เจี๊ยบ กาญจนาพร ร้องไห้ เจย์ ศุภกาญจน์ สู้กับโรคไบโพลาร์เต็มที่แล้ว


ให้คะแนน


แชร์

และหลังจากที่เคลื่อนศพของ เจย์ ศุภกาญจน์ มาที่วัดธาตุทอง เพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ครอบครัวเจี๊ยบ กาญจนาพร, เจฟฟ์ พรภูมิ ปลอดภัย น้องชายคนเล็ก และ จั๊มพ์ กมลรัตน์ ปลอดภัย พี่สาวคนโต ก็ได้เปิดใจทั้งน้ำตาว่า 

เจี๊ยบ : เจย์เขาเป็นลูกชายคนกลาง ทุกคนเสียใจมาก

มีเหตุการณ์อะไรที่เป็นสัญญาณบอกก่อนมั้ย?

เจฟฟ์ : เขามีโรคประจำตัวอยู่ ก็รักษาตัวอยู่แต่สถานการณ์ต่างๆ มันไม่ค่อยดีขึ้นเท่าไร รวมถึงบ้านเมืองด้วย ก็สู้มาเต็มที่แล้ว

เจี๊ยบ : ทำให้ทุกอย่างมันแน่นไปหมดตั้งแต่โควิด เราก็ช่วยกันทุกอย่างเท่าที่เป็นสิ่งที่เขาสร้างขึ้นมา เพื่อที่จะประคองให้มันดีขึ้น แล้วก็ให้กำลังใจเขาว่าสิ่งที่เขาสร้างขึ้นมามันไปได้ แต่เขาก็อยู่ในอาการ

เขาเป็นโรคอะไรบ้าง?

เจฟฟ์ : เขาเป็นไบโพลาร์ ก็รักษามาด้วยตัวยาที่รักษา อยู่ไปนานๆ ความคิดมันก็จะเริ่มกลับคืนมา ความจำต่างๆ ที่เคยทำไม่ดี ไม่ถูกไว้ มันจะมีความรู้สึกผิดอยู่ในตัวเยอะ แล้วมันก็คิดวนๆ ไปทุกๆ วันเป็นเวลาจะ 2 ปี

เจี๊ยบ : เขารักษาโรคนี้มาจะเกือบ 2 ปีแล้ว จนเขาเข้าสู่ความสงบ นิ่ง เฉย แล้ว มันก็เป็นกระบวนการการใช้ยาของโรคนี้ตามสเตป

มันพัฒนาไปสู่โรคซึมเศร้ามาด้วย?

เจฟฟ์ : โรคมันขึ้นไปสู่จุดที่สูงที่สุดแล้วก็ลงมาจุดต่ำที่สุด (คือซึมเศร้า?) ครับ

เขามีปัญหาเกี่ยวกับธุรกิจหรืออะไร?

เจฟฟ์ : ถ้าพูดตามตรงตอนนี้ทุกคนก็มีปัญหาเกี่ยวกับธุรกิจกันหมดอยู่แล้ว เศรษฐกิจมันไม่ดี

เจี๊ยบ : แต่การจัดการของคนปกติเขาก็จะจัดการได้ แต่การจัดการของคนมีอาการมันแพ้…มันแพ้ (สะอื้น) ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทางครอบครัวเราก็ดูแลกันเต็มที่ เพียงแต่การก้าวเข้าไปอยู่กับเขา ประกบเขามันยากค่ะ

คนในบ้านจะรู้ว่ายากที่จะประกบอยู่ด้วยกันตลอดเวลา ได้แต่ชวนให้มาอยู่ด้วยกัน มาเป็นลูกน้อยของแม่ เขาก็บอกว่าได้เหรอ เราก็บอกได้ มาเลย แต่เขาก็เลือกของเขา

ก่อนที่จะมาบ้าน เขาไปอยู่กับแม่ตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย. ไปปฏิบัติธรรม คือมันไม่มีอะไรบอกเลย พอมันวิบมาก็วิบเลย ตอนที่เขาปฏิบัติธรรม พระอาจารย์บอกว่าเขาภาวนาดีมาก

เราพาทำทุกอย่าง วัดข้างบ้านที่บ้านโป่ง เราก็พาไปขอขมา ยกธูปเทียนแพ เขาบอกอันนี้อะไรแม่ เจย์ไม่รู้เรื่องอะไรเลยนะว่าอันนี้คือธูปเทียนแพ เอาไว้ขอขมา

พอเขารู้เขาก็บอกเอาๆ เขาก็ขอขมาพระอัฐิธาตุ แปะทองพระ ขอพรพระ ที่หนองเสือ แล้วก็มาที่บ้าน เขาก็ชี้พระแล้วถามว่าพระองค์นี้ชื่ออะไร เราก็บอก

เราก็นั่งบอกแล้วก็บอกเขาว่าเราสามารถขอขมาพระพุทธเจ้ากับพระพุทธรูปได้เลยนะ ช่วงปีใหม่ทำไว้ก็ดีเหมือนกัน ก็จะให้เขาทำสิ่งดีๆ ให้เสริมบุญเขา

แม่พยายามพาเขาพึ่งธรรมะ?

เจี๊ยบ : ก็ต้อง นิดๆ หน่อยๆ ก็ต้องเก็บ ก็ยังเป็นภาพจำที่ดีก่อนที่เขาจะเป็นแบบนี้ อย่างน้อยเขาได้เก็บ เขาได้ไปปฏิบัติกับองค์อริยะ เป็นศิษย์หลวงตามหาบัว ที่วัดที่ศาลายา ที่วัดก็ยังชม

พอจะออกจากวัดก็ไปถวายผ้าไตร เราบอกกับเขาว่าทุกปีเราควรจะถวายผ้าไตรนะ เขาก็ยินดีถวาย พระท่านก็บอกว่าผ้าไตรจะเก็บไว้ให้ลูกชาย ลูกชายต้องบวช เขาบวช

แม่อยากให้เขาบวช?

เจี๊ยบ : ไม่ ทางวัดเขาบอกว่าเจย์จะบวช

เจฟฟ์ : เขาอยากจะบวชเองครับ

เจี๊ยบ : เราก็ตอบไปว่าเจ้าค่ะ เราดีใจ นั่นคือสิ่งที่เขาได้เก็บก่อนที่จะมีวันนี้

ตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ปี ที่เจย์ต้องต่อสู้กับโรค เขามีกำลังใจมากแค่ไหน?

เจฟฟ์ : มันเต็มที่แล้วครับ เราก็คุยกันอยู่เรื่อยๆ ให้กำลังใจกันมาเรื่อยๆ คอยพูดคอยบอก คอยอะไรต่างๆ เราเองก็ศึกษาเยอะ อ่านเยอะ พยายามกันอย่างเต็มที่ ตัวเขาเองก็สู้อย่างเต็มที่แล้ว

เจี๊ยบ : การพูดคุยกับเขา เราต้องหาข้อมูล โดยลูกชายจะเป็นคนหาแล้วมาถ่ายทอดให้แม่ว่าอันนี้บางทีต้องพูดอย่างนี้ มันเยอะ รายละเอียดมันเยอะมาก

มันอยู่ที่ตัวเขาด้วย ตัวเขาเองก็มีความดื้อมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว คิดว่าตัวเองแข็งแรง เขาเอาอยู่ ปรากฏว่าโรคนี้มันไม่ใช่ มันเป็นการหลั่งสารเคมีในสมองที่มันเอาไม่อยู่

นำร่างไปอัญเชิญดวงวิญญาณที่บ้าน?

เจี๊ยบ : เราก็สืบถามไปว่าควรทำยังไง เราก็ต้องทำ เพราะเขาจะเดินทางแล้วเราก็ต้องทำให้ถูกต้องทุกอย่าง หลังจากนี้ก็มีหน้าที่จิตภาวนาส่งให้เขารู้ถึงโทษทัณฑ์ เมื่อรู้แล้วก็หลุดจากโทษทัณฑ์ด้วยอะไร มันเป็นเรื่องของจิตภาวนา ไม่ใช่เรื่องของทำบุญทำทานแล้ว.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2375342
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2375342