“ตั๊ก ศิริพร” เผยไม่ค่อยเล่นหนัง-ละคร เพราะอยากทำงานที่ตนเองชอบ


ให้คะแนน


แชร์

ตั๊ก เล่าการทำงานให้ฟังว่า “เอาจริงๆ พี่เป็นคนไม่ค่อยชอบเล่นหนังเล่นละคร อยากทำงานที่ตัวเองชอบมากกว่า สาเหตุที่ไม่ชอบคือบางทีไปเจอโลเกชันแบบโหดๆ ผู้หญิงจะไปฉี่ในป่ามันก็ลำบาก แต่เมื่อก่อนนะ พอหนังบักแตงโมติดต่อมา พี่ก็โอ๊ย ยังไง แต่บังเอิญมีเพื่อนเราเล่น พี่สุนารี พี่ฮาย อาภาพร เพื่อนเราเล่นก็เลยลองดูอีกสักเรื่อง เราอยู่กับเพื่อนอย่างน้อยไม่เหงา ปรากฏว่าผิดคาด เป็นการทำงานที่ไม่เหงาเลย พี่แฮปปี้กับพระนคร ก็เลยรู้สึกตัดสินใจไม่ผิด กับทีมอื่นเราไม่รู้เป็นอย่างนี้หรือเปล่า”

กับบทบาทในเรื่องเป็นอย่างไรบ้าง

“เขาบอกเป็นแม่นางเอก แต่เชื่อไหมว่าเป็นแม่นางเอกประสบการณ์ต้องโชกโชน เรื่องไพ่ การทำอาหาร แทงสนุ้กต้องเซียนนะ แต่ตัวพี่ตั๊กทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง ฉากเล่นไพ่ซ้อมนานมาก เพราะเราเล่นไม่เป็น บังเอิญมีเจ๊ๆ ทั้งพี่สุ พี่ฮาย ทุกคนเซียนกันหมดเลย ทุกคนสอนพี่ พอแทงสนุ้กฯ เล่นไม่เป็น นางเอก ฟิฟิล์ม ก็เล่นเป็น พี่แทงไม่ได้เลยต้องอาศัยตัดต่อเอา (หัวเราะ)”

เรื่องนี้เป็นการรวมตัวของตลกเยอะมาก

“ใช่ค่ะ และเป็นเรื่องสุดท้ายของน้าค่อมและพี่โรเบิร์ตและเราได้เล่นกับเขา ตอนทำงานกับน้าค่อม พี่เบิร์ตสนุกนะ พวกนี้เขาเป็นลูกสด สคริปต์ไม่ต้องเลย ด้วยความร่วมงานกันมาบ่อย คุ้นมองตารู้ใจ จะรับส่งอะไร เป็นการทำงานไม่เครียด และเรื่องนี้แวดล้อมด้วยคนที่เรารัก ลูกสุดที่รัก ดีเจนุ้ย ก็มารับเชิญให้ ซึ่งพี่ไม่รู้เลย อ้าว! เล่นด้วยเหรอ พี่เอินอุตส่าห์ติดต่อเอานุ้ยมาเล่นเพื่อเซอร์ไพรส์เรา นุ้ยก็เก็บความลับไม่ยอมรับเราก็ตกใจ เป็นฉากที่หนักมากเพราะเราอยู่ห้องแคบๆ เป็นฉากคนทรงเป็นเห้งเจีย และมีดรายไอซ์แต่ไม่มีต้องก่อกองไฟเอา ไหนจะควันธูปไม่มีประตูหน้าต่างระบายได้ นุ้ยอยู่กับพี่ตั้งแต่เช้ายันมืด อบเป็นไก่รมควัน เรื่องนี้ทุกคนอึดและถึกมาก เรื่องนี้ค่อยๆเสียกันไปทีละคน ทั้งหมด 4 คน หัวหน้าสไตลิสต์คนนึง หัวใจวาย พี่แหลม พี่เบิร์ต พี่ค่อม ไปแล้ว 4 หนังยังไม่ฉาย เป็นความผูกพัน”

ถ้าเกิดบอกหรือสื่อสารถึงกันได้พี่ตั๊กอยากบอกอะไร

“อยากบอกน้าค่อม พี่เบิร์ต ผลงานเรื่องสุดท้ายที่เป็นภาพยนตร์ พี่ทั้งสองคนได้เล่นไว้ ได้ฉายแล้ว ที่สำคัญทุกคนเป็นเกียรติมากๆ ไม่มีใครคิดจะเป็นเรื่องสุดท้ายแต่ ณ โมเมนต์ที่เราทำงานบรรยายเต็มไปด้วยความสุข มีความรู้สึกดีๆ ถึงแม้สองท่านจะจากเราไปแล้วก็ตาม ถึงจากไปแต่ยังทิ้งความรู้สึกดีๆให้กับพวกเรา อยากให้แฟนคลับของสองคนมาชมหนังกันเยอะๆ เพราะเป็นผลงานเรื่องสุดท้ายของเค้าที่ทิ้งไว้ พี่เองก็ตั้งใจดูฉากที่เล่นกับแก ผูกพัน เสียดายมากๆ”

เห็นว่าพี่ตั๊กมีปัญหาเรื่องสุขภาพด้วย

“ไม่รู้คนอื่นเป็นอย่างพี่มั้ย พี่เป็นคนหาหมอนนอนยากมาก ซื้อตั้งแต่ใบถูก ยันใบหลักหมื่น ทุกวันนี้ยังหาหมอนถูกใจไม่ได้ หันซ้ายขวาเสียงดังก๊อก พี่ไม่ได้หักคอนะ หันก็ดังก๊อกๆ และมันปวด มันร้าวถึงสมอง”

ถึงขั้นหาหมอรักษา

“พี่นุ้ย เชิญยิ้ม สามีพี่ เขาเป็นหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท พี่นุ้ยต้องผ่า แต่นางกลัว จนหมอบอกว่าจนกว่าปวดทนไม่ได้ นุ้ยยังทนได้อยู่ เวลาปวดก็สงสารแต่พี่ไม่ถึงขั้นนั้น ปวดแบบน่ารำคาญ บางทีปวดขึ้นสมอง”

ทุกคนจะมองพี่ตั๊กเป็นสาวสตรอง ฝ่าได้ทุกดราม่า

“ทุกคนทำได้ อย่าเอาความทุกข์มาไว้กับตัว พี่ไม่เก็บเอาไว้นานเพราะมันโคตรบั่นทอน เลย บั่นทอนความสุข คิดแป๊บเดียวแล้วทิ้ง เห็นบางคนสลัดไม่ได้ พี่สงสาร ถึงเป็นโรคซึมเศร้ากัน ตอนนี้คนเป็นกันเยอะ”

ช่วงนึงพี่ตั๊กเจอดราม่าเยอะ ทำอะไรก็โดน

“ใช่ๆ ผ่านมาหมดแล้วแต่ไม่คิดนาน คิดว่าเดี๋ยวมันก็ผ่านไป พี่ติดตามข่าวทั้งในและต่างประเทศ เป็นกันเยอะ ดาราญี่ปุ่่น เกาหลี ฆ่าตัวตายเยอะมากเพราะเป็นโรคซึมเศร้า เกิดจากอ่านคอมเมนต์แบบนี้ พี่ไม่อ่าน พออ่านเดี๋ยวไปเจอ ล่าสุดของเป็กกี้ ศรีธัญญา เลีย…ให้ล้ม โชคดีเป็กเป็นคนถึงจะอ่านแต่เป็นคนมองเป็นเรื่องตลก อันนี้ดี แต่พี่เลือกไม่อ่าน บล็อกไปเลยจบ กับผัวที่เป็นเรื่องเป็นราวก็มีการบอกกันพี่นุ้ย ตรงนี้พี่นุ้ยยืนในที่สว่าง ไม่ใช่แค่ตัวพี่นุ้ยคนเดียว ตั๊กด้วยนะ บางทีคนด่าพี่นุ้ยก็ลามมาด่าพี่ด้วย ลามไปที่ลูกด้วยเพราะเราเป็นบุคคลสาธารณะ หลังจากนั้นเขาเลยจำ ต่อไปนี้ลงอะไรก็จะระวัง”

ตอนนี้น้องภูลูกชายเป็นยังไง

“อยู่ปี 1 ม.ธรรมศาสตร์ ตั้งใจจะซื้อรถให้เค้าเพราะให้ภูไปเรียนขับรถแล้ว อีกหน่อยเค้าจะต้องไปอยู่หอ เลือกคณะ วิศวกรรมดิจิตอล เก่งพวกคอมพ์ เขาเลือกเองนะ เพราะชีวิตเป็นของเขา เราเป็นแค่พ่อแม่แต่ไม่ได้เป็นเจ้าชีวิต เราได้แนะนำห่างๆ พี่ตั๊กตั้งใจซื้อรถให้แต่ไม่ซื้อรถหรูหราให้นะ เอาแค่ขับไปได้ เดี๋ยวภูเรียนจบก็ต้องไปต่อต่างประเทศแล้ว ก็ซื้อมาสด้า 6 แสนกว่าบาทก็พอ เพราะหลังภูเรียนจบก็ต้องขายรถแล้วจะซื้อแพงๆไปทำไมเสียดายสตางค์”

พอลูกจะต้องอยู่หอพักทั้งๆที่ใช้ชีวิตด้วยกันมาตลอด

“เป็นห่วง พี่นุ้ยไม่ให้ไป แต่เราสงสารลูก จะขับรถจากบ้านไปมหาวิทยาลัยยังไง มันไม่ไหว ต้องตื่นแต่เช้ามาก เดี๋ยวเข้าเรียนไม่ทันเพื่อน บางวิชาเรียนถึงค่ำ ก็บอกพี่นุ้ยต้องเข้าใจลูก แต่ตกลงกับลูก ภูจะต้องโทร. หาแม่ทุกวัน อาทิตย์นึงกลับบ้านครั้งนึง เป็นครั้งแรกที่ภูจะออกจากอก พี่ไม่ห่วงลูก เพราะเชื่อลูกเอาตัวรอดได้ ทุกวันนี้อะไรในบ้านเสียก็พึ่งลูกนะ ไม่ได้พึ่งผัวนะ ภูรู้ทุกอย่าง ในบ้านมีปัญหาต้องพึ่งลูก”

ถ้าเกิดเขามีแฟนล่ะ

“ไม่ได้ว่าอะไรอยู่แล้ว จะมีแฟนเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายพี่ก็ไม่ว่าด้วย คือยุคสมัยเปลี่ยนไปแล้ว ไม่มีเพศอะไรแล้ว พี่ขอลูกอย่างเดียวเป็นคนดีนะ อย่าเป็นภาระให้แม่นะ ไม่ใช่เรียนจบยังขอเงินพ่อแม่ ไม่เอานะ และห้ามเป็นภาระต่อสังคมนะ ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้สังคมด้วย อย่าลืมว่าพ่อแม่เป็นคนมีชื่อเสียงนะ”.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2384166
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2384166