เจสัน ยัง แนะทางออกหากจิตฟุ้งซ่าน มีอารมณ์ทางเพศขณะบวช


ให้คะแนน


แชร์

“วิธีคือ: ของหวาน, ช็อกโกเเลต, น้ำผึ้ง, นมถั่วเหลือง, นมวัว อาหารเหล่านี้มีส่วนกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ ให้ทานได้เเต่น้อยๆ ทานเเต่พอดี ให้พิจารณาอาหารทุกครั้งก่อนทาน ว่าอาหารนี้เพื่อการมีชีวิตอยู่เพื่อทำความดี ไม่ใช่เพื่อบำรุงกิเลส ตัณหา เเละอุปาทาน… เป้าหมายคือให้ทานอย่างมีสตินั่นเอง

เดินจงกรมบ่อยๆ ภาวนา “พุทโธ” ในใจทั้งวัน หากใจคิดฟุ้งซ่านให้ระงับทันทีด้วยการกำหนดคำว่าพุทโธในใจถี่ๆ ให้รัวเหมือนปืนกลเลยได้ยิ่งดี ให้เดินจงกรมไปเรื่อยๆ สลับนั่งสมาธิ จนกว่าความฟุ้งซ่านจะหายไป

*ถ้าเคร่งๆ ให้นอน 4+1 คือกลางคืนนอน 4 ชม.กลางวันนอน 1 ชม.
*ถ้า4+1ไม่ไหว ก็อย่านอนเยอะ เเนะนำว่าไม่ควรนอนเเบบขาดสติเเบบสบายเกิน 6 ชม.

“กินน้อย นอนน้อย ปฏิบัติให้เยอะ” พ่อเเม่ครูอาจารย์ท่านสอนเราอย่างนี้ ก็เพื่อเผาผลาญกามราคะกิเลสตัณหา ซึ่งเป็นงานหลักของการดำรงสมณะเพศ เพื่อรักษาพรหมจรรย์ เพื่อขัดเกลาเเละยกระดับจิตใจให้สูงขึ้น มิใช่ให้ต่ำลง

***ที่สำคัญ อย่าเชื่อผู้ที่หลงผิดเเล้วบอกให้ช่วยตัวเองไปเลยถ้ามีอารมณ์เพื่อเป็นการระงับ เเล้วค่อยไปเเสดงอาบัติไปอยู่กรรม อย่าเชื่อเเละอย่าหาทำเด็ดขาดนะครับ มันเป็นบาป เเล้วมันจะเเก้ไขไม่ได้ จะติดเป็นนิสัยหยาบติดกามราคะ จิตจะไม่สะอาด เเละมันจะเป็นสะพานเชื่อมไปสู่การทำผิดซ้ำซากเเล้วอัปเกรดไปสู่ความบาปร้ายเเรงที่สุดนั่นคือเสพเมถุน (ขาดจากการเป็นพระทันที) ไม่ว่าจะกับผู้หญิง ทางปากหรือทางทวาร หรือกับผู้ชาย สัตว์เดรัจฉาน อมนุษย์ หรือเเม้เเต่กับซากศพก็ตาม…

…กลับมาเรื่องช่วยตัวเอง ต้องหักห้ามใจนะครับ ห้ามทำเด็ดขาด!!! ให้ทุบมือถือทิ้งไปเลยถ้าเอาจริง
ควบคุมอาหารก็สำคัญ อย่าทานเยอะ ให้นึกพุทโธในใจสู้กับมันทุกครั้ง ให้ลุกไปเดินจงกรม นั่งสมาธิ หรือจะไปยืนตากเเดดทำความเพียรก็ได้

ถ้าไม่ไหวให้ไปปฏิบัติที่หน้าพระประธาน รับรองกิเลสไม่กล้าซ่าเเน่นอน อย่าอยู่เเต่ในกุฏิ ให้ออกมาเดินจงกรมไปเรื่อยๆ จนกว่าความฟุ้งซ่านจะหาย อย่าเพลิดเพลินกับความคิดฟุ้งซ่านโดยเฉพาะเรื่องกามราคะ

เวลามีชัยชนะเหนือมัน อย่าประมาทเด็ดขาด เพราะมันจะหาช่องกลับมาอีกเเน่นอน เพราะจิตเรายังไม่บรรลุถึงขั้นอนาคามี (ระดับของสภาวะจิต ซึ่งเป็นระดับที่สิ้นกามเเล้ว หมดสิ้นเเห่งกามราคะตัณหา)

บวชไม่นาน ทำไม่ยาก เพราะศรัทธาเเรงกล้า เเต่ถ้าอยากบวชยาว ต้องฝึกครับ ลองดู ไม่มี sex หรือช่วยตัวเอง 1 เดือน เเล้วค่อยๆ ขยับขยายเวลาขึ้นเป็น 2, 3, 4.. เดือน ให้ตั้งสัจจะเลยครับ ถ้าทำได้ ก็ทำต่อไปเรื่อยๆ จนมั่นใจ เเล้วค่อยบวชก็ได้ครับ เเต่ถ้าไม่ได้บวช ก็ถือว่าท่านได้บวชเเล้ว นั่นคือ “บวชใจ” ครับ”.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2389747
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2389747