แพท ณปภา เผยอาการป่วยคุณแม่อยู่ในขั้นวิกฤต ลั่นทำใจทุกวัน 


ให้คะแนน


แชร์

แพท ณปภา เผยอาการป่วยคุณแม่อยู่ในขั้นวิกฤต ลั่นทำใจทุกวัน

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

วันที่ 22 เม.ย. ที่ EVEANDBOY The Underground ชั้น LG สยามสแควร์วัน ดาราสาวและพิธีกรชื่อดัง แพท ณปภา ตันตระกูล ให้สัมภาษณ์ในงาน “EVEANDBOY BEST SELLING AWARD 2021” ถึงอาการของคุณแม่ หลังเจ้าตัวโพสต์ภาพรถทีมงานของ บุ๋ม ปนัดดา ที่มาหาที่บ้านกลางดึก พร้อมติดแฮชแท็กขอบคุณ จนทำเอาหลายคนเป็นห่วง


โดย แพท เล่าว่า “จริงๆ ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้สถานการณ์มันเปลี่ยนไปเยอะมาก จากวันที่เราลงรูปไปเป็นแค่ว่าแพทอยากจะขอบคุณแม่บุ๋ม(ปนัดดา) คือเครื่องออกซิเจนที่บ้านมันมีปัญหา แล้วเราก็อยากจะได้ตัวใหม่ เราก็เลยถามผู้รู้เฉยๆ ว่าแม่คะถ้าลูกอยากได้เครื่องออกซิเจนลูกควรไปซื้อที่ไหน ปรากฏแม่ส่งทีมมาที่บ้านเลย มาดูแลให้”

“แต่ถ้าถาม ณ วันนี้แม่อยู่ไอซียูแล้วค่ะ คือเมื่อ 2 วันที่แล้วคุณแม่หยุดหายใจ คือคุณแม่มีอาการหายใจได้น้อยลงค่ะ ตอนที่เห็นอาการคือแพทถ่ายละครอยู่ คนที่บ้านก็บอกว่าแม่ไม่ไหวแล้ว เขาก็พาออกไปส่งโรงพยาบาล ก่อนถึงโรงพยาบาลประมาณ 3 นาทีแกหยุดหายใจไป คุณหมอก็ต้องปั๊มขึ้นมา ตอนนี้ก็อยู่ไอซียู”

“คือคุณแม่เขามีอาการอัลไซเมอร์อยู่แล้ว เป็นมา 10 กว่าปีแล้ว ซึ่งอาการของเรื่องสมองมันไม่ได้ดีอยู่แล้วถูกไหมคะ แต่พอมีเรื่องของการหยุดหายใจไป เลยทำให้สมองตายไปบางส่วน ซึ่งยังไม่มีกำหนดออกจากไอซียู และยังหายใจเองไม่ได้ค่ะ (คุณหมอประเมินอาการยังไงบ้าง?) ตอนนี้คุณแม่ยังเป็นผู้ป่วยวิกฤติของโรงพยาบาลค่ะ และให้ดูเป็นวันต่อวัน”


แนวทางการรักษาคือยังไง? “ณ ตอนนี้พอเข้าโรงพยาบาลไปแล้ว คุณหมอก็เริ่มมีการตรวจ พบว่ามีการติดเชื้อในกระแสเลือด แต่เชื้อยังเพาะไม่ได้ เนื่องจากความดันหลายๆ อย่างยังไม่เข้าที่ คุณหมอก็ให้ยาฆ่าเชื้อแบบโดยรวมไปก่อนค่ะ แล้วเนื่องจากคุณแม่มีอาการทางสมองอยู่แล้ว ตอนนี้คุณแม่ก็มีอาการชักตลอดเวลาก็ต้องดูเรื่องของอาการชักอีก”

“ก่อนหน้านี้คุณแม่ก็มีอาการชักบ้างนะคะ เราก็ดูแลโดยการให้ยากันชักมาตลอด แต่ตั้งแต่คุณหมอปั๊มขึ้นมา เราก็กังวลมาก เพราะเราไม่เคยเห็นแม่ชักตลอดแบบนี้เลย คุณหมอก็บอกว่าเป็นผลมาจากการให้ยาด้วย และเป็นผลจากการที่มีการปั๊มหัวใจด้วย เลยต้องคุมเรื่องการชักและประสาทตาไม่ทำงานด้วย แกก็จะเหมือนหลับตาไม่ได้ (ปฏิกิริยาคุณแม่ตอบสนองได้ไหม?) ไม่ได้ตอบสนอง ตอนนี้ใช้เครื่องช่วยหายใจ 100% ค่ะ”

สภาพจิตใจเราเป็นยังไง? “คือวันที่อยู่กองถ่ายแม่ก็เข้าโรงพยาบาล เราก็ร้องไห้ไปด้วย แล้วก็เข้าฉากด้วย คือแพทไม่อยากลากองพี่แอน พี่เคนค่ะ แล้วมันเป็นคิวสุดท้ายของแพท เหลืออีก 3 ฉากสุดท้าย คือแพทได้ไปรับเชิญเรื่องซุป’ตาร์ แล้วมันเหลืออีกนิดเดียว คือเราก็โทรตลอด แล้วก็ลุ้นตลอด แล้วที่บ้านเขาก็ไม่ได้รอรถพยาบาล เราคิดว่ามันไม่ทัน เราก็เลยไปส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด”

“ระหว่างนั้นเขาบอกแม่ยังหายใจ พอสักพักแม่หยุดหายใจ เราก็ถามว่าถึงไหนแล้ว เขาบอกเลี้ยวเข้ามาแล้ว แต่แม่หยุดหายใจแล้ว เราก็ไม่รู้จะทำยังไง แต่คนทั้งกองก็รอสถานการณ์ ตอนนั้นก็คือร้องๆๆ เสร็จก็ฮึบขึ้นมาเข้าฉาก พอคัตก็กลับมาโทร แล้วก็ร้องๆๆ แล้วก็ฮึบไปเข้าฉากต่อ”
ตอนนี้อาการล่าสุดเป็นยังไง? “ก็ยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 100% ความดันโอเค ชีพจรโอเค คุณหมอก็จะค่อยๆ ลดจาก 100% เป็น 80% เป็น 70% เป็น 50% ขึ้นอยู่กับว่าผู้ป่วยสามารถหายใจเองได้มากน้อยแค่ไหน”

คุณหมอบอกมีความหวังยังไงบ้างที่คุณแม่จะออกจากโรงพยาบาลได้? “ยังไม่มีค่ะ (เตรียมเรื่องการดูแลแม่ยังไง?) ตอนนี้ไอซียูเขาไม่ให้เข้าอยู่แล้ว เราก็จะผลัดกันไปดู เช่นวันนี้แพทเสร็จงานก็จะเข้าไปเฝ้าสักชั่วโมงหนึ่ง พอคุณหมอมาตรวจเสร็จ แพทก็กลับบ้านเอาลูกนอน คือไอซียูผู้ป่วยวิกฤตเขาจะมีพยาบาลดูแล 24 ชม. อยู่แล้ว และไม่ให้คนเฝ้า แต่ให้คนเยี่ยมแล้วก็กลับ เราก็จะเข้าไปดูอาการ พูดคุยกับคุณหมอ สอบถามอาการต่างๆ ค่ะ”

ให้กำลังใจตัวเองยังไง? “จริงๆ แพทเตรียมใจทุกวันนะคะ หลังๆ มาที่อาการแม่ไม่ได้ดีมาก เราก็เตรียมใจทุกวัน แต่จริงๆ เราก็รับไม่ได้หรอก แต่เราก็เข้าใจในตัวโรคตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เราก็แค่ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดจนวินาทีสุดท้าย มีการคุยกับคุณพ่อว่าถ้าคุณแม่หยุดหายใจอีกครั้ง เรายังจะปั๊มขึ้นมาไหม”
“ตอนนี้ก็รอลงมติว่ายังไง เพราะเรากลัวแม่เจ็บ เราคิดว่าครั้งนี้แกก็เจ็บแล้วด้วย แต่คุณพ่อบอกว่ายังทำใจไม่ได้กับการที่ไม่มีแกอยู่ ต่อให้อยู่ด้วยการใช้เครื่องช่วยหายใจก็ยังอยากให้อยู่ก่อน”

ในครอบครัวให้กำลังใจกันยังไง? แพท – “ช่วยกันดูแล คืออย่างวันที่แพทไม่อยู่ เขาก็จะคอยเป็นคนวิ่งไปแทนเรา”
นาฟ หลานสาวแพท – “คือวันนั้นนาฟอยู่สยามฯ พอพี่แพทโทรมาก็รีบขับให้ไวที่สุดเพื่อไปหาคุณยาย ตอนนั้นรู้เลยว่าสภาพจิตใจเขาแย่มากก็ทักไปบอกว่าเดี๋ยวเขาก็หาย เป็นกำลังใจ คือรู้ว่าเขารักยายมาก”
แพท – “คือต่อให้เบรกงานก็ไม่มีผลอะไร ทุกวันนี้การที่ไปโรงพยาบาลแพทก็เยี่ยมได้แค่นี้ สุดท้ายก็เป็นหน้าที่ของคุณหมอ เราไปก็ไปนั่งแล้วก็พูดกับแกได้แค่นั้น สุดท้ายเราก็ฝากความหวัง และอยากให้แกสู้ไปอีกสักครั้งหนึ่ง ตอนนี้ก็ให้กำลังใจกันเองในครอบครัว”

“แพทก็คุยกับคุณพ่อ คือถ้าเป็นก่อนหน้านี้แพทอาจจะเคว้งกว่านี้ แต่พอคุณพ่อกลับมาอยู่ด้วย เราก็เลยเหมือนมีคนให้คำปรึกษาว่าเราจะไปทางไหน เพราะเราเคยเจอเหตุการณ์อย่างนี้ตั้งแต่คุณปู่แล้วว่าจะปั๊มไม่ปั๊ม วันนี้มีครอบครัวอยู่ใกล้ๆ เราก็ช่วยกันคิด ช่วยกันตัดสินใจค่ะ”

ตอนนี้เรื่องความรักไม่คิดถึงแล้วใช่ไหม? “ไม่มีเวลาเลย แพทเอาลูกไปเยี่ยมคุณทวด พอเสร็จก็กลับเอาไอ้ตัวเล็กนอน เช้าไปส่งที่โรงเรียน งานเราก็แคนเซิลไม่ได้ คือละครคิวมันมาหมดแล้ว ทุกคนต้องมารอเรา เราก็คิดว่าเรารีบทำ รีบเสร็จ รีบกลับไปดูแม่”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7012122
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7012122