เนื่องจากอาการหมอนรองกระดูกเสื่อม ทำให้กระดูกทับเส้นประสาท แขน และมือขวาชา มีอาการปวด แขนซ้ายก็เริ่มมีปัญหา เป็นอาการเรื้อรังที่สะสมมานานหลายปี อาจเกิดจากการใช้ชีวิตของเจ้าตัวตั้งแต่อยู่ในเรือนจำ

ล่าสุด แพท ก็ได้ให้สัมภาษณ์พร้อมกับอัปเดตอาการป่วยของตัวเองว่า “เอฟเฟกต์ หลังจากการผ่าตัด มีปัญหาเรื่องของการเปล่งเสียงในการร้องเพลงโดยเฉพาะในช่วงย่างเสียงสูงๆ เพราะว่าบริเวณที่ผ่าก็ใกล้เคียงกับที่เส้นเสียงอยู่ หมอบอกมาแบบนี้ แต่ว่าเป็นเปอร์เซ็นต์ที่น้อยมากครับ แต่ยังไงเราก็ตัดสินใจผ่าแล้ว ซึ่งตอนแรกก็มีความกังวลมาก

แต่พอหลังจากผ่าตัดล่าสุดเมื่อไม่กี่วันนี้ได้ไปให้คุณหมอตรวจดูแผลที่บริเวณคอ และคุณหมอผมก็ถามอาการและฟังเสียงเรา ก็บอกว่ามีแนวโน้มที่ดี ความกังวลที่จะกลับมาร้องเพลงไม่ได้อะไรต่างๆ นี้ น่าจะไม่เกิดขึ้น แต่ตัวผมเอง ณ วันนี้วันที่ 10 ก็ยังไม่กล้าที่จะลองฝึกร้องเพลง หรือเปล่งเสียง อยากให้แผลทุเลาไปมากกว่านี้ ทุกวันนี้ก็ยังไม่สามารถพูดเสียงที่เต็มได้ เพราะยังคงกระเทือนแผลอยู่”

ใช้เวลานานแค่ไหนในการพักฟื้น?

“ก็ประมาณสักสองสัปดาห์ก็จะลองไปฝึกร้องเพลงได้ แต่นี่ก็ 10 วันแล้ว แผลที่เช็กก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ก็มีน้ำเข้าบ้างเล็กน้อย มีไหมที่บางช่วงไม่ละลาย ก็อาจจะต้องดึงออก ส่วนอาการที่จะบอกถึงความรุนแรง เช่น อาการกินข้าว กินน้ำและสำลัก อาการเสียงแหบก็ไม่มีเกิดขึ้น

ก็ไม่มีอะไรน่ากังวล ต้องขอบคุณทีมแพทย์ท่านเก่งมาก รวมถึงอาจารย์หมอด้วยที่มาร่วมผ่า รวมถึงทีมงานแพทย์ทีมพยาบาลที่ดูแลผมเป็นอย่างดี ขอบคุณมากครับ”

อย่างเรื่องแขนยังมีปัญหาอยู่ไหม?

“แขนไม่มีปัญหาแล้วครับ อาการเหมือนกับจะหายไปแล้ว ก็จะมีช่วงคอที่ยังหันได้ไม่เต็มที่ และช่วงผ่าตัดเสร็จใหม่ๆ ก็จะมีอาการปวดเส้นเอ็น กล้ามเนื้อช่วงคอถึงบ่าทั้ง 2 ข้าง ซึ่งไม่เกี่ยวกับด้านในที่ผ่า คุณหมอก็ให้ยาแก้ปวด

คุณหมอบอกว่าเกิดจากท่านอนระหว่างผ่าที่เราต้องแหงนคอเป็นเวลาหลายชั่วโมง ทำให้ช่วงบ่าและคอปวดเกร็ง ทานยา 2-3 วันก็หาย ส่วนช่วงแรกที่ผ่าคอไม่สามารถที่จะเกร็งได้ด้วยตัวเอง คือมันจะเจ็บ เวลาลุกหรือหันผมต้องใช้มือประคองช่วยให้หัวตัวเองขึ้นมา

ช่วงนี้จะรู้สึกว่าหัวตัวเองหนักมาก ค่อนข้างเจ็บ กลืนน้ำลายเจ็บ รับประทานอาหารเจ็บ เจ็บข้างในเหมือนตอนเราเป็นต่อมทอนซิลอักเสบประมาณนั้น ต้องรับประทานของอ่อนๆ เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก อาการเจ็บคอก็ค่อยๆ ดีขึ้น

ทุกวันนี้ก็หายไปแล้ว สามารถรับประทานอาหารได้ปกติ อาการเกร็งคอเจ็บก็ไม่มีแล้ว จะมีก็แค่ตอนเปล่งเสียง ไม่สามารถเปล่งแรงได้ ก็จะมีอาการเสียดๆ แผล ตอนเราหันและพูดแรง”

การกลับมาวาดรูป ยังสามารถทำได้อยู่ไหม?

“การวาดรูปถ้าเป็นชิ้นงานเล็กๆ ไม่กี่ชั่วโมง หรือ 1-2 วัน ผมว่าก็อาจจะยังพอทำได้ แต่ถ้าเป็นชิ้นใหญ่ที่เราเคยมีความฝันไว้ว่าถ้าเราออกมาแล้วอยากจะทำคู่ไปกับงานเพลงคงจะไม่สามารถที่จะเขียนได้แล้ว เพราะว่าผมคงจะต้องดูแลตัวเองไม่ให้กระดูกข้อที่เสื่อมเกิดอาการกำเริบซ้ำและต้องผ่าตัดอีก ก็ต้องยอมเข้าใจและปรับพฤติกรรมตัวเอง เพราะฉะนั้นใครที่มีชิ้นงาน ภาพเขียนของผมก็คงจะมีให้ชมเพียงเท่านี้แล้ว”

ลดการเขียนภาพไปเลย?

“ใช่ครับ แต่ยังเล่นดนตรี ร้องเพลงก็ยังทำได้ เพราะว่าต้องยอมรับว่าการเขียนรูป สไตล์การเขียนรูปของตัวเองจะเป็นงานที่ละเอียดและใช้เวลานานมาก ชิ้นใหญ่ก็คงต้องงดเลย”

ขัดกับไลฟสไตล์การใช้ชีวิต?

“มันจำเป็นที่จะต้องยอมเสียสละเพื่อไม่ให้เราไม่สามารถทำอย่างอื่นอีกได้เลย ไม่ให้เสียไปกว่าเดิม ถ้าต้องผ่าอีกก็จะลำบากมาก คุณหมอบอกว่าคอจะต้องดามเหล็กเพิ่มอีก ซึ่งมันอันตรายมาก ก็ขอดูแลตัวเองดูก่อน”

มีงานที่รับไว้ไหม เกี่ยวกับการวาดภาพชิ้นใหญ่?

“ล่าสุดที่ผมเขียนก่อนผ่าตัดจะมีการเขียนรูปการกุศลของบริษัทหนึ่ง เขาจะทำภาพนี้ไปสกรีนบนเสื้อ และขายเสื้อเพื่อนำมาเป็นทุนการศึกษาให้กับเด็กนักเรียนที่ขาดโอกาส งานชิ้นนั้นจะเป็นงานสุดท้ายตั้งแต่ช่วงที่ผ่านมา ส่วนจะเริ่มเขียนอีกไหม เมื่อไหร่ผมยังไม่ได้วางแผน

ผมตั้งเป้าว่าอยากจะกลับมาร้องเพลง เล่นดนตรีให้ได้เป็นปกติก่อน มีงานคอนเสิร์ตที่จองไว้ มีโปรเจกต์ที่ผมกับเพื่อนวางไว้ มีการวางแพลนทำงานล่วงหน้าไว้แล้ว ผมก็พยายามจะพักฟื้นให้หายและกลับมาทำงานให้ได้ตามเวลาที่เราวางไว้ครับ”

คิดไหมว่าเป็นปีชงของเรา?

“ผมไม่คิดว่าจะเกี่ยว เพราะว่าอย่างที่เรียนไปว่าอาการมันส่งผลมาประมาณปีหรือสองปีแล้ว ผมเชื่อว่าเป็นเรื่องของพฤติกรรม การใช้ชีวิตช่วงวัยรุ่นที่เราใช้หนักเกินไป ใช้โดยไม่มีความเข้าใจว่าวันหนึ่งมันจะเสื่อม เราแก่ขึ้นร่างกายก็ไม่เป็นแบบเดิมแล้ว ไม่น่าจะเกี่ยวกับเรื่องนั้น เพราะมันสะสมมาเป็น 10 ปีแล้ว”

แฟนๆ ส่งกำลังใจให้เยอะมาก?

“ขอบคุณมากๆ เลยครับ ขอบคุณกำลังใจจากทุกๆ ส่วน ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานต่างๆ กลุ่มแฟนคลับผมรับรู้ได้ทุกๆ กำลังใจที่ส่งมาให้ผม ขอบคุณการ์ดที่ส่งมาให้ ขอบคุณของเยี่ยม ผลไม้อะไรต่างๆ รวมถึงกำลังใจจากทุกส่วนเลยที่เป็นห่วงผม ก็ขอบคุณมากๆ ครับ จะรีบหายครับ”

ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ คิดว่าเท่าไรได้แล้ว?

“คือส่วนร่างกายผมมันไม่ได้มีปัญหา ผมมีปัญหาแค่เสียงและลำคอแค่นั้นเอง เพราะฉะนั้นผมยังช่วยเหลือตัวเองได้ตามปกติ อาการเจ็บผมคิดว่า 70 เปอร์เซ็นต์แล้ว ดีขึ้น สัปดาห์นี้น่าจะเริ่มก๊อกๆ แก๊กๆ เริ่มจับกีตาร์ เริ่มผ่อนคลายขึ้น แค่ยังไม่กล้าเปล่งเสียงเต็ม คอจะแข็งๆ ประมาณนี้ และจะหันมากไม่ได้”

ช่วงที่ไปผ่าตัด มีผลกระทบกับงานไหม?

“ผมวางแพลนไว้แล้วว่าเราจะหยุดช่วงไหน เพราะฉะนั้นงานทุกอย่างจะถูกทำไว้เรียบร้อยแล้ว ทางค่าย เพื่อนๆ ในวงก็เข้าใจตรงนี้ ไม่กระทบกับงานเลย ตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไปก็จะเริ่มจะต้องกลับมาทำงานบ้างแล้ว สำหรับแฟนๆ ไม่ต้องห่วงครับ ไม่ได้หายไปไหน และจะมีผลงานให้ชมกันแน่ๆ ครับ”

จะมีงานครบรอบ 22 ปี พาวเวอร์แพท?

“ใช่ครับ คือว่าวงพาวเวอร์แพท ปีนี้จะครบปีที่ 22 มีอายุครบรอบ 22 ปีแล้ว ซึ่งทางวงมีการคุยกันแล้วว่าจะมีการเฉลิมฉลองครบรอบ 22 ปี ใช้ชื่อว่า “โปรเจกต์พาวเวอร์แพท 22” โปรเจกต์นี้จะมีการนำเพลงในอัลบั้มแรกเมื่อปี 2000 มาคัฟเวอร์ในรูปแบบใหม่

มีการปรับลุคเรื่องเสื้อผ้าหน้าผม และคิดว่าหลายๆ คนคงจะชอบ และที่สำคัญประมาณกลางปีนี้ทางวงพาวเวอร์แพทเองจะจัดแฟนคลับคอนเสิร์ตมีตติ้ง เพื่อเป็นการขอบคุณแฟนๆ ทุกคนที่ให้การสนับสนุนและรักพวกผมตลอดมา จนถึงปีนี้ปีที่ 22 แล้ว

คอนเซปต์ 22 เนี่ยเกิดมาจากเลข 2 มีความเกี่ยวพัน ผูกพันเกี่ยวข้องกับตัวผมและวง แน่นอนวงครบรอบ 22 ปี พาวเวอร์แพท มีเพลงชื่อ 02.22 น. ผมเองเกิดวันที่ 2 มิถุนายน ปีนี้ผมอายุ 42 และเป็นปีที่ 2 ที่ผมออกมาใช้ชีวิต ได้รับอิสรภาพ เลยยึดคอนเซปต์นี้มาเป็นโครงการนี้ โดยที่โปรเจกต์นี้ทำขึ้นจากบริษัทของผมเอง คือบริษัท มาดูมาฟัง จำกัด

โปรเจกต์นี้ผมกับเพื่อนดูแลกันเองทุกขั้นตอนช่วงต้นเดือนหน้าเรามีแพลนที่จะอัดเสียงแล้ว แฟนที่อยากจะชมคอนเสิร์ตพวกเรา บรรยากาศแฟนคลับมีตติ้งก็หลังจากนี้ติดตามข่าวสารได้ จะทยอยอัปเดตออกมาให้ทุกคนได้ทราบอีกทีครับ”

เป็นการโชว์เต็มรูปแบบครั้งแรก?

“ครั้งแรกครับ และจะมีเซอร์ไพรส์มีอะไรอีกเยอะมาก ทุกขั้นตอนคือเราทำกันเอง จะมีการจัดอะไรต่างๆ ที่อยากให้ติดตามข่าวสารอัปเดตอีกทีหนึ่ง เพราะว่าเราอยู่ในช่วงระหว่างการดำเนินการ แต่กลางปีนี้แฟนทุกคนก็เตรียมสนุกกับแฟนมีตของพวกเราครับ”.