พั้นช์ กับรักที่เขายังรอคอย-พอรู้นักร้องหนุ่มที่ชอบมานาน แม่ภูมิใจลูกเก่งที่สุด


ให้คะแนน


แชร์

จบรัก12ปีฝ่ายชายสำนึกไม่ทันแล้ว ความรักของ“พั้นช์ วรกาญจน์”รักที่เขายังคงรอคอย รักที่เหมือนจะอกหัก พอรู้นักร้องหนุ่มชื่อดังที่ชอบมานาน แม่ภูมิใจที่สุดในตัวลูกสาว

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

นับเป็นอีกหนึ่งสาวเก่งและแกร่งรอบด้านจริงๆ สำหรับ พั้นช์ วรกาญจน์ ที่มาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ Club Friday Show ผลิตโดย CHANGE2561 ได้เปิดแบบหมดเปลือกทุกเรื่องราวของชีวิตในเรื่องราวของชีวิตคู่ที่ต้องจบลงด้วยสาเหตุของทัศนคติและวิธีการใช้ชีวิต พร้อมกับเผยถึงความรักของผู้ชายคนหนึ่งที่ยังรอคอย และเปิดความรู้สึกของคุณแม่ที่ภูมิใจที่สุดในตัวลูกสาวคนนี้

ถาม แล้วผู้ชายคนนี่เขาโกรธเราไปเลยไหมทุกวันนี้หรือหลังจากนั้นเคยเจอกันไหม
พั้นช์ วรกาญจน์ : ไม่โกรธนะคะ เหมือนทุกวันนี้เขาก็ยังรอคอย แต่ถ้าถามว่า ณ ตอนนี้เขายังโสดหรือเปล่า พั้นช์ ไม่แน่ใจนะคะ อาจจะไม่โสดก็ได้แต่ว่ายังไม่ได้แต่งงานค่ะ

ถาม แล้ว พั้นช์ รู้ได้ไงว่าเขารอคอย
พั้นช์ วรกาญจน์ : เพราะเขาคุยกับแม่นานๆทีค่ะ เขาจะส่งมาสวัสดีทักทายกับแม่นะคะ แต่ไม่เคยมาอะไรกับ พั้นช์ ไม่เคยทักมาหา พั้นช์ ใดๆทั้งสิ้นเลยค่ะ

ถาม คือตอนนั้นมีแขกรับเชิญคนหนึ่งมานั่งในรายการ Club Friday Show แล้วเขาปลาบปลื้ม พั้นช์ มาก พั้นช์ รู้ไหมว่าเขาเป็นใคร
พั้นช์ วรกาญจน์ : ก็พอเดาได้ค่ะ (ยิ้ม)

ถาม เขาชัดเจนมากเพราะนั่นคือ กุ้ง สุทธิราช
พั้นช์ วรกาญจน์ : พี่กุ้ง คือ ไปรายการไหนๆจะมีพี่ๆพิธีกรเขาจะถามใช่ไหมคะ ว่าเขาชื่นชอบใคร พั้นช์ ก็ต้องขอขอบคุณ พี่กุ้ง มากๆเลยค่ะ คือ พี่กุ้ง ปลาบปลื้มมาตั้งนานแล้วค่ะ แล้วก็แบบคอยติดตามผลงาน พั้นช์ มาตลอดแล้วก็มีการทักคุยกันในอินสตาแกรม เขาก็จะทักมาว่าสบายดีไหมครับ ให้กำลังใจ พั้นช์

ถาม ตอนนั้นวันนั้นจำได้แม่นเลยว่าเขาพูดว่าแต่เขาก็แต่งงานแล้วครับ แล้วในทางกลับกันแล้ว พั้นช์ มีใครไหมที่ชื่นชอบ
พั้นช์ วรกาญจน์ : ของ พั้นช์ ก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆค่ะ อย่าง พั้นช์ ชอบละครเรื่องนี้ เราก็จะชอบนักแสดงคนนี้ อย่าง โป๊ป ที่แสดงละคร บุพเพสันนิวาส แล้วอย่างสมัยก่อน พั้นช์ ก็จะชอบ พี่ชาคริต พี่แอนดริว

ถาม การที่คุณพ่อคุณแม่ตอนนั้นที่มีการหย่าร้างกันมันมีผลต่อการที่เราจะเลือกใครสักคนเป็นแฟนไหม
พั้นช์ วรกาญจน์ : ก็มีบ้างค่ะ หมายถึงว่า ผู้ชายที่เราอยากให้เข้ามาในชีวิตเราอย่างน้อยก็คือ ต้องไม่ดื่มหนักเพราะที่แม่เลิกกับพ่อก็คือ เพราะคุณพ่อดื่มเยอะจนถึงขนาดที่ว่าครอบครัวเสียทุกอย่างเลย คุณแม่ ต้องประคับประคองอยู่คนเดียวมันก็หนัก เราเลยรู้สึกว่าผู้ชายที่จะเข้ามาต้องไม่เป็นแบบนี้นะ

ถาม เป็นคนร้องเพลงเศร้าได้น้ำตาร่วงแต่ละเพลงของ พั้นช์ พั้นช์ เองเคยผ่านการอกหักมาบ้างไหม
พั้นช์ วรกาญจน์ : อกหักแบบโดนเทอย่างนี้ ยังไม่เคยค่ะ แต่ว่าลักษณะแบบจับได้อะไรอย่างนี้ หรือ แบบว่าโดนนอกใจมีบ้างค่ะ มันก็เหมือนจะอกหักแล้วเนอะคะ แต่มันยังไม่ได้แบบหายขาดจากกันไปมันก็ยังกลับมาเหมือนเดิม

ถาม มีคนในวงการ หรือ นักร้องมาจีบบ้างไหมในตอนที่เราร้องเพลงเป็น พั้นช์ วรกาญจน์ บ้างไหม
พั้นช์ วรกาญจน์ : ก็มีบ้างค่ะ

ถาม ที่นอกเหนือจาก พี่กุ้ง สุทธิราช
พั้นช์ วรกาญจน์ : (หัวเราะ) พี่เขาปลื้ม พี่เขาปลื้มค่ะ

ถาม สำหรับชีวิตคู่ที่ตัดสินใจเลิกสาเหตุมาจากอะไร ???
พั้นช์ วรกาญจน์ : คือด้วยความที่ พั้นช์ แบบที่ตัดสินใจเลิกมันก็เป็นแบบเราทำงานของเรามาตั้งแต่เด็กๆแล้ว แล้วก็เหมือนกับเราทำมาตลอดจนถึงการแต่งงานเราก็ยังทำงานของเราอยู่แล้วก็เหมือนกับเราเป็นหัวหน้าครอบครัวด้วยในส่วนหนึ่งเราก็เลยอยากได้คนที่เป็นหัวหน้าเรา

ถาม คราวนี้พอเข้าสู่งานแต่งงานชีวิตมันเริ่มเคลื่อนตัวเนอะจากการเป็นแฟนกันก็เป็นแบบหนึ่งคราวนี้พอเป็นชีวิตคู่ก็เป็นแบบหนึ่งการเข้าไปใช้ชีวิตคู่ของ พั้นช์ เป็นอย่างไรบ้าง
พั้นช์ วรกาญจน์ : คือเวลาที่ พั้นช์ แบบมีแฟน พั้นช์ ก็จะเป็นผู้หญิงๆเหมือนกันนะคะ คือเราก็จะมีโมเมนต์มุ้งมิ้งออดอ้อนเรามีโมเมนต์นั้นก็ประมาณหนึ่งเหมือนกันค่ะ แต่บางทีจุดหนึ่งที่เรารู้สึกว่าเราต้องดูแลทุกๆอย่างคนเดียว บางทีเราก็รู้สึกว่าถ้าไม่มีเหมือนมีกับไม่มีมันรู้สึกว่ามันไม่ต่างกันเลยค่ะ มีกับไม่มีเขามันกลายเป็นว่ารู้สึกไม่ต่างกันเพราะว่าเราเป็นเหมือนจะบอกว่าเป็นผู้นำมาโดยตลอดมันก็ได้

ถาม มันจะเหมือนรู้สึกว่า เอ๊ะ!! พั้นช์ แต่งงานอยู่แป๊บเดียว จริงๆแป๊บเดียวคือกี่ปีเอ่ย
พั้นช์ วรกาญจน์ : แต่งมา 4 ปีแล้วค่ะ คือ แต่งมา 4 ปี แต่คบมา 8 ปีค่ะ ถ้ารวมทั้งหมดก็ประมาณ 12 ปีค่ะ มันคือนานมากนะคะ แล้วมันก็เป็นแบบมันก็เป็นการสะสมด้วยอย่างหนึ่งในหลายๆเรื่องพอมาถึงจุดหนึ่งเรารู้สึกว่า เราอยากให้เขาไปทำอะไรที่มันอาจจะไม่ได้ทำเพื่อเรา แต่เพื่อตัวเขาเองบ้างดีกว่า

ถาม อันนี้ พั้นช์ เป็นคนบอกเลิกอีก
พั้นช์ วรกาญจน์ : ใช่ค่ะ เป็นคนพูดเองก็คือพอเราพูดเขาก็เหมือนกลับมาย้อนคิดที่ผ่านมามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง และ เขาบกพร่องตรงไหนบ้าง เขาก็เพิ่งคิดได้ว่าเขาผิดตรงนี้ๆเขาก็มาขอโทษว่าแบบขอโทษที่เป็นแบบนี้ทำอย่างนี้ๆคือเขาสำนึกแล้วนะ รู้สึกแล้วนะแต่เราก็คิดว่าเฮ้ย !! ทำไมไม่รู้สึกให้มันเร็วกว่านี้หน่อยค่ะ

ถาม มันมีการแบบค่อยๆบอกให้เขารู้เพื่อให้เขาค่อยๆปรับหรือไม่เลยฉันเก็บไว้เป็นกองใหญ่มากแล้วหนึ่ง สอง สามแล้วตู้มครั้งเดียวเลย
พั้นช์ วรกาญจน์ : ก็มีค่อยๆรู้มาตลอด ค่อยๆซึมๆแต่เขาก็ยังทำปกติเหมือนเดิมทุกอย่าง เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรือเราบอกไม่ชัดเกินไปหรือเปล่า เขาไม่เข้าใจหรือเปล่าใช่เราบอกไม่จริงจังเราไม่กระตือรือร้นพูดง่ายๆบอกแล้วก็ผ่านๆอะไรอย่างนี้ แต่ว่าครั้งนี้คือค่อนข้างจริงจังมากแล้วจริงจังกันทั้งบ้านเขาก็เลยรู้สึกตัวจริงๆว่าเฮ้ย !! ควรจะต้องเปลี่ยนแปลงและทำอะไรบ้างแล้ว แต่มันก็ไม่ทันแล้วหลักๆคือ ทัศนคติในการใช้ชีวิตในการคิดคือ พั้นช์ เป็นคนที่ดูแลครอบครัวคือทุกอย่างเลย พั้นช์ ก็จะมีความคิดของ พั้นช์ เป็นอีกแบบหนึ่งแต่ของเขาก็เป็นอีกแบบหนึ่งมันก็เลยกลายเป็นว่าไม่ตรงกัน

ถาม และจริงๆมีคนหนึ่งตลอดเวลาที่เราพูดถึงในทุกช่วงของชีวิตและอยู่เคียงข้างเรามาตลอดคือ คุณแม่
พั้นช์ วรกาญจน์ : ใช่ค่ะ รับรู้ทุกอย่าง

ถาม คุณแม่พูดถึงการตัดสินใจครั้งนี้ของเรายังไงบ้างตลอดการปรึกษาของเรา
พั้นช์ วรกาญจน์ : คอยอยู่เคียงข้างมากกว่าค่ะ ให้เราตัดสินใจทั้งหมด แล้วท่านคอยให้กำลังใจเราให้เราไม่เครียดมากกว่าค่ะ เพราะเขาค่อนข้างเคารพการตัดสินใจเราพอสมควรค่ะ

ถาม ไหนๆก็พูดถึงคุณแม่เยอะขนาดนี้แล้ว วันนี้คุณแม่ก็ได้มาเปิดความในใจมาบอกลูกสาวด้วย
VTR คุณแม่พั้นช์ วรกาญจน์ : ต้องตัวติดกันนะเวลาลูกร้องเพลงก็ต้องอยู่แต่งตัวให้ลูกติดกันเหมือนกับดูแลซึ่งกันและกันเวลานอนมีแม่ไปด้วยเขาก็จะอุ่นใจ ส่วนเรื่องหัวใจความรักเป็นเรื่องละเอียดอ่อนของคนสองคน คนเป็นแม่ก็ต้องอยู่เคียงข้างลูกเพื่อให้ลูกผ่านตรงนั้นไปได้ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ลูก ขอให้ลูกได้ผ่านช่วงนั้นไปได้และขอให้ลูกพบเจอแต่สิ่งที่ดีๆเข้ามา ภูมิใจในตัวลูกทุกอย่างค่ะ เกิดมาก็ทำให้ชีวิตที่สุขสบายขึ้น เพราะว่าลูกทำให้ได้มายืนอยู่จุดนี้ก็คือความสุขอ่ะค่ะ อยากจะบอกว่าลูกของแม่คือผู้หญิงที่เก่งที่สุด อยากให้ลูกรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่กันไปนานๆจริงๆแล้วก็บอกรักเราก็บอกรักกันทุกวันอย่างไรก็รักกันตลอดไป

ถาม คุณแม่บอกความในใจกับ พั้นช์ แล้ว พั้นช์ มีความในใจอะไรที่อยากบอกคุณแม่บ้าง
พั้นช์ วรกาญจน์ : อยากจะบอกคุณแม่ว่าไม่ต้องเป็นห่วง พั้นช์ โอเค พั้นช์ สบายดีก็อยากจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ทุกอย่างที่ พั้นช์ ทำก็เพื่อครอบครัวอยู่แล้ว และก็ไม่เคยทำอะไรให้คุณแม่รู้สึกว่าต้องกังวลหรือความเครียดอะไรเกี่ยวกับ พั้นช์ เลยทุกวันนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้น พั้นช์ ก็อยากให้คุณแม่ดูแลสุขภาพให้ดีเพราะถ้าเราแข็งแรงเราจะได้ไปเที่ยวด้วยกันอีกหลายๆที่

ถาม และตอนนี้ พั้นช์ มานั่งอยู่กับพี่อ้อย พี่ฉอด แล้วผ่านร้อนผ่านหนาวผ่านสารพัดทุกรูปแบบแล้วมีอะไรอยากจะถามพี่อ้อย พี่ฉอด ไหม
พั้นช์ วรกาญจน์ : ถ้าเกิดว่ารักครั้งต่อไปเราจะต้องดูอย่างไร ถ้าเกิดมีปัญหาเกิดขึ้นเราควรจะคุยกันไหมหรือว่าเราควรจะให้มันเป็นแบบนี้
พี่ฉอด : เรื่องของความรักมันไม่มีหลักสูตรว่า 12345 แล้วจะประสบความสำเร็จ

พั้นช์ วรกาญจน์ : กับการที่เราไม่พูดมันดีไหมคะ
พี่ฉอด : พี่ว่ามันอยู่ที่คนนะ ก็ยังต้องบอกว่าแล้วเรารักกับใครด้วย เหมือนแบบต้องใช้ชีวิตไปตามธรรมชาติในส่วนของพี่นะคะพี่รู้สึกพูดแล้วเขาฟังไหม เขาเปิดใจหรือเปล่าแล้วเขาแก้ไขไหมด้วยนะ มันไม่ได้หมายความพูดหรือไม่พูด บางคนพูดแทบตายเขาก็ไม่ฟังไม่ทำ ความจริงก็คือเจอใครรักกับคนนั้นและใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างเป็นธรรมชาติ แก้ปัญหาไปตามธรรมชาติพี่รู้อย่างนั้นนะคะ เพราะในที่สุดเราจะกะเกณฑ์อะไรไม่ได้เพราะแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6966966
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6966966