สรุป 7 ข้อดราม่า จอย ไกอา ถูกข่มขู่จากพนักงานโรงแรมบนเกาะยาวน้อย


ให้คะแนน


แชร์

1.เป็นประเด็นดราม่าร้อนก่อนหน้านี้ เมื่อนักร้องสาว จอย ณัฐฐานิตา วิชัย หรือ จอย ไกอา อดีตสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีวง Rania ไลฟ์สดผ่านทางไอจีเมื่อกลางดึกวันที่ 29 เม.ย. 2565 ระหว่างไปพักผ่อนที่เกาะยาวน้อย จ.พังงา ประมาณ 2 นาทีครึ่ง โดยบอกว่าถูกพนักงานโรงแรมแห่งหนึ่งข่มขู่ พร้อมทั้งบอกว่าหากเกิดอะไรขึ้นหรือหายไปจากโซเชียล 24 ชม. ให้แจ้งตำรวจด้วย

2.จากนั้น จอย ไกอา ก็ได้อัปเดตผ่านไอจีสตอรี่ว่าได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ ตอนนี้เธอและเพื่อนๆ ปลอดภัย และเข้าพักในรีสอร์ตแห่งใหม่เรียบร้อยแล้ว ซึ่ง นายจําเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ก็ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า จอยและเพื่อนๆ รวมทั้งหมด 14 คน เข้าพักที่โรงแรมดังกล่าวเป็นจำนวน 7 ห้อง เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2565 เวลาประมาณ 13.30 น.

3.จากนั้นเวลา 15.30 น. จอยและเพื่อนสั่งอาหาร แต่เนื่องจากโรงแรมยังไม่เปิดร้านอาหารของโรงแรมในเวลานั้น พนักงานจึงออกไปสั่งซื้อจากร้านข้างนอก และอาหารเสร็จเวลา 17.00 น. ก่อนจะนำไปส่งให้ แต่กลุ่มนักร้องสาวแจ้งกับพนักงานว่ายกเลิกไปแล้ว ทำให้เกิดการโต้เถียงกันขึ้น และไม่มีการจ่ายเงินค่าอาหารคืนให้พนักงาน จึงแจ้งไปยังเจ้าของโรงแรม ก่อนที่จะเชิญกลุ่มนักร้องสาวออกจากโรงแรมและคืนเงินเข้าพักทั้งหมด

4. ว่าที่พันตรี อภิญญา ศักดินันท์ นายอำเภอเกาะยาว เผยว่า เป็นเรื่องที่เกิดจากความเข้าใจผิด เมื่อพนักงานไปสั่งอาหารข้างนอกมาให้ลูกค้า แต่พอนำอาหารมาส่ง กลุ่มนักร้องสาวบอกว่านานเกินไป ต้องการยกเลิกการสั่ง จนเกิดการโต้เถียงว่าเงินค่าอาหาร 1,700 บาท ใครจะรับผิดชอบ

5.ด้านจอยและเพื่อนอ้างว่าพนักงานหญิงคนหนึ่งของโรงแรมพูดจาไม่เหมาะสม จึงโทรแจ้งตำรวจมาไกล่เกลี่ย และทางเจ้าของโรงแรมให้จอยและเพื่อนย้ายออกจากโรงแรมดังกล่าวไปพักโรงแรมอื่นแทน

6.ในขณะที่บางคนที่เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวบอกว่ากลุ่มนักร้องสาวจ่ายเงินค่าอาหารแล้ว แต่กลับมีพนักงานคนหนึ่งพูดจาเชิงข่มขู่ จนกลายเป็นเรื่องบานปลาย

7.หลังจากมีประเด็นดังกล่าว จอย ไกอา ก็ได้โพสต์ข้อความชี้แจงผ่านทางแฟนเพจอย่างละเอียดเมื่อวันที่ 2 พ.ค. 2565 โดยบอกว่า

“ขออนุญาตชี้แจงทางฝั่งเราบ้างนะคะ ก่อนหน้านี้ที่เรายังไม่ได้ออกมาชี้แจงอะไร เพราะใน 3 วันที่ผ่านมาเราต้องย้ายที่ตลอดเวลา จากที่พัก ไปโรงพัก ไปที่พักใหม่ ไปโรงพัก ขึ้นเรือออกจากเกาะ และพึ่งได้พูดคุยกับสื่อ พร้อมส่งมอบหลักฐานเป็นครั้งแรกทันทีที่ได้ออกจากเกาะ เมื่อวันที่ 30 เมษายน เวลา 18.00 น.

เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ได้เดินทางกลับกรุงเทพ และได้ให้สัมภาษณ์กับสื่ออย่างเป็นทางการ ทันทีที่ลงจากเครื่องบิน เวลา 14.30 น. ตอนนี้เราขออนุญาตชี้แจงลงเพจ เพื่อเคลียร์ข้อกล่าวหาที่ได้รับอย่างไม่เป็นทางการดังนี้ค่ะ

1. กินแล้วไม่จ่าย : เราไม่ได้กินอาหาร เพราะเราปฏิเสธการรับอาหารกับพนักงานท่านนึงแล้ว

และได้ชำระค่าอาหารแล้วเรียบร้อยตั้งแต่วันเกิดเหตุค่ะ เหตุที่เกิดปัญหา เพราะเราขอเบอร์ติดต่อร้านอาหาร เพื่อตรวจสอบ ถามเหตุผลว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะหากใช้เวลานาน เราจะได้วางแผนใหม่เนื่องจากเรามีแผนสำหรับมื้อเย็นไว้แล้ว

เราได้ถามถึงอาหาร พร้อมขอยกเลิกรายการที่ยังไม่เสร็จเป็นระยะๆ อย่างสุภาพหลายครั้ง ในช่วงเวลา 2 ชั่วโมงกว่า แต่ทางพนักงานแจ้งว่าใกล้มาถึงแล้ว ตั้งแต่ครั้งแรกที่ตาม จนครั้งสุดท้ายได้มีการตกลงกัน ว่าหากยังไม่มาในระยะเวลาที่กำหนดครั้งนี้ เราขออนุญาตยกเลิก เพราะใกล้ถึงเวลาที่ต้องเดินทางไปยังร้านอาหารมื้อเย็นที่ได้จองไว้ “พนักงานก็ได้ตกลงกับเราเรียบร้อยแล้ว” เราจึงยึดตามข้อตกลงนี้ และปฏิเสธการรับอาหารหลังจากที่เลยระยะเวลาที่ตกลงกันมา

ซึ่งเราไม่ได้โทษทางพนักงานแต่อย่างใด เพราะเราเข้าใจว่าทางพนักงานเป็นเพียงตัวกลาง เราจึงต้องการพูดคุยกับทางร้านอาหารโดยตรงเพื่อทราบปัญหา โดยพนักงานปฏิเสธการให้เราพูดคุยกับทางร้านและเดินจากไป เราจึงตัดสินใจขึ้นรถไปร้านอาหารที่จองไว้ แล้วค่อยกลับมาคุยกันอีกครั้งเมื่อเดินทางกลับมาที่พัก

2. เรื่องการหมิ่นศีลอด : เราไม่เคยทราบ และไม่ได้รับข้อมูลนี้จากทางที่พักในตอนที่สั่งอาหาร เพียงแต่บอกว่าครัวปิดเพราะมีกลุ่มใหญ่มาพักและปิดเลี้ยงสังสรรค์ที่รีสอร์ต และเราก็เห็นว่าทางรีสอร์ตมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขาย จึงไม่ได้คิดว่ามีประเด็นนี้ และขอยืนยันว่าไม่มีการดูหมิ่นศาสนา หรือบุคคลใด และไม่มีการใช้คำหยาบคายตลอดการพูดคุยสนทนาทั้งหมด ทางรีสอร์ตได้แจ้งกับเราถึงประเด็นนี้หลังจากที่ได้พูดคุยและเคลียร์ค่าอาหารไปแล้วในตอนกลางคืน ไม่ได้อธิบายให้เราฟังในตอนที่สั่งอาหาร

3. ไลฟ์ขู่ฆ่า : ณ โมเมนต์นั้น เรารู้สึกแบบนั้นจริงๆ ค่ะ และเจตนาไม่ใช่การโพสต์เพื่อเรียกร้องความสนใจหรือทำให้ใครเสียหาย มันเป็นเรื่องส่วนบุคคล คนคนเดียวเท่านั้น เพราะ lock ig private มานานมากแล้ว แต่เพิ่งเปิดและโพสต์เพราะกลัวจริงๆ

เราอยู่ในที่ที่ไม่ใช่ที่ของเรา เราไม่รู้จักพี่คนนั้นเป็นการส่วนตัว เราไม่รู้ว่าพี่เค้านิสัยอย่างไร เค้าพูดจริงหรือพูดเล่น ถ้าเกิดเหตุร้ายอะไรขึ้นมา อย่างน้อยก็ยังมีไลฟ์นี้อยู่ ทำขึ้นเพื่อป้องกันการเกิดเหตุและป้องกันตนเองเท่านั้น เนื่องจากน้ำเสียง ท่าทาง ถ้อยคำ แววตา ของพนักงานดังกล่าว ทำให้เรารู้สึกหวาดกลัว

4. ทำไมไม่แจ้งตำรวจ ไลฟ์ทำไม : ทันทีที่ได้ยินพี่ผู้ชายพูดว่า “พรุ่งนี้เรือมึงออกกี่โมง คืนนี้มึงเจอกูแน่” ทางเราก็ได้แจ้งตำรวจทันที

5. ทำไมบอกว่างงไม่รู้เพราะอะไรเค้าถึงขู่ : เนื่องจากเราได้พูดคุยและเคลียร์ปัญหาเรื่องค่าอาหาร และตกลงชำระค่าอาหารเรียบร้อยแล้ว เราจึงไม่เข้าใจว่า ทำไมถึงมีประโยคนั้นขึ้นมา

6. ลบโพสต์ทำไม : เพราะเรื่องมันจบที่โรงพักไปแล้ว โดยได้เคลียร์ปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้น โดยพี่เค้าได้ขอโทษเราและปรับความเข้าใจกันเป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่ที่โรงพัก

7. ไปพูดเหยียดเค้าก่อน หรือจะทำร้ายร่างกายพนักงาน : ขอยืนยันว่าเราไม่มีการพูดเหยียดหยาม ดูหมิ่น แสดงท่าทางก้าวร้าวหรือใช้คำพูดที่หยาบคายต่อพนักงานหรือบุคคลใดๆ ตลอดการสนทนาทั้งหมด โดยสามารถตรวจสอบหลักฐานได้จากกล้องวงจรปิดของที่พัก และสถานีตำรวจค่ะ

สุดท้ายนี้เราขอยืนยันความบริสุทธิ์ใจ เรายืนยันว่า ไม่ได้มีเจนตนาจะทำลายชื่อเสียงของรีสอร์ต หรือเกาะ และธุรกิจการบริการแต่อย่างใด เรายังยืนยันว่า เกาะยาวน้อยเป็นสถานที่ที่น่าท่องเที่ยว และผู้คนที่น่ารัก ตามที่ทุกคนเข้าใจ “ปัญหานี้เกิดขึ้นระหว่างบุคคลเท่านั้น” โดยสามารถสอบถามบุคคลอื่นที่เราพบเจอในทุกกิจกรรมตลอดการเดินทางค่ะ

สำหรับหลักฐานเพิ่มเติมในส่วนอื่นๆ ทั้งภาพหรือเสียง จากกล้องวงจรปิด ของทางรีสอร์ตและสถานีตำรวจภูธรเกาะยาว ทางเรายินดีอย่างยิ่งที่จะให้เผยแพร่รายละเอียดทั้งหมด ตั้งแต่ต้นจนจบโดยไม่มีการตัดต่อหรือดัดแปลงข้อมูลใดๆ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจของทั้ง 2 ฝ่ายค่ะ”.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2384212
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2384212