รีเทิร์นความฟิน คิมม่อน-คอปเตอร์ อยู่กันมา 5 ปี แค่มองตาก็เข้าใจ


ให้คะแนน


แชร์

เรียกว่าเป็นข่าวดีต้อนรับแฟนคลับของ #คิมคอป เลยทีเดียว กับการกลับมาเล่นซีรีส์ด้วยกันอีกครั้งของ 2 หนุ่มคู่จิ้น คิมม่อน วโรดม เข็มมณฑา กับ คอปเตอร์ ภานุวัฒน์ เกิดทองทวี ใน “That’s my candy นาย…แคนดี้ของฉัน” ซีรีส์วายเรื่องใหม่แกะกล่อง งานนี้รับรองเลยว่าแฟนคลับของ #ขุนขิมมอญ และ #CTRPANUWAT ต้องฟินอย่างแน่นอน 

ล่าสุด บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พูดคุยกับ คิมม่อน วโรดม และ คอปเตอร์ ภานุวัฒน์ เห็นได้ชัดถึงความสนิทสนมกันของคู่นี้ อีกทั้งยังบอกต่อว่า เป็นการกลับมาทำงานด้วยกันเป็นเรื่องที่ 4 แล้ว ทุกอย่างไม่ต้องปรับเปลี่ยนใดๆ แค่มองตาก็เข้าใจกันทีเดียว 

คิมม่อน “มันเป็นการทำงานร่วมกันครั้งแรกของเพื่อนๆ หลายคนเลยครับ แต่เป็นการร่วมงานกันอีกครั้งของ คิมกับคอปเตอร์ สำหรับเรื่องนี้ผมจะได้รับบทบาทแปลกใหม่ก็คือปกติ คิม จะเล่นเป็นรุ่นน้องของ คอปเตอร์ ตลอดเลย แต่ครั้งนี้เราเล่นเป็นพี่ที่มีอายุมากกว่าคอปเตอร์ แล้วคิมก็จะเล่นเป็นบุรุษพยาบาลที่มีอายุมากกว่า คอปเตอร์ ส่วนบรรยากาศการทำงานสนุกมากครับ ซึ่งจะมีเพื่อนในกองเยอะมากเลยครับ เพราะทุกคนพูดเก่งหมดเลย”

คอปเตอร์ “สำหรับเรื่องนี้จะเป็นการพลิกบทบาทของผม จากที่เคยแสดงมาเลย เรื่องนี้ผมจะเล่นเป็นรุ่นน้องที่ติดแฟน มีความขี้งอน สะดีดสะดิ้งเล็กๆ ในตัวละครในเรื่องผมเล่นเป็น จิ้ง ที่กำลังทำธีสิส ส่วนแฟนเราชื่อพี่กาย เป็นบุรุษพยาบาล เขาจะยุ่งกับการช่วยคนไข้ ช่วยเหลือคนเจ็บ ทำให้ทั้ง 2 คนไม่ค่อยมีเวลาให้กันครับ”

คิม-คอป แค่มองตาก็รู้ใจ

คิมม่อน “สำหรับคิมคอป เราเล่นซีรีส์เรื่องนี้ถ้าหลักๆ เลย น่าจะเป็นเรื่องที่ 4 ครับ”

คอปเตอร์ “ถามว่าต้องมีการละลายพฤติกรรมมั้ย ไม่ต้องเลยครับ คือมันจะมีการเรียนรู้ตัวละครต่างๆ เราเจอกันมานานแล้วครับ 5 ปีที่เราอยู่ด้วยกันมาโดยตลอด เพราะฉะนั้นเราจะรู้ใจกัน เข้าขากันได้ดีมากๆ ครับ เหมือนมองตากันแล้วรู้เลยว่าคนนี้กำลังรู้สึกอะไร คิดอะไรอยู่ 

อาจฟังแล้วดูเหมือนเว่อร์นะครับ แต่อันนี้มันคือเรื่องจริง เรารู้ใจกันมากถึงขนาดที่ว่า สมมติว่าผมอาจจะเครียดอยู่ หรือคิดอะไรมากๆ อยู่ พี่คิมเขาจะรู้ครับ สมมติว่าพี่คิมเขากำลังเครียดกับบท หรือพะวงกับบทอยู่ ตื่นเต้นกับบท ผมก็จะรับรู้ได้ทันทีเลย”

คิมม่อน “จริงๆ แล้วหลักการเล่นคู่กัน มันคือการที่เราต้องจินตนาการในเหตุการณ์นั้นๆ เรารักกันนะ เราเป็นแฟนกันจริงๆ นะ กับ คอปเตอร์ นี่มันทำง่ายๆ มากครับ ผมแค่เดินไปบอกน้องแล้วเราก็เล่นได้เลย เพราะเราสนิทกันอยู่แล้ว มันไม่ต้องละลายพฤติกรรมกันมากครับ

เลยทำให้เราแสดงด้วยกันง่ายครับ ถ่ายแต่ละซีนก็ผ่านไปได้อย่างรวดเร็ว แล้วแฟนๆ ก็เห็นผลงานของเรามาในหลายๆ เรื่องครับ เรื่องนี้ก็จะเป็นอีกเรื่องที่มีความสัมพันธ์แตกต่างออกไป เราจะเล่นเป็นแฟนกันตั้งแต่ต้นเรื่องเลย แล้วก็ทะเลาะกัน ก็จะเป็นอีกหนึ่งมุมมองครับ”

กระแสแรงตั้งแต่เปิดตัวฟิตติ้ง

คอปเตอร์ “ดีใจครับ การติดเทรนด์เป็นอะไรที่เรารู้สึกแฮปปี้ครับ มันถือว่าเป็นผลตอบรับที่แฟนๆ รอคอย พอเราเห็นการตอบรับแบบนี้ ผมก็เชื่อว่านักแสดงทุกคนที่เล่นเรื่องนี้ ก็อยากจะทำผลงานออกมาให้ดีที่สุดเท่ากับที่แฟนๆ เขารอคอยนะครับ ต้องขอขอบคุณแฟนๆ ทุกคนจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นแฟนคลับใครก็ตามที่ซัพพอร์ต ช่วยกันเล่นเทรนด์ครับผม จนติดเทรนด์ขึ้นมา พวกผมก็ใจฟูมากครับ หวังว่าตัวผลงานจะโดนใจทุกคนครับ”

คิมม่อน “จริงๆ แล้วความที่ติดเทรนด์ หรือแฮชแท็ก ที่เขาซัพพอร์ต ดันให้เราไปอยู่หน้าฟีดตลอด ตกคนอื่นเข้าด้อมเรา หรือว่ามาดูซีรีส์ของเรา เราก็ยังขอบคุณและชื่นใจทุกครั้งที่มีแฟนๆ อยู่ข้างกาย ทุกๆ ครั้งที่เรามีเรื่อง หรือผลงานอะไรก็ยังมีแฟนๆ อยู่เคียงข้างเราเสมอครับ อันนี้เป็นสิ่งที่เราขอบคุณเสมอมาครับ ส่วนหน้าที่เราก็ต้องตั้งใจทำงานในสิ่งที่ได้รับมอบหมาย แล้วก็มอบความสุขกับแฟนคลับครับ

ส่วนเรื่องนี้น่าจะเป็นอีกหนึ่งความสุขที่มอบให้กับทุกคนครับ เพราะมันจะเป็นคอมเมดี้ที่ค่อนข้างเข้าข้อ สามารถเล่นได้อย่างสบาย ไม่ต้องปรับเปลี่ยนอะไรมาก ใช้ความสนุกเข้าว่าไว้ก่อนครับ”

การทำงานไม่เครียด เหมือนได้ถอดสมอง 

คิมม่อน “ความสนุกของการทำงาน ผมขอเอ่ยถึงผู้กำกับ พี่ชีวิน (ธนะมินทร์ วงษ์สกุลพัชร์) เป็นครั้งแรกที่ได้ทำงานกับเขา ซึ่งเราไม่เคยเจอผู้กำกับแนวเรียบง่ายแบบนี้มาก่อน เราก็จะสนุก โบ๊ะบ๊ะ เล่นมุกกันตลอดเวลา เลยทำให้บรรยากาศในกองออกมาสนุกครับ

คือพอตัวนักแสดงไม่เครียด ผู้กำกับไม่เครียด เรื่องออกมาเลยไม่เครียดกันเท่าไร มันจะถอดสมองกันมากครับ มันเป็นความน่ารัก แฟนตาซีมากๆ ครับ ผมบอกเลยว่าทุกองค์รวมมันสนุกและดีมากครับ ซึ่งผมมั่นใจว่าตัวงานออกมาจะมอบความสุขให้คนดูครับ”

คอปเตอร์ “เอาจริงๆ เป็นการถ่ายทำที่ค่อนข้างแฮปปี้ตลอดการถ่ายทำ 2 เดือน มันเป็นประสบการณ์ดีๆ อีกเรื่องครับ ที่ทำให้ผมรู้สึกว่าได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ผมไม่เคยเจอการถ่ายทำจากกองไหนมาก่อน

การถ่ายทำที่ดูผ่อนคลาย การถอดสมอง การเข้าไปเล่นบทต่างๆ ที่มันเป็นคอมเมดี้ที่ผมไม่เคยจะเล่นเหมือนกัน และผมก็รู้สึกว่าเราได้ทดลองตัวเองเหมือนกันที่มันตลกมากๆ ไม่ต้องคิดอะไร อยากให้ทุกคนได้ติดตามครับ เชื่อว่าน่าจะได้รอยยิ้มให้กับทุกคนมากๆ ครับ”.

ผู้เขียน : โอ้ว…ซาร่า

กราฟิก : Chonticha Pinijrob

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2383560
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2383560