ข่าวสดอาทิตย์ใส – ‘เวียร์’ในวัย37เพิ่งเริ่มต้น


ให้คะแนน


แชร์

‘เวียร์’ในวัย37เพิ่งเริ่มต้นหาสิ่งที่อยากทำ-วางเป้ามีความสุข

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

ข่าวสดอาทิตย์ใส

พลิกบทบาทต่างจากที่เคยแสดง ในละคร “กรงน้ำผึ้ง” สำหรับพระเอกเบอร์หนึ่งช่อง 7 HD ‘เวียร์’ ศุกลวัฒน์ คณารศ โดยประกบคู่นางเอกดาวรุ่ง ‘พระพาย’ รมิดา ธีรพัฒน์

วันนี้พระเอกดังได้มาเปิดใจถึงบทบาทในละคร รวมถึงการวางแผนชีวิตในวัย 37 ปี

เล่าถึงละคร กรงน้ำผึ้ง ให้ฟังหน่อย?

เวียร์ – “เป็นละครที่มีหลากหลายอารมณ์ กรงน้ำผึ้ง เหมือนเป็น กรงที่ขังความรู้สึกตัวละครแต่ละตัวไว้ มีเรื่องราวให้ติดตามตลอด เริ่มเรื่องด้วยใครฆ่าอากง มีตัวละครหลายตัวที่มีความน่าสงสัย เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรัก การสืบสวน และครอบครัว แนวละครมีทั้งโรแมนติกและดราม่า ผมมีโอกาสได้พลิกบทบาทพอสมควร เรื่องนี้จะนิ่งๆ ฉลาด เป็นเด็กกำพร้าสู้ชีวิต แต่จะมีความสับสนตรงที่สุดท้ายแล้วตัวละครนี้จะยอมทำเพื่อความถูกต้องหรือทำเพื่อผู้มีพระคุณ ส่วนพาร์ตความรักจะเป็นความรักที่เป็นไปไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้จะได้เห็นความแตกต่างในตัวละครที่ผมเคยเล่น เพราะเป็นอีกคาแร็กเตอร์หนึ่ง มีความยากอยู่ แต่ก็พยายามทำให้ดีที่สุด”

ร่วมงานกับพระพายเป็นยังไงบ้าง?

เวียร์ – “ถือเป็นครั้งแรกที่ร่วมงานกัน น้องมีความตั้งใจมากและเป็นนักแสดงที่มีความสามารถ เขาคล้ายๆ ผมคือมีความเป็นตัวของตัวเองสูง พอมาคุยกันในเรื่องที่เราสนใจก็ทำให้การทำงานค่อนข้างง่าย น้องเหมือนเด็กผู้ชาย มีความสนุก ความแกร่ง ทำให้การทำงานลุยๆ ในเรื่องนี้ง่ายขึ้น แล้วน้องทำออกมาได้ดีมาก การร่วมงานกับนางเอกที่เป็นเคมีใหม่ๆ จริงๆ ก็ไม่ได้เตรียมตัวอะไรเยอะ เราแค่ทำทุกอย่างให้ว่างเหมือนเริ่มนับหนึ่งใหม่ด้วยกัน”

อดแซวไม่ได้ว่าเป็นป๋าดันอีกแล้ว?

เวียร์ – “ใช่ๆ แต่จริงๆ มันช่วยส่งเสริมกันมากกว่า ผมก็ไม่รู้ว่าจะไปดันอะไรได้ขนาดไหน บางทีน้องก็ต้องช่วยเราด้วย ท้ายที่สุดการทำงานคือการที่เราอยู่ในซีนด้วยกัน นักแสดงทุกคนก็ต้องช่วยกัน เป็นตัวละครของตัวเอง เพื่อให้แต่ละซีนที่ออกมามันกลมและอิ่มที่สุด”

ยุคที่คนดูละครเปลี่ยนไป ในฐานะนักแสดงต้องเปิดโลกตัวเองด้วยไหม?

เวียร์ – “ผมก็พัฒนาตัวเองและเรียนรู้อยู่เสมอ ปัจจุบันทางเลือกมันค่อนข้างเยอะ แพลตฟอร์มต่างๆ เยอะขึ้น การเข้าถึงก็ง่ายขึ้น ยุคนี้คนอาจจะดูละครจากโทรศัพท์ บางทีก็ดูย้อนหลัง ซึ่งเราก็ปรับกันอยู่ตลอดเวลา แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้นพื้นฐานหรือฐานคนดูของเราจริงๆ ทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดก็ยังชอบดูละครทางทีวีอยู่ ผมเองก็หาอะไรใหม่ๆ ทำไปเรื่อยๆ เล่นในบ้านบ้าง เล่นนอกบ้านบ้าง เล่นหนัง ซีรีส์ ทำรายการ ตัวเองลงแพลตฟอร์มต่างๆ บ้าง เพื่อให้คนดูได้เห็นเรากว้างขึ้น”

รายการ Weircation ของเรา กระแสเป็นอย่างไรบ้าง?

เวียร์ – “จริงๆ มันเริ่มต้นจากความสนุก ไม่รู้หรอกว่าคนดูจะชอบรายการเรามากแค่ไหน แต่เราชอบไปเที่ยว ก็แค่เก็บบรรยากาศที่ไปมา กลับมาฝากทุกคนที่ชอบไลฟ์สไตล์เหมือนเรา ดูเป็นความบันเทิงเหมือนได้ไปเที่ยวด้วยกันกับเรา เรียกว่าเที่ยวจริงๆ ไม่ได้มีข้อมูลอะไรให้มากด้วย (หัวเราะ) อาจมีมุขขำๆ อะไรกันไป มันมีช่องทางไม่มากเท่าไหร่ที่แฟนๆ จะได้เห็นความเป็นตัวตนของเรา รายการนี้ก็จะได้สัมผัสความเป็นเราผ่านไลฟ์สไตล์ของเรา”

ทำรายการมาระยะหนึ่งแล้ว มองตัวเองเป็นยูทูบเบอร์หรือยัง?

เวียร์ – “เรียกว่าเป็นน้องใหม่มาก ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเลย พอเริ่มมี สปอนเซอร์เข้ามาก็แบบจะต้องทำยังไงเนี่ย มันเริ่มดูจริงจังขึ้นมานิดหนึ่ง แต่เป็นความโชคดีที่เราก็ยังคงทำเหมือนเดิมนั่นแหละ เพียงแต่เวลาที่เรามีลูกค้าเข้ามาก็จะมาในรูปแบบที่เป็นไลฟ์สไตล์ของเราเลย แต่ผมไปดูรายการท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่ค่อยเห็นเขามีสปอนเซอร์กัน หรือเขาทำกันได้เนียนมากจนเราไม่รู้ (หัวเราะ) ส่วนแพลนการทำรายการเพิ่ม กำลังอยู่ในช่วงดำเนินการ คล้ายๆ รายการเดิมแต่มีสาระขึ้นมาเป็นเรื่อง เป็นราวให้มีคอนเทนต์จริงๆ ขึ้นมา แต่ก็ยังเป็นไลฟ์สไตล์ของเราอยู่”

ล่าสุดเห็นทำบุญขึ้นบ้านใหม่ที่เขาใหญ่?

เวียร์ – “อันนี้เป็นบ้านสวนหลังเล็กๆ เป็นบ้านไม้แบบบ้านคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายที่ต่างจังหวัด พอนึกถึงวัยเด็กเราก็อยากมีบ้านแบบนั้นบ้างเผื่อไปพักผ่อน แล้วเราก็ไปปลูกป่าปลูกอะไรไว้เต็มเลย ก็รอดูมันโต ถูกๆ ครับไม่แพง จริงๆ ผมไปดูแบบมาจากบ้านของเพื่อนแล้วมาปรับนิดหน่อยให้เข้ากับพื้นที่ กุญแจไม่มีนะ ไปได้เลย เพราะในบ้านไม่มีสิ่งมีค่าอะไร ทุกอย่างเตรียมกันไปเองพวกถุงนอนเพราะอากาศหนาวมาก อยู่ได้แบบอากาศเย็นทั้งวัน ลมพัดตลอด เป็นบ้านรับแขกเลย ต้นไม้ที่ปลูกก็ปลูกเอง เป็นพวกไม้เศรษฐกิจ รวมๆ กันกับพวกผลไม้ แล้วก็ไม้เนื้ออ่อนไม้เนื้อแข็งที่ปลูกแล้วเป็นป่า ปลูกตั้งแต่ต้นเล็กๆ ตอนนี้มันเริ่มโตขึ้น พอเราเห็นก็ดีใจ”

นอกจากที่เขาใหญ่มีที่อื่นอีกไหม?

เวียร์ – “จุ๊ๆๆ เยอะครับ 77 จังหวัด (หัวเราะ) แอบไปซื้อไว้เล็กๆ เวลาเจอที่ที่น่าสนใจ หรือใครอยากขายเราก็ซื้อเก็บไว้นิดๆ หน่อยๆ แต่บางแปลงก็ยัง ไม่ได้ทำอะไร ก็ซื้อเสียภาษี ผมเป็นคนชอบดูที่มาก จะ ขับรถไปทั่วเลย เวลาไป ถ่ายละครหรือไปไหนก็จะ ขับรถวนเข้าซอยโน้นซอยนี้ เหมือนเราเห็นไกลๆ ตรงนั้นสวยจัง อย่างเขาใหญ่ไปไม่รู้กี่ร้อยรอบแล้วก็ไปซื้อมาหลายรอบ บางทีซื้อปั๊บ ไม่ได้ไปอยู่ จู่ๆ มีคนอยากได้ก็ขายได้กำไรอีกนะ ก็ดูไปเรื่อยๆ ตรงนี้ชาวบ้านบอกคุณเวียร์ช่วยหน่อย ผมก็ซื้อ เวลาเจอที่สวยๆ ก็ซื้อเก็บไว้”

“ล่าสุดสุราษฎร์ธานี ทำสวนทุเรียน ผลผลิตจริงๆ ได้มาหลายปีแล้ว แต่ผมเพิ่งมาเป็นเจ้าของปีนี้ เพราะเพื่อนมีหลายแปลง แล้วเขามีปัญหาต้องใช้ตังค์แล้วก็ดูแล ไม่ไหวด้วย เลยแบ่งให้ส่วนหนึ่ง เราเลยเอาเพราะชอบไปสุราษฎร์ฯ อยู่แล้ว คือเราชอบไปดำน้ำที่นั่น เวลาไป ก็จะได้ไปดูสวนทุเรียนและไปดำน้ำด้วย ซื้อไว้ทั้งหมด 8 ไร่ นอกจากทุเรียนก็มีเงาะ ลองกอง มะม่วงเบา แล้วมีไม้ตะเคียนไม้พะยูงที่ปลูกแซมๆ ไป”

อยากบอกอะไรกับตัวเองในวัย 37 ปีตอนนี้บ้าง?

เวียร์ – “มันเป็นวัยที่เราต้องเริ่มชัดเจนในเรื่องไลฟ์สไตล์ต่างๆ ผมโชคดีอย่างหนึ่งที่ประสบความสำเร็จในช่วงวัยที่ยังเด็กอยู่ พอมาอยู่ในจุดนี้ก็มีประมาณหนึ่งไม่ได้ลำบาก เลยรู้สึกว่าได้ใช้ชีวิตของเราเร็ว เที่ยวเร็ว ซื้อที่เร็ว สร้างบ้านเร็ว เริ่มมีความมั่นคงเร็ว พอมาถึงจุดที่มองว่าตัวเองมีทุกอย่างแล้วจึงได้คิดว่าแล้วมันยังมีความสุขไหม ตอนนี้เลยเป็นวัยที่หาคำตอบให้ตัวเองอยู่ รวมถึงว่าแล้วหลังจากนี้จะไปยังไงต่อ ปรากฏว่าผมไป ต่อได้ มีอะไรให้ทำอีกเยอะเลย”

ความสุขตอนนี้ไปในทิศทางไหน?

เวียร์ – “พักผ่อนและหางานที่อยากทำจริงๆ ก็เลือกประมาณหนึ่ง เราโตแล้วด้วย แต่ก็ยังมีหลายอย่างที่เป็น เรื่องท้าทายและสนุกในชีวิตอยู่ ผมเพิ่งได้คำตอบว่าอายุ 37 มันเพิ่งเริ่มมากๆ เมื่อก่อนคิดว่า 30 คือเพิ่งเริ่ม เมื่อก่อนกลัวว่าอายุ 37 ต้องเล่นเป็นพ่อ แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว ทุกอย่างเปลี่ยนไป แพลตฟอร์มหรือช่องทางต่างๆ มีให้นักแสดงในวัยผมโลดแล่นมากกว่าเดิม เดี๋ยวนี้ผมไม่อยากใช้คำว่าตัวเองเป็นพระเอกแล้ว อยากเปลี่ยนให้นักแสดงที่อยู่ในละครแต่ละเรื่องเป็นคำว่านักแสดงนำแทน เพราะตัวละครอื่นๆ ก็มีความสำคัญพอๆ กับเรา”

พอเจอทางไปได้เยอะแบบนี้ทำให้เส้นทางในวงการของเรายาวขึ้นด้วยไหม?

เวียร์ – “อยู่เป็นร้อยปี (หัวเราะ) ผมว่าทุกคนยังไปได้หมดแหละ แต่ก็ต้องมีวิธีการของแต่ละคนที่จะไป ถามว่ามองเรื่องเกษียณไว้บ้างไหม จริงๆ ผมพูดกับตัวเองว่า ผมเกษียณไปนาน แล้ว ทุกวันนี้ผมทำงานสบายๆ ทำที่อยากทำ เงินก็อยากได้แหละ ถ้าจะพูดอย่างเข้าใจง่ายก็คือไม่ได้ ร้อนเงิน ไม่ได้มีภาระอะไร แต่งานแสดงยังเป็นอาชีพที่สนุก”

เคยคิดไหมว่าตัวเองจะทำงานในวงการมาได้นานขนาดนี้?

เวียร์ – “เมื่อก่อนคิดไว้ 2 แบบ แบบแรกคิดว่าระยะเวลาในการทำงานนักแสดงมันสั้น เต็มที่ 5 ปี 7 ปี ด้วยความที่เคยเห็นว่าบางคนรีไทร์เร็ว แต่เราก็มีความคิดอีกครึ่งหนึ่งว่าถ้าเรามองว่ามันเป็นอาชีพหนึ่งมันต้องอยู่ได้ยาวสิ ในเมื่อเราเลือกจะทำอาชีพนี้แล้ว ประจวบเหมาะกับทุกอย่างมันพัฒนา ไม่อย่างนั้นก็แย่เหมือนกันถ้ายังเป็นแบบเดิม วันนี้ก็อาจจะไม่ได้ทำแล้วก็ได้”

เป้าความสำเร็จของเวียร์คืออะไร?

เวียร์ – “ชื่อเสียงก็ดีเพราะเป็นอะไรที่ต่อเนื่องกัน สำหรับผมแล้วเป้าหมายมันคงพูดลำบาก ผมแค่อยากมีความสุข อยากให้คนที่อยู่รอบข้างมีความสุข พอเราโตขึ้นก็เหมือนคัด ทุกอย่าง กลายเป็นเหลือไม่กี่อย่างเองที่เราทำ เหลือเพื่อนไม่กี่คนเองที่เราคบ แต่ก็มีความสุขตลอด อาจเพราะเราคิดแง่บวกด้วยมั้ง สบายๆ ใช้ชีวิตเรื่อยๆ ชื่อเสียงคือรางวัลที่เราได้มาจากความตั้งใจทำงานนั่นแหละ”

“ส่วนเรื่องการสร้างครอบครัวต้องมีอยู่แล้ว ผมอยากมีชีวิตครอบครัวที่เรียบง่ายมีความสุข เรื่องแบบนี้พูดง่ายแต่พอเป็นชีวิตครอบครัวชีวิตคู่มันก็ยาก ผมเลยไม่ค่อยมองตรงนั้นแบบตั้งใจจริงจัง ปล่อยให้เป็นตามธรรมชาติ แต่เราก็ต้องปรับ เพราะบางทีด้วยความที่ตัวเราเป็นวันแมนโชว์มาตั้งแต่เด็ก อยู่คนเดียว โตมา คนเดียว ฉะนั้นเราต้องเรียนรู้การที่จะอยู่แบบครอบครัว”

นิยามความรักในวัยนี้?

เวียร์ – “ความรักในวัยนี้เป็นช่วงเวลาที่เราต้องให้และได้รับแบบพอดีๆ โอเคเราโตขึ้นก็ต้องใจเย็นขึ้นด้วย รวมถึงยอมรับผิดและให้อภัยได้ง่ายขึ้นกว่าแต่ก่อน”

กว่าจะถึงจุดนี้ต้องผ่านการกลั่นกรองอะไรเยอะไหม?

เวียร์ – “จริงๆ ระยะเวลาที่ผ่านเรื่องราวต่างๆ มา ไม่ใช่ทุกคนจะตกตะกอนกับเรื่องราวพวกนี้ได้ บางคนแก่ขึ้นมาโดยไม่มีเลยด้วยซ้ำ แต่บางคนก็ได้เรียนรู้ ผมเองก็สนใจบ้างไม่สนใจบ้าง เอาสิ่งพวกนี้มาเป็นบทเรียน เมื่อก่อนบางเรื่องมองเป็นเรื่องใหญ่มาก แต่ตอนนี้จัดการได้ไม่เป็นไร ความทุกข์มันมีแทรกเข้ามาบ้างแต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อีกต่อไปแล้ว”

จิรณัฏฐ์ จงประสพมงคล

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7013045
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7013045