คิมเบอร์ลี่ เล่าโมเมนต์ หมาก ขอแต่งงาน รู้สึกช็อกเหมือนภาพในความฝัน (คลิป)


1/5 - (1 vote)


แชร์

บรรยากาศวันที่ถูกขอแต่งงานเป็นยังไงบ้าง?

“โมเมนต์นั้นยาวนิดหนึ่งนะ (หัวเราะ) คือจริงๆ เพื่อนๆ ก็ถามก่อนหน้าแล้วแหละว่าเขาจะขอไหมทริปนี้ แต่ตัวคิมเอง คิมรู้สึกว่าไม่น่าจะใช่ทริปนี้แน่นอน เพราะถ้าจะขอจริงๆ ก็อาจจะเป็นประเทศไทยที่มีเพื่อนๆ ทุกคนอยู่ ดังนั้นมันคงไม่มีทางเกิดขึ้น และทางนั้นเขาก็ไม่ได้ส่งสัญญาณอะไรมาเลยด้วย

แต่ก็เห็นอยู่บ้างค่ะ เห็นว่าอาการเขาแปลกๆ อย่างเช่น ตอนที่คิมกำลังแต่งตัวเพื่อออกไปกินข้าว เขาก็มาเร่งคิม แล้วด้วยความที่ตัวคิมเองโมโหหิวอยู่แล้ว คิมก็เลยหงุดหงิดว่า ทำไมเขาถึงได้มาเร่งอะไรขนาดนั้น (หัวเราะ) ก็เลยแอบหงุดหงิดด้วยวันนั้น

จากนั้นพอแต่งตัวเสร็จออกมาจากโรงแรม เขาก็พาคิมเดินอ้อมอีก เพราะเขาหาที่ที่เขาเตรียมจะเซอร์ไพรส์ไว้ไม่เจอ นาทีนั้นคิมก็เลยแบบว่ายิ่งหงุดหงิดขึ้นไปอีก ทำไมไปกินข้าวก่อนไม่ได้เหรอ (หัวเราะ) กระทั่งไปถึงเขาก็บอกว่า เขาขอถ่ายรูปที่นี่ก่อน ถ้าถ่ายเสร็จแล้วจะไปกินข้าวทันที คิมก็โอเค

ซึ่งการถ่ายรูปของเราอ่ะ มันจะเป็นการถ่าย Reels ในลักษณะที่แบบทั้งสองคนจะวิ่งเข้าหากันในทุกสถานที่ และก็จะเปลี่ยนแต่ละที่ตามที่ที่เราไป ซึ่งตรงนี้มันคือจุดสุดท้ายแล้ว จากนั้นพอเราเริ่มวิ่งปุ๊บ เขาก็ขอเลย (ยิ้ม)”

จังหวะนั้นความรู้สึกเราเป็นยังไง ใจเต้นแรงเลยไหม?

“รู้สึกเหมือนฝันอะ นี่มันคือเรื่องจริงเหรอ ช็อกมาก และตัวเขาเองก็แทบไม่พูดอะไรเลย แต่เท่าที่คิมได้ยินมันเหมือนเขาบอกว่า ไม่มีที่ไหนเหมาะที่เหมาะไปกว่าที่นี่แล้ว และหลังจากนั้นทุกอย่างวูบหายไปเลย เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในฝัน เหมือนทุกอย่างไม่ใช่ความจริง ทั้งสถานที่ ทั้งอะไรต่างๆ มันเกินจริง”

นาทีนั้นก็คือหายหิวข้าวไปเลย จากที่เดินหงุดหงิดมานาน?

“รู้ไหมว่าวันนั้นไม่ได้กินข้าวเลย มากินอีกทีตอน 5 โมงเย็น เพราะว่าวันนั้นร้องไห้หนักมาก (หัวเราะ) จริงๆ รูปดีๆ มันก็มีเยอะนะ แต่มันผิดที่หน้าคิม เพราะหน้าคิมคือแบบ ฮือ ฮือ (หัวเราะ)”

ทุกอย่างมันเหมือนภาพในฝันเราเลยไหม?

“คิมคิดว่าถ้าเขาจะขอมันคงไม่ใช่ที่นี่ ตัดที่นี่ออกไปได้เลย และบวกกับการที่ ญ่า กับ พี่แบร์ มาเซอร์ไพรส์อีก คือเขาโกหกคิมว่าอยู่นอร์เวย์ ดังนั้นคิมเลยไม่คิดว่าจะมีใครมา และพอวินาทีที่ได้เห็นหน้าญ่า คิมเลยแบบว่านี่คือความจริงเหรอ”

เราได้ถามหมากไหม ว่าเขาเตรียมแผนนี้มานานแค่ไหน?

“เขาบอกว่าเขาเตรียมมาประมาณ 1 เดือนแล้วค่ะ และที่เขาเลือกวันนั้นก็เป็นเพราะว่ามันคือวันอีสเตอร์ ซึ่งเป็นวันที่มีความเชื่อว่าเป็นวันแห่งการเริ่มต้นใหม่”

แหวนเพชรไซส์ตู้มต้ามมาก?

“ไม่ค่ะ ภาพมันใกล้ (หัวเราะ) แต่เอาจริงๆ โมเมนต์นั้นไม่ได้สนใจแหวนเลย จะเด็ดดอกหญ้ามาก็คือแบบ (เขิน) ไม่ได้สนใจอะไรเลยค่ะ มันเหมือนเราฝัน มันเหนือความคาดหมายทุกอย่าง”

เราได้ให้อะไรเขาบ้างหรือยัง?

“มีค่ะ ก็กำลังสั่งทำอยู่ สั่งทำพิเศษ คือคิมคิดว่าจะให้ไว้ 2 วง วงหนึ่งเอาไว้ใส่คู่กันในช่วงที่ยังไม่แต่ง และอีกวงก็ไว้ใส่ในวันแต่งงาน”

วางแพลนเรื่องงานวิวาห์ไว้ยังไงบ้าง?

“ไม่มีเลยค่ะ (หัวเราะ) แต่ก็ได้คุยแล้วนิดหนึ่ง ซึ่งอันดับแรกที่ต้องทำก็คือ ต้องนัดอาจารย์ให้ได้ก่อน ซึ่งตอนนี้คิวไม่ได้เลย”

แสดงว่าปีนี้ไม่น่าได้?

“ปีนี้ไม่น่าได้เพราะเราทำงานกันเยอะมาก แต่ก็คิดไว้แล้วแหละว่าปีหน้าค่อยว่ากันอีกทีหนึ่ง”

ณ วันนี้ตัวเราเองพร้อมแล้วหรือยัง เราเป็นว่าที่เจ้าสาวแล้วนะ?

“จริงๆ ก็ (หัวเราะ) มันรู้สึกเหมือนแบบ เหมือนนับ 1 ใหม่นะ มันสวยงามกว่าการเป็นแฟนด้วยซ้ำ ถ้าเป็นฝรั่งเขาก็จะเรียกว่า fiance (คู่หมั้น) แต่คิมเองก็ยังไม่ชิน”

เราจะฝากชีวิตไว้กับเขาแล้ว?

“เขาก็เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตคิมมาตั้งนานแล้ว เป็นคนในครอบครัวคิมมาตั้งนานแล้ว แค่ตอนนี้สถานะของเรามันอาจจะมั่นคงขึ้น สบายใจขึ้นที่มีเขาใกล้ขึ้น”

สำหรับฤกษ์การเตรียมงานต่างๆ ต้องรอปีหน้า?

“ก็อาจจะอย่างนั้นค่ะ ตอนนี้หลายอย่างมาก”

เริ่มเคลียร์งานไว้บ้างแล้วหรือยัง?

“ยังเลยค่ะ เนื่องจากว่าเรายังไม่มีวัน คือสมมติถ้าถึงวันหนึ่งที่เราจะต้องแต่งงาน เราเองก็อยากจะมีความสุขในวันนั้นให้ได้มากที่สุด เราไม่อยากเหนื่อย เราอยากเต็มที่”

มีอะไรอยากบอกกับแฟนๆ ที่ลุ้นคู่เรามาตลอดไหม?

“คิมเห็นคอมเมนต์แล้วนะคะ คอมเมนต์เยอะมากๆ เลย ก็ต้องขอบคุณที่ทุกคนเป็นกำลังใจให้คู่เรา และก็เชียร์คู่เรามาตลอด (ยิ้ม)”.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2381350
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2381350