ชีวิตมันเหนื่อย! “ก้อง สหรัถ” เผยสาเหตุไม่รับละคร 20 ปีในวงการไม่เคยได้พัก

ให้คะแนน

แชร์

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

ตัดสินใจกลับมารับละครอีกครั้ง สำหรับนักร้อง-นักแสดง ก้อง สหรัถ สังคปรีชา หลังจากก่อนหน้านี้ ปฎิเสธงานแสดงไม่ยอมเล่นเรื่องไหนเลยมาตลอด 6 ปี

ล่าสุด (29 เม.ย.) ในงานบวงสรวงซีรีส์ฟอร์มยักษ์ “Find Yourself หารักฉันด้วยใจเธอ” ที่หน้าตึก GMM GRAMMY ซึ่งเป็นซีรีส์เรื่องล่าสุดของเจ้าตัว ก้องได้ให้สัมภาษณ์ถึงการการกลับมารับซีรีส์อีกครั้ง และสาเหตุอะไร ถึงห่างหายไปจากงานแสดง

คัมแบ๊กงานละครในรอบหลายปี?
“จำไม่ได้เลยครับ แต่เกิน 5-6 ปีขึ้นไปแน่นอน ซึ่งถ้าถามว่าอะไรทำให้ผมกลับมา เอ่อ…นั่นน่ะสิ ก็คงเป็นเพราะโดนรบเร้าแหละ โดนชวน โดนสารพัด เราก็เลยแบบว่าใจอ่อน ทั้งๆ ที่ตอนแรกเราก็นะ อยากจะพักแล้ว อยากจะเบาๆ แล้ว แต่พอโดนกดดันมาทุกทางก็เลยโอเคก็ได้ ลองดู”

อะไรทำให้เรารู้สึกว่าอยากพักการแสดง?
“มันเหนื่อยครับ จริงๆ ก็คือ ผมทั้งเล่น ทั้งเสิร์ฟ ทั้งถ่ายรายการ เป็นโค้ช เป็นกรรมการ คือเดือนหนึ่งมันทำงาน 20 กว่าวันแล้วอ่ะ เลยคิดว่าอันไหนที่เบาได้ก็เบาสักหน่อยดีกว่า”

แสดงว่าที่ผ่านมาเราแทบไม่มีเวลาพักร้อนหรือพักผ่อนเลย?
“น้อยครับ น้อย เพราะผมก็จะมีทั้งงานเล่นดนตรี เล่นคอนเสิร์ต ถ่ายรายการ ถ่ายซิตคอม คืบยิบย่อยตลอด ตกเดือนๆ หนึ่งก็ 20 กว่าวันแล้ว ผมเลยคิดว่าถ้าหากผมยังรับละครจริงจังแบบนี้อีก สุดท้ายมันก็จะเข้าลูปเดิม ซึ่งสาหัสอ่ะ”

การทำงานหนักติดๆ กันแบบนี้ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพบ้างไหม?
“มีครับ มันก็เหนื่อย พักผ่อนน้อย นอนน้อย ความสดใส ความจำ ยกตัวอย่างเช่น เวลาที่ผมถ่ายละครเสร็จปุ๊บ 5 ทุ่มผมต้องไปเล่นดนตรีต่อ ซึ่งพอไปถึงตรงนั้นจริงๆ มันก็หมดแรงแล้วไง ผมก็เลยคิดว่าคงต้องเพลาๆ งานละครลงบ้าง”

ใช้ชีวิตวนลูปแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว?
“ถ้านับก็เป็น 20 ปีเลยครับ ตั้งแต่ช่วงละครแรกๆ เลย ยาวมาเลย มันเหมือนนาฬิกาชีวิตพัง เหมือนเราใช้ร่างกายมากเกินไป ก็เลยอยากจะเพลาๆ ลงนิดหนึ่ง”

จุดที่ทำให้ตัดสินใจว่าอยากพักเกิดจากอะไร?
“มันเหนื่อยครับ สมมตินะ แบบว่าถ่ายละครเช้า 3-4 วันติดต่อกัน กลางคืนเล่นดนตรี อีกวันถ่ายรายการ อีกวันละคร และก็ดนตรี เลิก 3 ทุ่ม เลิกตี 1 เลิกเที่ยงคืน บางทีมันก็ไม่ไหว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับงานละครที่เป็นงานใช้ความจำ ผมก็รู้สึกนะว่าเวลาที่ผมนอนไม่พอ มันเหมือนผมมาแต่ร่าง ส่วนพวกความจำ สมอง ความสดใส หรือแม้กระทั่งแววตา มันไม่มาเลย”

เคยเหนื่อยถึงขนาดที่ต้องเข้าไปเช็กร่างกายเลยไหม?
“ไม่ขนาดนั้นครับ แค่เป็นเรื่องของความรู้สึกมากกว่า แบบที่เรารู้สึกเหนื่อย รู้สึกเพลีย”

ระยะเวลาที่เราใช้ร่างกายหนักสุดสะสมกันคือกี่วัน?
“3-4 วัน ติดต่อกันครับ สมมติว่าละครนัด 8 โมง เลิก 4 ทุ่ม จากนั้น 5 ทุ่มครึ่งอยู่โรงเบียร์ เลิกมาเที่ยงคืนครึ่ง นอนไปตี 2 และต้องตื่นมาอีกที 8 โมง เพราะกองละครนัด จากนั้น 3 ทุ่มครึ่งก็มีคอนเสิร์ตอีก ซึ่งพอเราต้องทำอะไรแบบนี้ 3-4 วันติดต่อกัน วันที่ 4 ผมก็จะคุยอะไรกับใครไม่รู้เรื่องแล้วนะ”

ก็เลยเป็นเหตุผลที่ผลที่ทำให้เราอยากเบรก?
“ใช่ครับ”

ทุกวันนี้เริ่มบาลานซ์ชีวิตได้ดีขึ้นแล้วหรือยัง?
“ดีขึ้นครับ ครั้งนี้ก็เลยกลับมารับงานละครอีกครั้ง”

เพราะสถานการณ์โควิด-19 ด้วยไหม?
“พอมีโควิด-19 นี่แหละชีวิตเบาลง คอนเสิร์ตหายหมด (หัวเราะ) ก็ได้พัก ได้ดูแลตัวเอง มีเวลาเจอกับคุณแม่ ได้พาคุณแม่ไปเที่ยว มีวันสบายๆ ได้พักผ่อนอยู่บ้าน”

20 ปี กว่าเราจะได้มีโอกาสได้ใช้ชีวิตแบบนี้?
“โควิดช่วย (หัวเราะ) ก็เหมือนได้พักอ่ะ งานทุกอย่างก็แทบจะหยุดหมดเลย ได้หายใจหายคอ”

ยังเป็นกรรมการ The Voice ?
“ใช่ กำลังจะกลับมาแล้ว ซีซั่นพิเศษกำลังจะกลับมาครับผม”

หลายคนที่เป็นโค้ชมักบอกว่ามีความกดดัน ตัวเราเองมีเคล็ดลับเรื่องการรับความกดดันยังไง?
“เราก็แค่สนุกไปกับมันนะ ผมไม่เคยรู้สึกเลยว่าจะต้องซีเรียส เพราะจริงๆ แล้วมันก็คือรายการร้องเพลงที่สนุก และเราก็แค่ตั้งใจทำมันให้สนุก ทำให้ดีที่สุด ให้มันยุติธรรมที่สุดก็พอ และถ้าเราตั้งธงไว้แบบนี้ สุดท้ายต่อให้ผลมันออกมายังไง เราก็ถือว่าเราทำดีที่สุดแล้ว”

The Voice กลับมาครั้งนี้ต้องดุเดือด?
“โห…เดือด เพราะว่าเราจะเอาคนเก่งๆ ที่เคยแข่งมาแล้วกลับมา เรียกว่าทีเด็ดครับ สนุกแน่นอน โค้ชทุกคนตัวเด็ดๆ ก็กลับมาทำงานกันอีก”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7024425
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7024425