ครูอ้วนเล่าเหตุการณ์ในวันนั้นว่า “เป็นช่วงสงกรานต์อ้วนไปทำหน้าที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต แต่งตัวสบายๆ ใส่ผ้าไทย หน้าสดมวยผม ขับรถยนต์ไปเองแล้วหาที่จอดรถยากมาก แต่ก็เจอที่จอดรถที่หนึ่งข้างหน้า รถเขาจะออกเลยต้องเลื่อนรถไปข้างหน้าเพื่อให้เขาออกก่อน พอรถคันนั้นออกไป เราก็เตรียมที่จะถอยรถเข้า หันไปอีกที อ้าว! มีรถมาจากไหนไม่รู้เข้ามาแย่งที่จอดรถ ตอนนั้นโกรธมาก จากนั้นมีผู้หญิงลงมาจากรถ

เราเลยเปิดกระจกให้เห็นแค่ตาแล้วเราส่งสายตาไป…แต่หน้านั้นเป็นหน้าคนในวงการ! นางก็ทำหน้าเชิดใส่ หันไปอีกที่มีผู้ชายลงจากรถตามมาก็หันมามองเรา อารมณ์แบบ “ยายป้านี่!” เราก็คิดในใจว่าไม่ได้ คนในวงการจะทำแบบนี้ไม่ได้ ตอนนั้นเราต้องออกจากตรงนั้นไป ไม่อย่างนั้นเราจะเผลอผรุสวาทออกไป”

เรื่องยังไม่จบแค่ที่ลานจอดรถ ครูอ้วนยังเล่าต่อ เพราะตอนนั้นหัวร้อนไม่ไหว ตามคู่รักดาราเข้าไปถึงในซุปเปอร์มาร์เก็ตกันเลยทีเดียว “เราตามเขาเข้าไป เดินตามไปล็อกต่างๆ ไปเจอล็อกที่ 4 เราเข็นรถเข้าไป ยืนตรงตู้ขายปลา พร้อมส่งสายตาพิฆาตใส่ เขาไม่หันมามอง เราพยายามจ้องหน้าเขา แต่เขาก็ไม่มอง เราก็ เอ๊ะ! หรือว่าเขาจำหน้าเราไม่ได้…หรือเราอยู่ในวงการไม่เพียงพอให้เขาต้องจำ เราโกรธมาก คิดในหัวว่าจะพูดอะไรดี”

สุดท้ายด้วยความโกรธครูอ้วนจึงพูดออกไปว่า “ปลาเก๋า 3 ขีด!” ซึ่งปลาเก๋าเป็นปลาที่แพงมาก 3 ขีดตกประมาณ 2 พันกว่าบาท เกือบ 3 พันบาท…ซึ่งสุดท้ายคู่รักดาราไม่ได้มองเราเลย เดินจากไป ทิ้งเราไว้กับปลาเก๋า 3 ขีด…

อีกทั้งบอกว่า มีละครเข้ามาดูรายชื่อเราต้องเล่นเป็นแม่เขาด้วย เหตุการณ์ครั้งนั้นเหมือนการฝึกจิต ทำให้รู้สึกว่าไม่น่าโกรธให้เสียเวลา ถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะไม่เอาตัวเองเข้าไปอยู่ในจิตที่ร้อนอย่างนั้น” เป็นเหตุการณ์ที่แซ่บสุดจริงๆ แต่ถึงอย่างนั้นครูอ้วนก็ไม่ยอมเอ่ยชื่อหรือตัวอักษรย่อของคู่รักดาราคู่นั้นเลย ด้วยเหตุที่ว่าตอนนี้ดาราหญิงคนนั้นน่ารักแล้ว.