"อั้ม พัชราภา" คัมแบ็กเล่นหนังในรอบ 7 ปี โมเมนต์ร่วมเฟรม "แต้ว"


ให้คะแนน


แชร์

อั้ม เผยเริ่มจากหลายคนดีใจเราคัมแบ็กงานแล้ว? “ค่ะ เราก็อยากเล่นมาก เพราะอ่านบทแล้วชอบจริงๆ แต่คือยังไม่สามารถพูดได้ว่าบทเป็นยังไง แต่อั้มรู้สึกว่าอั้มชอบ ตอนแรกรู้สึกต่อต้านว่าจะเหมือนเดิมๆที่เราเคยเล่นมั้ย แต่อ่านไปอ่านมาไม่ใช่เลย เพราะทำให้อั้มหัวเราะ และอ่านแป๊บเดียวจบเลย ไม่ต้องคิดนานเลย คิดแค่หน้าแรกว่าเอาไงดี หลังจากนั้นคือสนุกมาก แต่ก็เครียดว่าจะไม่ขำเท่าที่อ่าน เครียด ว่าเราจะทำไม่ได้”

คิดว่าตัวเองมีความโบ๊ะบ๊ะ มั้ย? “จริงๆอั้มไม่เหมือนในเรื่องนี้หรอก โอ๊ย พูดไม่ได้ อย่าถามเลย (หัวเราะ) เดี๋ยวหลุดเล่า แต่คือตัวจริงอั้มเป็นคนตลกอยู่แล้ว ชอบหัวเราะ ชอบเรื่องเฮฮาตลอดเวลา แต่อันนี้มันแบบตลกไปซะทุกอย่างเลย ตลกแบบดูดีอะ”

คิดถึงงานแสดงขนาดไหน? “ตอนเรื่อง จากศัตรูสู่หัวใจจบก็อยากถ่ายเลย รบเร้าว่าอยากถ่ายๆ แต่พอเจอโควิดเราก็เริ่มขี้เกียจ ตอนนี้เลยรู้สึกว่าเอ๊ย ต้องทำงานแล้วนะ เพราะละครเรามี ถ่ายหนังก่อนเพื่อให้มันปรับเวลา อั้ม นอนไม่เป็นเวลาไงคะ เดี๋ยวขอปรับเวลากับหนังก่อน”

ก่อนหน้านี้ที่ฟิตหุ่นเหลือเอว 23 เพราะว่าจะมาทำงานใช่มั้ย? “ใช่ จะไปถ่ายละคร แต่ไม่ได้ ต้องเพิ่มแล้ว เพราะเรื่องนี้การแต่งตัวอาจจะต้องมีเนื้อมีหนังนิดหนึ่ง ไม่ใช่วาบหวิวนะ เรียบร้อย นี่อ้วนขึ้นมาแล้ว”

ตอนที่ผอมลงมา คนก็บอกว่าแค่ไหปลาร้ายังสวยเลย? “เราอยากผอมช่วงล่าง แต่มันชอบผอมช่วงบน หน้าตอบไปเลย ตอนนี้ออกกำลังกายเหมือนเดิม แค่เพิ่มโปรตีน เพราะว่าหน้าตอบ ไหปลาร้าขึ้น ผอมดี แต่มันจะโทรมค่ะ”

มีเคล็ดลับยังไงในการดูแลรูปร่าง? “ทุกอย่างเลย เราออกกำลังกาย 3 เดือนนะ ที่ผ่านมาถ้าเห็นในไอจีสตอรีอั้ม จะเห็นว่าอั้มกินเยอะมาก ชื่ออั้มคือกินอยู่แล้ว กินมาตั้งแต่เด็ก กินของหวานเยอะมาก ข้าวกินน้อย มันก็เป็นปัญหาเราอ้วน ไม่มีภาพออกกำลังกายในไอจีเพราะเราไม่ได้ออกบ่อย แต่ก็มี”

ล่าสุดวันเกิดคุณแม่ของพก ได้ไปเจอกับ “แต้ว–ณฐพร” ด้วย? “จริงๆเราเคยเจอกันอยู่แล้วค่ะ แต่ไม่ได้ลงรูป คนจะนึกว่าเราทำไมถึงได้มาเจอกัน ก็เจอกันค่ะ แต่บางทีก็ไม่ได้ลงรูป”

คนแซวว่าที่สะใภ้พร้อมหน้าพร้อมตา? “เพื่อนลูกชายก่อนได้มั้ยคะ เวลาอ่านแล้วสะดุ้ง ก็ได้เห็นคอมเมนต์ต่างๆ สะดุ้งเลย (หัวเราะ)” พกสะดุ้งด้วยมั้ย? “ก็ไม่ได้ถาม แต่กับคุณแม่เราเจอบ่อยอยู่แล้วค่ะ (ยิ้ม)”

ก่อนหน้าเห็นบอกว่าไม่ค่อยได้เจอพก? “ก็ถ้าไม่มีอะไร นี่ก็ไม่ได้กันเจอค่ะ นานๆกินข้าวที เอาเป็นว่าเดี๋ยวคนก็จะถามว่าห่างกันอีก แต่จริงๆ 2-3 ปีแล้ว คือช่วงแรกก่อนโควิดก็จะเจอกันอาทิตย์ละ 3-4 วัน พอโควิดก็ 10 วันเจอทีหนึ่ง บางทีก็ 2 อาทิตย์หรือเดือนหนึ่ง สมมติเค้าไปเจอใคร เราไปเจอใคร ก็ต่างคนต่างกักตัวแล้ว ต่างคนต่างระวัง”

แต้วทำแบรนด์ชุดว่ายน้ำ เราก็ช่วยซัพพอร์ตด้วย? “อ๋อ ใช่ น้องเค้าน่ารักค่ะ ชุดก็น่ารักด้วย”

คุยกัน บ่อยมั้ย? “ไม่ได้คุยกันบ่อย แต่ก็ทักกันในไอจีแล้วเจอกันบ้างค่ะ”

มีข่าวว่าเราจะขายรถ? “ยังค่ะ ตีราคาก่อน เค้าบอกว่าตอนนี้ราคาดี ของทุกอย่างแพงหมดเราก็เลยอยากจะขายของทุกอย่างเลย”

คนแย่งกันอยากซื้อรถเรา? “ยังไม่ได้ขายเลยค่ะตอนนี้ กลัวคนจะไม่เอาเหมือนกันยังไม่ขายค่ะ ตีราคาอยู่ ถ้าราคาสูงก็ขาย งงมาก ทุกอย่าง กระเป๋า นาฬิกา แพงขึ้นหมดเลย อะไรขายได้ก็อยากจะขาย แต่ยังไม่ได้ขายสักชิ้นเลยนะคะ กลับมาดูๆไม่เคยใช้เลย เพราะโควิดไม่ได้ทำอะไรเลย แต่ก็เสียดาย คิดถึงด้วยค่ะ”

แต่ปกติเราชอบให้ของนะ? “ไม่ๆ อันนี้เก็บไว้เป็นที่ระลึก (หัวเราะ)”.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2372626
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2372626