ปู แบล็คเฮด ร้องไห้ นุ๊กซี่ คือรักแท้ ออกจาก รพ.ตั้งใจจะแต่งงานแต่ไม่ทัน


ให้คะแนน


แชร์

“ตอนที่ถึงสมอง เขาเองไม่ได้อยากบอกใคร แล้วผมเองก็ไม่ได้บอกนุ๊กทั้งหมดว่ามันไปถึงไหนแล้ว หลังจากที่ผ่าเต้านมแล้ว มันก็เข้าต่อมน้ำเหลือง ก็เลาะต่อมน้ำเหลืองออกข้างหนึ่ง ก็ขึ้นสมองและลงมาปอด มันอยู่ในระยะแพร่กระจายก็ไปทุกที เข้าทางเลือด ต่อมน้ำเหลือง จนมีภาวะลิ่มเลือดในปอด

ตรงที่ปอดน้องเลยหายใจเหนื่อย หายใจใม่ออกและก็หลับ เข้าโรงพยาบาลตั้งที่ 7 มี.ค. เกือบเดือน ภูมิเขาตกมันเกิดภาวะอะไรได้ง่าย ล่าสุดคุณหมอบอกเกิดไวรัสที่ปอด เกิดภาวะแทรกซ้อน มีไวรัสที่ปอด มีฝ้าที่ปอด ต้องให้ยาฆ่าเชื้อ พอให้ยาฆ่าเชื้อก็ต้องชะลอคีโมอีกครั้งไป พอให้คีโมล่าช้ามันก็เลยโตขึ้น พอโตขึ้น จนมีอาการแทรกซ้อน ลิ่มเลือดไปอุดตันจนหายใจไม่ออก

เริ่มต้นตอนแรกผ่าตัดเต้าออก พอเสร็จก็เช็กเจอต่อมน้ำเหลือง และยังเจอเต้านมและปอด ก็ต้องไปคีโมและไปเจอสมองก็ต้องฉายแสง และก็กำลังให้คีโมแบบกิน แต่ยังไม่ได้ให้เพราะต้องรักษาไวรัสที่ปอดที่บอกไป

จริงๆ คุณหมอ 29-30 มี.ค.น่าจะได้กลับบ้าน ถ้าค่าปอดดี ยาคีโมก็ให้กลับมากินเอา แต่พอมันเป็นภาวะเฉียบพลันมาก ตรวจไม่รู้มาก่อนว่ามีภาวะของลิ่มเลือดที่แข็งตัวและไปอุดตัน

คืนนั้นตัวผมต้องออกไปทำงาน พยาบาลโทรมาแจ้งว่านุ๊กไม่ไหวแล้ว เหนื่อยมาก เราก็เลยรีบเข้าไป รอตรวจ RT PCR ก็ไม่ทันได้ตรวจ ก็ตรวจ ATK ฉุกเฉินเพราะเดี๋ยวไม่ทัน รีบขึ้นไปเขาก็ปั๊มหัวใจแล้ว ปั๊มอยู่ 10 ครั้ง จนหมอบอกครั้งสุดท้ายถ้าชีพจรเขาอ่อนลงเรื่อยๆ หยุดเมื่อไหร่หมอก็ต้องปล่อย

เขาเคยพูดว่า ถ้าอยู่ในภาวะนี้ อย่าปล่อยให้เขาอยู่ในภาวะรู้เรื่องแต่ทำอะไรไม่ได้ ให้ถอดท่อและปล่อยเขาไป (เสียงสั่น) ที่ผ่านเขาสู้เยอะ จิตใจดีแข็งแรง ไม่อยากให้ใครเป็นห่วง ทั้งพ่อแม่ผมและพ่อแม่เขา เขาไม่อยากให้ใครต้องห่วง เขาบอกผมว่าอย่าไปบอกนะว่าไปถึงไหน เขากลัวทุกคนเสียใจ แล้วเขาเองก็จะใจเสีย ปกติเขาเป็นคนอย่างงี้อยู่แล้ว คิดถึงแต่คนอื่นก่อน

ที่ผ่านก็อยู่ด้วยกันอย่างสนุกสนาน วันหนึ่งมาอยู่ดูแลกันในจุดที่ต้องไม่บอกว่าเขาเป็นยังไง ต้องไม่บอกว่าเขาแตกต่างจากเมื่อก่อนมั้ย พอเป็นโรคสภาพร่างกายมันเปลี่ยนใจ เพราะเขาเองไม่อยากรู้ว่าตัวเองเป็นยังไง ก็ให้กำลังใจ ตัวบวมเดี๋ยวก็หาย ถ้าไม่มีแรงกินโปรตีนเยอะๆ เดี๋ยวก็มีแรง ทีละสเตปๆ ไป โรคแบบนี้คุณหมอก็บอกว่าปีหนึ่ง แต่เขาก็ไม่ถึงเดือน เขาอยากกลับบ้าน อยากกลับไปหาคนโน้นคนนี้ แม้กระทั่งหมา ดูรูปหมาก็ร้องไห้ (เสียงสั่นจะร้องไห้)

เรื่องแต่งงานคิด (นิ่งกลั้นร้องไห้) แต่ไม่ทัน ผมคิดไว้ว่าแค่เขาดีขึ้นนิดนึง จะจัดงานแต่งงานเพราะเขาพูดเสมอว่าอยากมีงานแต่งงานเล็กๆ แบบไหนก็ได้ที่พอจะทำได้ ณ ตอนนี้ ผมคิดไว้ ผมก็รอดูว่าเขาไหวมั้ย ความฝันของเขาเลย เสียดาย เพราะผมมองว่าถ้าเขาออกจากโรงพยาบาลครั้งนี้ ผมจะจัดเล็กๆ ในครอบครัวซึ่งกันและกัน

(ตอนที่เขาจะไปได้พูดอะไรมั้ย) ผมไม่ทันได้พูดอะไร ไปถึงเห็นแต่ภาพคุณหมอกำลังปั๊มหัวใจ เขาเองเคยบอกว่าจะดูแลพี่เองเพราะพี่อายุเยอะแล้ว (ยิ้ม) เดี๋ยวทำเพจกันหนูจะหางานให้ พี่แก่ไปหนูจะดูแลเอง แม้กระทั่งตอนรักษาเขาก็บอกพี่ออกไปก่อนนะ หนูออกมาหนูจะหาเงินเยอะมาให้นะ เขาเป็นคนคิดเยอะว่าแทนที่จะได้ดูแลเรา เราต้องไปดูแลเขา

ตัวผมตอนนี้ยังคิดอะไรไม่ออก แต่เดี๋ยวคิดว่าก็คงดีขึ้นเยอะๆ (ทุกคนบอกว่ารักแท้ครั้งนี้) ครับ นี่ก็ถือว่าที่สุดของชีวิตแล้ว ไม่รู้เพราะด้วยเรื่องอะไร ไม่รู้ว่ามันถึงวัยหรือเปล่า หรือไม่รู้ว่าด้วยความดีของเขา หรืออะไรหลายๆ แต่มันคือที่สุด แต่เขาก็จะอยู่กับเราไปตลอด ก็ตอนนี้ยังไงก็แล้วแต่ เขาก็รู้ว่ายังไงผมก็มีเขาตลอด

ตอนนี้เขาก็สบายแล้ว ขอบคุณทุกคนที่เอ็นดูน้องนุ๊ก ขอบคุณคุณหมอพยายามที่ดูแลน้องนุ๊กมาตลอด ขอบคุณแฟนคลับ สำหรับกำลังใจ สมาคมโรคมะเร็งที่ยึดนุ๊กให้เป็นกำลังใจให้คนเป็นมะเร็ง นุ๊กก็สู้เต็มที่ ก็เป็นกำลังใจทุกคนที่กำลังปวดมะเร็ง”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2352295
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2352295