เอมเข่าทรุด บาร์ถูกรื้อไม่เหลือสภาพเดิม ลั่นรวยแล้วจะรังแกใครก็ได้ใช่มั้ย?!


ให้คะแนน


แชร์

เกิดอะไรขึ้น! เอม ถึงกับเข่าทรุด หลังบาร์ถูกรื้อจนไม่เหลือสภาพเดิม ลั่นรวยมีเงินจะรังแกใครยังไงก็ได้ใช่มั้ย?!

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

ทำเอาแฟนคลับอึ้งไปตาม ๆ กัน เมื่อ “เอม วิทวัส” ได้ออกมาโพสต์ภาพร้านที่ตัวเองเป็นหุ้นส่วน ในสภาพที่โดนรื้อถอดจนไม่เหลือสภาพเดิม ทำเจ้าตัวเห็นแล้วถึงกับเข่าทรุด พร้อมกับฝากให้แฟน ๆ และผู้ติดตามบนไอจีช่วยแชร์ออกไป

ต่อมาทางหุ้นส่วนร้านได้ออกมาอธิบายเพิ่มเติมผ่านเฟซบุ๊กว่า ตนทำร้านนี้มานาน 5 ปีแล้ว ร้านนี้เป็นร้านตั้งใจทำมากับมือ จากร้านเล็ก ๆ ค่อย ๆ เติบโต แต่จู่ ๆ ต้องมาเห็นร้านตัวเองโดนรื้อ มันเจ็บปวดไม่น้อย

โดยเล่าว่า วันที่ 27 เมษายน ที่ผ่านมา มีกลุ่มคนประมานเกือบ 20 คนบุกเข้ามารื้อร้านตั้งแต่ 8 โมงเช้า ซึ่งในวันนั้นมีน้องนอนเฝ้าร้านอยู่แค่คนเดียว น้องคนนี้โดนด่า โดนขู่ ห้ามถ่ายรูป ห้ามถ่ายคลิป ส่วนร้านโดนรื้อทั้งกำแพง หลังคา ระบบไฟ ข้าวของต่าง ๆ ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก

เคราะห์ซ้ำ วันรุ่งขึ้นเกิดพายุเข้า เนื่องจากทางร้านไม่มีหลังคา จึงทำให้สภาพร้านพังยับเยิน เปียกไปหมดเพราะน้ำสาดเข้ามาในร้าน นอกจากนี้ทางเครื่องเสียง โต๊ะเก้าอี้ ข้าวของต่าง ๆ ยังโดนลมพัดกระจัดกระจาย

ทั้งนี้ในวันที่ร้านโดนรื้อ ตนได้เข้ามาที่ร้านและพยายามห้ามกลุ่มคนดังกล่าวแล้ว โดยบอกว่าจะแจ้งตำรวจแต่ฝ่ายนั้นก็ไม่สนใจจะรื้อให้ได้ท่าเดียว แม้แต่ตอนที่ตำรวจมาดูจุดเกิดเหตุ ฝ่ายตรงข้ามก็ยังไม่หยุด

ต่อมาได้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจในพื้นที่ ซึ่งตนคิดว่าฝ่ายนั้นคงไม่กล้าทำอะไรอีก แต่ในวันที่ 4 พฤษภาคม ประมาณตอนเที่ยง ฝ่ายนั้นก็นำกลุ่มคนจำนวน 10 กว่าคน มาใช้ค้อนทุบแม่กุญแจประตูร้าน แล้วเข้ามาขนของในร้าน ขนโต๊ะ ตู้เย็น ตู้แช่ เครื่องครัว ออกไปวางด้านนอก

ตนจึงโทร.แจ้งตำรวจให้มาระงับเหตุ อย่างไรก็ตามผลลัพธ์เหมือนเดิม ไม่สามารถทำอะไรคนกลุ่มนี้ได้ ตนได้แต่มองข้าวของโดนรื้อ โดยตำรวจบอกว่าให้ถ่ายรูปและคลิปไว้และไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ ตนก็ทำตามไปแจ้งความอีกเป็นครั้งที่ 2

วันต่อมา ตนจ้างช่างมาซ่อมหลังคา ซ่อมแค่ที่ให้ร้านพอเปิดต่อไปได้ แต่เปิดมาได้ไม่กี่วันก็มีกลุ่มคนมาอีก โดยวันที่ 11 พฤษภาคม มีกลุ่มคนราว ๆ 20 คน มาที่ร้านตั้งแต่ 6 โมงเช้า มาสร้างกำแพงสูงปิดหน้าร้าน กั้นรั้วไม่ให้พนักงานร้านเข้าออก อีกทั้งยังรื้อป้ายร้านจนพังเสียหาย และย้ายของมากองไว้หน้าร้านเหมือนเดิม

ตนจึงโทร.แจ้งตำรวจ เมื่อตำรวจก็มาถึงจุดเกิดเหตุและผลลัพธ์ก็เหมือนเคย ตนเข้าไปแจ้งความที่สถานีตำรวจเป็นครั้งที่ 3 ซึ่งตอนนี้ตนทนไม่ไหวแล้ว จึงมาโพสต์ขอความเป็นธรรม

ทั้งนี้คนที่สั่งรื้อร้านคือ “คนที่ตนเช่าร้านอยู่” ซึ่งไม่ใช่เจ้าของที่จริง ๆ เพราะได้ทำการเช่าที่มาจากเจ้าของที่มาอีกที โดยคนที่ตนเช่าร้านได้อ้างกับตำรวจว่า ตนไม่ยอมจ่ายค่าเช่าจึงมีสิทธิที่จะรื้อร้านแห่งนี้ โดยสั่งรื้อทั้ง ๆ ที่ตนยังมีสัญญาเช่าอยู่

โดยอธิบายเพิ่มเติมว่า ตนเช่าที่มาเกือบ 5 ปีแล้ว ที่ผ่านมาจ่ายค่าเช่าทุกเดือนไม่เคยขาด แต่ช่วงหลังเจอโควิด-19 ไป ทำให้ต้องปิดร้าน และได้มีการคุยเรื่องค่าเช่าว่าจะผ่อนจ่าย ซึ่งตนมาทราบทีหลังว่า คนที่ตนเช่าที่อยู่นั้น ได้โกงเงิน ไม่ยอมนำเงินค่าเช่าไปจ่ายให้กับเจ้าของที่ตัวจริง

อีกทั้งยังโดนเจ้าของที่ตัวจริงยกเลิกสัญญาไปตั้งแต่ปลายปี 63 และโดนฟ้องขับไล่อีกด้วย ซึ่งในสัญญาก็ระบุไว้ว่า ห้ามนำไปให้ใครเช่าช่วงอีก โดยเจ้าของที่ได้เล่าถึงปัญหาต่าง ๆ ให้ตนฟัง ตนจึงเลือกที่จะระงับการจ่ายค่าเช่าไว้

ตนไม่รู้ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นอีก ต้องมานั่งระแวง หาคนมาเฝ้าร้านทุกวัน ซึ่งตนพบเจอเหตุการณ์นี้ มา 3 อาทิตย์แล้ว ขวัญเสียไปหมด งานก็ต้องหยุดทำ ขาดรายได้ ตนจึงมาโพสต์สู้เพราะสิ่งที่เจอมันเกินไปแล้วจริง ๆ

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7048353
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7048353