหนึ่ง

อ้าว.. แต่มันมีข่าวออกมาในวงในว่าพี่อี๊ดเริ่มประกาศขายที่แล้ว มันสวนทางกันสรุปว่ายังไง? ก็คือคุยกับภรรยาว่าหรือเราจะขายตรงนี้แล้วไปซื้อข้างนอกไปเลย แต่ตอนนี้ยังหาซื้อข้างนอกยังไม่ได้ ตอนนี้เลยอยู่ในระหว่างของการทำแบบใหม่ คือพื้นที่มันเกือบ 100 ตารางวาเราก็เลยลุยกันต่อเลยดีกว่า แต่ถ้ามีคนติดต่อมาแล้วได้ราคาก็ขายได้ครับ

แล้วทำไมถึงมีความเปลี่ยนใจอยากจะทุบแล้วสร้าง หรืออยากจะไปซื้อใหม่เพราะอะไร? ก็..ที่อยากจะทุบแล้วสร้างก็เพราะอยากจะสร้างในแบบที่เราอยากได้

แล้วทำไมถึงอยู่ดีๆ ถึงเกิดเปลี่ยนความคิดว่าเราต้องไปหาใหม่ เพราะฮวงจุ้ยรึเปล่า? ไม่ๆ ผมไม่ได้นับถือเรื่องฮวงจุ้ย แต่มันนานแล้วไม่ได้สร้างสักที เลยรู้สึกว่าหรือเราจะไปหาที่ใหม่ 6 ไร่ 8 ไร่ แล้วก็สร้างเป็นอาณาจักรของเราด้วยทำงานด้วยต่างๆ นานา

เจอหรือยัง? ยังครับอาจารย์ (เดี๋ยวก็เจอแล้ว)

ลูกชายได้เลือดพ่อมาเต็มๆ 2 ขวบแล้วร้องหมอลำได้แล้วจริงหรอ? 1 ขวบ 8 เดือนครับ น้องนาวาคือเขาจะเป็นคนที่เสียงหมอลำขึ้น หรือเสียงดนตรีขึ้น ถ้าเขาร้องไห้งอแงอยู่เขาก็จะหยุดร้องไห้แล้วลุกขึ้นมาเต้นมาฟ้อนกับพ่อเลย ผมก็สงสัยอยู่ว่าน้องนาวาเขาจำมาจากที่ไหน เพราะผมก็ไม่เคยทำให้เขาได้เห็น หรืออาจจะเป็นตอนที่แม่เขาท้องแล้วผมไปเล่นคอนเสิร์ตแม่เขาก็ตามไปดูแบบนี้รึเปล่า ก็ถือว่าเป็นคนรักเสียงพิณเสียงแคน

พัฒนาการเกือบ 2 ขวบ ทำให้พ่อปวดหัวขนาดไหน? ผมไม่รู้ว่าพัฒนาการเด็กวัยนี้มันควรเป็นยังไง แต่เขาจะรู้จักว่ากินแล้วต้องเอาไปทิ้งถังขยะนะ แล้วก็สามารถพูดคำสั้นๆ ได้ แล้วที่สำคัญกดเปียโนเล่น 2-3 โน้ตได้ ก็ถือว่าเขาชอบเล่นดนตรีอีสาน

ความซนระดับไหน? ไม่ซนครับ ตอนนี้อยู่ในวัยงอแง หรือวัยทองของเด็ก เกือบสองขวบเขาจะมีความเอาแต่ใจ อยากได้อะไรเขาก็จะเริ่มร้องไห้ และงอแง

มีวิธีจัดการยังไงเวลาเขาเริ่มงอแง? ก็เปิดเพลงแบบนี้เลยครับ เสียงดนตรีขึ้นเขาก็จะหยุดแล้ว เพลงที่เขาชอบก็จะเป็น เบบี้ชาร์ค , BTS หรือ พิณหมอลำมาก็จะลุกขึ้นเลย

ตั้งแต่มีครอบครัว แต่งงานมีลูกก็เหมือนทุกอย่างจะลงตัวแล้ว แต่ก่อนหน้านี้เหมือนมีจุดเปลี่ยนชีวิตครั้งสำคัญเกือบทำให้ชีวิตไม่รอดมันคืออะไร? น่าจะประมาน 7 ปีที่แล้วตอนนั้นทำธุรกิจข้าวแต๋นใหม่ๆ ตอนนั้นวงแยกใหม่ๆ ก็ได้มีโอกาสไปเจอคุณแม่ท่านหนึ่ง คุณแม่ท่านนี้ก็แนะนำให้ผมไปโบสถ์ ตอนนั้นก็ยังเข้าใจว่าเข้าโบสถ์ก็คือเข้าวัด แต่พอไปถึงไม่ใช่โบสถ์วัดแต่เป็นโบสถ์คริสเตียน

เป็นคริสตจักรพันธสัญญา ตอนนั้นเดินเข้าไปกับภรรยาในคริสตจักรก็เจอพี่ๆ น้องๆในชุมชนก็นมัสการอยู่ แต่พอเรานั่งนมัสการ ฟังเทศน์ของอาจารย์เจอคนในชุมชน มีคำๆ หนึ่งที่อาจเชิญผมออกไปข้างหน้าแล้วพูดว่า ‘วันนี้ลูกเป็นคนใหม่ วันนี้ก็คือวันนี้ เมื่อวานก็คือเมื่อวาน พรุ่งนี้ก็คืออนาตต’ เพราะก่อนหน้านี้ผมจะรู้สึกว่ามีความคิดที่เคยไปทำอะไรผิดพลาดมาตอนเด็ก นานแล้ววนเวียนในตัวเอง เก็บมาฝัน มีอะไรมาวนเวียนทำให้เราไม่ได้ไปไหนสักที กลายเป็นว่าเก็บมาฝันมาคิดตลอด พอมาเจอวันนั้นทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนหลุดจากกำแพงนั้นออกมา หลังจากนั้นผมกับภรรยาก็มาโบสถ์กันบ่อยๆ กลายเป็นว่าชีวิตเรียบง่ายมากขึ้น เหมือนหลุดออกจากความเชื่อ

เหมือนเป็นการปลดล็อกปมในใจ? ใช้คำว่าอย่างงั้นก็ได้ เราเคยทำอะไรมาหลายอย่างมันวนในใจเรามาตลอด สิ่งไหนที่ทำให้เราเบาลงก็ทำตามมาตลอด

ตอนนี้ก็หันไปนับถือคริสเตียน? เป็นคริสเตียนมา 7 ปีแล้วครับ เปลี่ยนจากศาสนาพุทธไปเป็นคริสเตียน

พอปลดล็อกสิ่งเหล่านี้ไปชีวิตพี่กับชีวิตภรรยาเป็นยังไงบ้าง? คือมันทำให้ชีวิตผมกับชีวิตภรรยาง่ายมากขึ้น พิธีรีตองต่างๆ มันลดลงไปเยอะ ทำให้เรารู้สึกเบา เวลาเจอปัญหาเหตุการณ์ที่แก้ไม่ได้ก็จะพึ่งพาพระเจ้า ก็จะอธิษฐาน ก็จะเบาลงเหมือนมีพี่มีเพื่อนมีพ่ออยู่ตลอด เราเหมือนค้นพบความสุข คือง่ายๆ ถ้าเราตายไปก็ไม่มาเวียนว่ายตายเกิดอีกแล้ว เราก็ไปอยู่กับพระเจ้า

อีกหนึ่งปาฏิหาริย์สำคัญในชีวิต คือเรื่องของคุณแม่ป่วย? คือมีเหตุการณ์สำคัญในชีวิตผมอีกครั้งคือ แม่ผมป่วย ท่านอยู่กาฬสินธุ์ วันหนึ่งพ่อโทรมาบอกว่าทำใจดีๆ ไว้นะอี๊ดคุณแม่ไปตรวจที่โรงพยาบาลและผลตรวจเป็นโรคไตระยะสุดท้าย ตอนนั้นรู้สึกช็อกว่าคนเป็นโรคไตระยะสุดท้ายเป็นยังไง ผมก็มานั่งหาๆ ต้องฟอกไตทุกเดือน ก็มาคุยกับน้องสาวว่าจะเอายังไง ก็จะเอาพ่อกับแม่มาอยู่ด้วยกันที่กรุงเทพฯถ้าเราไปอยู่ดูแลท่านที่นู้นงานต่างๆ ก็จะลำบาก คือมันเป็นวิกฤตอีกครั้งนึงเพราะรู้ว่าแม่ตัวเองเป็นแบบนี้เลยพึ่งพาพระเจ้า อธิษฐานกับพระเจ้าขออย่าให้ร้ายแรงไปกว่านี้ ขอให้แม่อยู่กับเราไปนานๆ

และหลังจากวันเกิดก็กลับไปที่บ้านก็คุยกับแม่ว่าอยากให้ไปตรวจอีกสักรอบหนึ่ง ซึ่งหลังจากไปถึงโรงพยาบาลผมกับแฟนและก็แม่ก็อธิษฐานกับพระเจ้าขอให้ทุกอย่างมันดีขึ้น ขอให้คุณแม่ไม่เป็นอะไร หลังจากนั้นก็พาคุณแม่ไปตรวจเลือด ตรวจเสร็จปุ๊บก็มาฟังผล หมอบอกว่าเลือดปกติความดันปกติ ไตก็ปกติ ทำให้ผมกับแม่ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร แต่ความเชื่อก็อธิษฐานกับพระเจ้าถามหมอแล้วหมอก็บอกสุขภาพแม่ก็ปกติ เราเชื่อพระเจ้าอยู่แล้ว ก็ยิ่งๆ เชื่อขึ้นไปอีก มันเป็นความเชื่อของผมที่ได้พึ่งพาพระเจ้า

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6961156
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6961156