“พิม” รักลงตัว! เล่าทุกเรื่องให้แฟนรับรู้ป้องกันปัญหา พลิกบทจากนางเอกเป็นนางร้าย


ให้คะแนน


แชร์

เลยต้องถามสาว พิม ว่าหันมาเล่นบทร้ายเลยรึเปล่า

“ไม่ได้เซตเอาไว้ว่าจะต้องเล่นร้ายอย่างเดียว ตอนนี้กำลังจะเปิดกล้องเรื่อง “ดงดอกไม้” ซึ่งจะเป็นคนดีใสๆ แล้วพิมมองในเรื่องของบทมากกว่า บทไหนที่ท้าทาย บทไหนสนุก ทำให้เรารู้สึกว่าได้เล่นอะไรใหม่ๆให้คนดูได้ดูกัน ไม่อยากเล่นซ้ำๆ บทสมัยนี้มันเรียลมากขึ้น มันไม่ค่อยมีแบบดี๊ดี มันจะมีความเทาๆ มีความเป็นมนุษย์อยู่ เวลาที่พิมแสดงพิมก็คิดว่าคนนี้เป็นมนุษย์คนนึง บางทีตัวนี้อาจจะร้ายแต่เค้ามีเหตุผลที่จะร้าย”

ไม่กลัวว่าจะกลับมาเล่นดีไม่ได้แล้ว?

“ไม่กลัวนะคะ อยากจะให้คนดูเปิดใจ พิมเชื่อว่าทั้งหมดมันคือความท้าทายของตัวพิมด้วย การที่เราจะให้คนดูที่ดูเราเล่นดีๆมาตลอดมาดูเราเล่นร้าย มันก็คือต้องสร้างความเชื่อให้คนดูเชื่อจริงๆว่านี่คือตัวละครที่มีนิสัยแบบนี้ พอกลับไปเล่นเป็นคนดีมันก็คือความท้าทายของเราเหมือนกัน ที่เราจะต้องทำให้คนดูเชื่อว่านี่คือคนดี คนละคนกับที่เราเล่นในเรื่องก่อนหน้านี้นะ การเป็นนักแสดงเราต้องพัฒนาตัวเองตลอด ทำการบ้านตลอด ทำความเข้าใจตัวละครตลอดว่าเค้ามีความต้องการยังไง ทำไมเค้าถึงทำแบบนี้ เหมือนเราทำความรู้จักคนคนนึง พอมีเรื่องใหม่เราก็พัฒนาที่จะเข้าไปเป็นคนอีกคนนึงใหม่ สร้างคนคนนี้ให้มีชีวิตจริงๆขึ้นมา ฉะนั้นแต่ละเรื่องแต่ละบทมีความท้าทายและสามารถพัฒนาตัวเองได้”

มีอินกับบทกลับบ้านบ้างมั้ย?

“ก็มี บางทีกลับมาจากกอง เราอยู่กับตัวละครทั้งวัน เรารู้สึกไม่ค่อยดี มันดาวน์ มันดิ่ง ก็ต้องคอยเตือนตัวเองว่าตอนนี้ฉันคือ พิม พิมประภาแล้วนะ ต้องคอยเตือนตัวเองตลอด แล้วก็มีเพื่อนๆ คนรอบตัวรู้สึกว่ามันเหมือนมีมวลอะไรบางอย่างที่มันเหมือนติดตัวมากับเรา ก็ต้องทำอย่างอื่นที่มีความสุขเพื่อล้างตัวเองออกไป แต่ก็จะมีแบบเลิกกองมาดึกมาก เหนื่อยมากๆ แต่เรานอนไม่ได้ มันหลับไม่ได้ เหมือนมันมีความ เครียดสะสมเข้ามา”

เราจัดการกับเรื่องพวกนี้ยังไง?

“ออกไปเที่ยวบ้าง เราก็ต้องพยายามออกมาจากสิ่งเดิมๆ พื้นที่เดิมๆ ออกไปภูเขา ไปทะเล ไปกับเพื่อน หาอะไรกินที่ทำให้เราลืมตัวละครนี้ไปเลย”

แฟนหนุ่มนอกวงการของเราให้กำลังใจยังไงบ้าง?

“เค้าอาจจะไม่ค่อยเก็ตเท่าไหร่ว่าทำไมวันนี้ดูขุ่นมัวจัง ซึ่งบางทีเราอาจจะโดนตัวละครที่เราอยู่กับมันมาทั้งวัน มันเหมือนยังมีมวลตรงนั้นอยู่ มีความงงๆ ว่าเป็นอะไร หลังๆ เราก็อธิบายให้เค้าเข้าใจ เราก็พยายามจะออกจากตัวละครให้ได้เร็ว”

มีเคยทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้มั้ย?

“ไม่เคยนะ ตอนแรกก็กลัวเหมือนกันว่าตัวละครจะไม่ออก โชคดีที่เรายังดึงตัวเองกลับมาได้ และออกจากตัวละครนั้นมา มีครั้งแรกๆที่เค้าจะงงๆ ทำไมเราดูเหมือนไม่มีแรง เรื่องนี้มันเหมือนดึงพลังของเราจากตัวออกไปหมดเลย พอกลับมาเรารู้สึกเหมือนวิญญาณหายไป เค้าก็ไม่เข้าใจ ทำงานอะไรมันถึงหนักขนาดนี้ ก็ต้องอธิบายให้
เค้าเข้าใจ”

ความรักครั้งนี้เป็นอย่างไรบ้าง?

“เป็นความรักที่โตขึ้น อยู่ด้วยความสบายใจ มันไปเรื่อยๆ ไม่ได้หวือหวา แต่อยากให้มันมั่นคง”

มีอะไรพิเศษให้กันตลอดในวาระสำคัญมั้ย?

“ก็มีบ้างค่ะ ดีใจที่เค้าไม่ลืมวันสำคัญ ปีกว่าๆได้แล้ว ในทุกความสัมพันธ์มันต้องมีการปรับจูนเข้าหากัน แต่ละคนโตมาไม่เหมือนกัน มีเส้นทางชีวิตที่ไม่เหมือนกัน ก็ต้องมาทำความเข้าใจกัน พิมเชื่อว่าสิ่งที่คนสองคนจะอยู่ด้วยกันได้มันคือการคุยกัน การปรับกัน เราถอยออกมาก้าวนึง หรือเราขยับกันเข้ามาให้ใกล้ขึ้นเพื่อที่เราจะได้เข้าใจกันมากขึ้น มันเป็นเรื่องของการสื่อสารกันมากกว่าที่ทำให้เราไปกันต่อได้”

ปีกว่าที่ผ่านมาได้เรียนรู้กันเยอะแค่ไหน?

“เยอะค่ะ พิมอาจจะไม่ได้มีแฟนมาเยอะ ความสัมพันธ์เลยจะไม่ได้อะไร มันก็เลยมีอะไรให้เราต้องเรียนรู้เยอะมากๆ การที่เราจะต้องทำอะไรตอนนี้เราก็ต้องแคร์อีกฝ่ายมากขึ้น และไม่ใช่แค่ตัวเค้าคนเดียว ครอบครัวเค้าด้วย มันมีอะไรหลายอย่างเยอะ มันคือการใช้ชีวิตหลายๆ อย่างด้วยที่เราต้องแคร์ ทางเรา ครอบครัวเรา เราแคร์อยู่แล้ว แต่พอมีอีกคนนึงที่เค้าไม่ได้เข้าใจเราทั้งหมด ที่ไม่ใช่คนที่เค้าเลี้ยงเรามา เราก็ต้องมีการแคร์ มีการสื่อสารทำความเข้าใจกันว่าตัวเราเป็นยังไง โอเคมั้ย มันต้องมีการคุยกันตลอดเวลา เพื่อความเข้าใจกัน”

ด้วยการทำงานนักแสดงมันมีฉากเลิฟซีน มีหลายสิ่งหลายอย่างเข้ามา เราต้องบอกเค้ามั้ย?

“พิมจะบอกทุกอย่างเลย ตอนแรกก็มีการปรึกษากันอยู่เหมือนกันจะให้บอกมั้ย โอเคมั้ยถ้าพิมจะรับบทนี้ มันคือการแสดง มันคืองานของพิม ซึ่งเค้าให้เกียรติการทำงานของพิม สิ่งที่พิมให้เค้าเพิ่มเติมไปก็คือการให้เกียรติด้วยการบอกเล่าทุกอย่างให้เค้ารับรู้ ไม่ใช่ให้เค้าไปเห็นในจอ ทุกอย่างที่เค้าจะได้เห็นในจอ ในทุกๆแพลตฟอร์มเราได้บอกเค้าไปหมดแล้ว เค้าจะไม่ตกใจกับสิ่ง สิ่งนั้น แล้วก็จะบอกว่าเราเซฟยังไงบ้าง เค้าก็โอเค ตอนแรกที่รู้จักกันเราก็เป็นนักแสดงอยู่แล้ว เตรียมใจมาแล้วส่วนนึงว่านี่คืออาชีพของเรา เค้าก็ค่อนข้างที่จะให้เกียรติเราพอสมควรค่ะ”.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2395410
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2395410