“ณัฐ ศักดาทร” รู้สึกดีเสียงชื่นชม “ผู้ชายเซ็กซี่ได้” เปิดมุมมีแฟนสายซัพพอร์ต


ให้คะแนน


แชร์

กับบทบาทชนะชล ยากและท้าทายเราขนาดไหน

“อย่างแรกเลยเรารู้สึกมันใหม่ ไม่ค่อยมีตัวละคร LGBT ที่ถูกนำเสนอตัวละครครอบครัว ชายหญิง เล่าถึงแง่มุมปัญหาที่ได้เจอ ระหว่างการเลี้ยงลูกที่โตขึ้นมา เรารู้สึกน่าเล่น ท้าทาย ถ้าเป็นเรื่องอื่นเราจะโฟกัสแค่คู่ของเรา แต่เรื่องนี้ความสัมพันธ์ในครอบครัวมีเรื่องลูกเข้ามาอีกมิติ”

บทชนะชลกลายเป็นตัวแทนของหมู่บ้านเหมือนกันนะ “ถามว่าเป็นตัวแทนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหรือเปล่า คงไม่ได้เป็นตัวแทนอะไรขนาดนั้นเพราะว่าแต่ละครอบครัวมีปัญหาปลีกย่อยแตกต่างกันไป แค่สะท้อนให้เห็นปัญหาแบบไหนเกิดขึ้นได้บ้าง ให้คนดูเรียนรู้คิดตาม ผู้หญิงคิดยังไงสามีมีผู้ชายอีกคน ผมว่าละครเรื่องนี้สะท้อนครอบครัวความเป็นยุคปัจจุบันมากๆ”

ร่วมงานกับปีเตอร์แพน ทัศน์พล เล่นเป็นแฟนเราล่ะ “จริงๆ เขามีความตั้งใจและเปิดใจเรียนรู้อยู่แล้ว ที่ผ่านมาเทคลาสเรียนแอ็กติ้งต่างๆด้วย เรารู้สึกว่าคนแบบนี้เข้ากับเราได้ง่ายอยู่แล้ว เขาอยากพัฒนาตัวเองอยู่แล้ว เราเห็นเขามา เขามีอะไรก็มาปรึกษา เขาคิดว่าตัวละครจะต้องเป็นแบบนี้นะ เขาจะคุยกับเรา ไม่เป็นเรื่องยากอะไรมีเข้าซีนด้วยกัน เรื่องนี้เลิฟซีนหนักๆไม่ค่อย มุมอยู่ด้วยกันเป็นมุมน่ารักดูแลกันมากกว่า”

เวลาเล่นเข้าฉากกับจอยรินล่ะ

“ดีมากครับ เป็นคู่ที่ส่งอารมณ์ให้ทุกซีนเพราะในเรื่องนี้จะมีซีนที่ต้องเคลียร์ปัญหา ดราม่ากันเยอะ 10 ซีน มีดราม่าไปเกินครึ่ง พี่จอยอารมณ์ทางสายตาออกมาชัดมาก มันช่วยเรามากถ่ายทอดเรื่องราวในซีนนั้นๆ”

เรื่องนี้ที่เล่นสะท้อนหรือได้เรียนรู้จากละคร “หนึ่งเลยอย่างประเด็นของครอบครัว เรื่องสำคัญมากๆ เรื่องของการสื่อสารและรับฟังกัน ในเรื่องนี้ บางทีตัวแม่ๆ มีความอยากให้ลูกได้อย่างนั้น เป็นแบบนี้ พอเราเป็นตัวเด็กๆ เล่นๆ เล่าความต้องการของเขา ทำให้เรารู้สึกได้ว่าจริงๆ เด็กๆ อาจจะมีความต้องการไม่เหมือนแม่ สิ่งที่แม่หวังดีสำหรับลูกแต่ลูกอาจจะไม่ได้แฮปปี้ที่จะทำก็ได้ เลยรู้สึกเรื่องครอบครัวการสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญมาก ในครอบครัวเมื่อใดก็ตามที่ลูกรู้สึกไม่มีคนรับฟังจะเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาในครอบครัว บ้านจะไม่อบอุ่นแล้วล่ะ”

ช่วงหลังณัฐหันเหมาเป็นนักแสดง 100% แล้วมั้ย

“ร้อยมั้ย?! เดี่ยวไม่เหลือพื้นที่ให้ใครจ้างร้องเพลง (หัวเราะร่วน) หลังๆ มาทางการแสดงส่วนใหญ่ ยอมรับละครไทยมันกว้างขึ้น มีบทใหม่ๆมากขึ้น บทไม่ได้ลงน้ำหนักแค่พระเอกนางเอก ตัวละครร้ายๆมีมิติมีสีสันมากขึ้น ทำให้ตัวเราไปรับบทต่างๆ ก็สนุกดี เจอเรื่องใหม่ๆ โจทย์ คาแรกเตอร์ใหม่ สนุกดี”

มาด้านการแสดงเต็มตัวกลัวคนลืมไปมั้ยว่าเราร้องเพลงได้ เป็นนักร้องมาก่อน “ไม่กลัวครับ เพลงยังอยู่ในยูทูบแหละ แต่ทุกวันก็ยังมีคนบางคนตามร้องเพลงยังมีอยู่นะ ไม่ว่าอะไรเราแฮปปี้ที่สร้างผลงานให้เขาจดจำ แต่ใจจริงอยากทำแต่ตอนนี้ยังนึกไม่ออก มีมุมเคยคิดทำเพลงใหม่มั้ยก็มีแต่ยังไม่ตกตะกอนซะทีเดียว ทำเพลงใหม่เป็นเพลงแบบไหน ก็เลยยังไม่ได้ทำอะไรออกมา ยังไม่เร่ง”

ตอนนี้ณัฐเป็นนักแสดงและนักร้องอิสระแล้วเนอะ “ครับ เรียกใช้งานได้ทุกที่ (หัวเราะ) ผมออกจากแกรมมี่ 2017 ก็เข้าสู่ปีที่แล้ว 5 แล้ว เป็นการท้าทายอีกแบบนึงเพราะกลายเป็นว่าเราต้องรับผิดชอบในเรื่องเส้นทางการทำงานของเราเอง โปรเจกต์ไหนจะทำหรือไม่ทำ หรือทำเพลงต้องลงทุนเองหมด นี่อาจจะเป็นเหตุผลนึง ไม่ทำออกมามีเรื่องของการใช้ทุนทำเพลงออกมา หรือจ้างคนโปรโมตอะไรต่างๆต้องคิดเยอะขึ้น เรื่องคิวมีน้องที่เป็นผู้ช่วยคอยจัดให้เราก็จะปรึกษากันตลอดเวลา ข้อดีอย่างนึงเราเป็นอิสระ จัดการชีวิตเราได้อย่างที่เราเป็นมากขึ้น เรามีเวลาให้กับสิ่งที่เรามองว่าสำคัญ เช่น การไปออกกำลังกาย ดูแลตัวเอง หรือการไปเรียนแอ็กติ้งเพิ่มเติม พัฒนาสกิลด้านต่างๆที่เราอยากทำได้”

ล่าสุดเห็นทำบ้านเป็นฟิตเนสไปแล้ว

“ช่วงโควิดนี่แหละครับ ไปฟิตเนสทีจะต้องใส่แมสก์ไปเล่นทีก็อึดอัด หายใจไม่ออก จริงๆที่บ้านมีฟิตเนสอยู่แล้วแต่ก็หาเรื่องทำใหม่ ขยับขยายใหญ่ขึ้น แบ่งกั้นจากห้องรับแขกเดิม เสียค่ากั้นห้องและอุปกรณ์ใหม่บางชิ้นประมาณครึ่งล้าน ผมมองว่าคุ้ม อยู่กับมันทุกวันๆ หลาย ชม.อยู่”

เป็นสายบ้าพลังซิกซ์แพ็กแน่นมาก ถือว่าเป็นการเสพติดการออกกำลังกาย “ไม่ถึงขั้นเสพติดแต่ผมมีโมเมนต์ขี้เกียจเหลือเกิน หยุดเป็นอาทิตย์ก็เคยมี แต่ช่วงไหนมีงานเยอะต้องดูแลตัวเอง ต้องใช้รูปร่างในการทำงาน อยู่ๆมีซีนถอดเสื้อ เต้น อีกเรื่องที่ถ่ายเราเป็นนักเต้น บอดี้ทุกอย่างต้องพร้อม มันกลายเป็นอีกสิ่งหนึ่งในหน้าที่การงาน เรามองว่าต้องทำ การออกกำลังเพราะมีโมเมนต์ โอ๊ย เหนื่อย อยากอยู่เฉยๆก็มี เหมือนคนธรรมดาทั่วไป”

แต่ละรูปที่โพสต์ลงไอจีทำไฟลุกได้ฉับพลันเหมือนกันนะ “(หัวเราะ) ถือว่าเป็นการมอบความบันเทิงให้กับผู้ติดตามก็แล้วกันอีกช่องทาง บางทีคนเครียดๆอะไรมาเยอะอะ เราลงอะไรแบบนี้ไปแล้วกัน ให้เขาบันเทิงๆ”

ณัฐกลายเป็นแรงบันดาลใจให้หลายๆ คนลุกมาออกกำลังกาย

“ในมุมนั้นเรารู้สึกดี ใช่ๆ จะมีคนเขียนมาถามเคล็ดลับตลอด ออกกำลังกายยังไง กิน อะไร คนจะชอบสงสัยเรื่องเหล่านี้ ผมไม่ได้มานั่งตอบทีละคน แต่อะไรที่เราแชร์ได้ในโพสต์ของเราก็จะทำ ให้ความบันเทิง บางคนเป็นแรงกระตุ้นอะไรบางอย่าง ลุกขึ้นมาดูแตัวเอง เป็นเรื่องที่ดี”

มาพร้อมคำชมณัฐเป็นผู้ชายที่เซ็กซี่ “อ้าว! ดีสิ ชอบครับ (หัวเราะ) มันสะท้อนความจริงอย่างนึงยุคนี้ ถ้าเป็นสมัยก่อน ผู้ชายอาจจะไม่ได้ถูกมองว่าเซ็กซี่อะไรขนาดนั้น เมื่อก่อนมีแต่ผู้หญิงชุดว่ายน้ำแต่สมัยนี้มันสะท้อนความเท่าเทียม ความเปิดกว้างมากขึ้น เพศไหนก็เซ็กซี่ในมุมของตัวเองได้เหมือนกัน ไม่ต้องใส่ชุดว่ายน้ำก็เซ็กซี่ได้ เราอยู่บ้าน บางคนผมเห็นไม่ต้องโชว์อะไรเยอะแต่ก็ดูเซ็กซี่ได้ ผมว่าทำให้เห็นว่านิยมความเซ็กซี่มีหลายแบบมาก ใครมองเราเซ็กซี่ เย้ๆ ดีใจ (หัวเราะ) ใครชอบเราไม่ว่าเหตุผลอะไรเป็นเรื่องที่ดี”

เผลอแป๊บเดียวอยู่วงการเข้าสู่ปีที่ 15 แล้ว ทุกวันนี้พอใจชื่อเสียง สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในชีวิต

“พอใจมุมนึงแต่มีมุมนึงที่เราอยากพัฒนาไปอีก โตขึ้นอีก ถ้าวันนึงผมมีโอกาสไปเล่นซีรีส์ เหมือนมีโอกาสได้ทำงานกับต่างชาติหรือผมเห็นทุกวันนี้มีการร่วมงานกับประเทศต่างๆมาก โปรดักชันร่วมทุน มันดูดี เราก็อยากอยู่ในโปรดักชันแบบนั้นมากขึ้น บางอันพูดบทภาษาอังกฤษหมดเลยเราก็อยากลองไปทำดู ปีที่แล้วเริ่มมีซีรีส์หนังต่างชาติเรียกไปแคสต์แต่ยังไม่ได้บท แต่เรามองเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นอีกสเต็ปนึง เป็นสเต็ปต่อไปที่เราอยากทำให้ได้”

อัปเดตความรักกันบ้างที่ผ่านมาไม่ค่อยเห็นณัฐเปิดเผยเรื่องนี้เลย

“ก็ดีครับ ที่ไม่ได้พูดเพราะเค้าเป็นคนนอกวงการ เราควรให้เกียรติเขา ถ้าหากเขาไม่อยากอยู่ในพื้นที่สาธารณะร่วมกับเรา ให้คนมานั่งวิจารณ์เค้าร่วมไปกับเรา เราคงความสัมพันธ์แบบนี้เงียบๆของเราไป”

คบกันนานขนาดไหน “คบกัน ถ้าปีนี้จะครบ 3 ปี ไม่โพสต์รูปคู่กัน อย่างที่บอก ความสัมพันธ์ของคนสองคนมันไม่ใช่ว่าเราจะตัดสินใจคนเดียวได้ว่าเราอยากจะพูดความสัมพันธ์ให้คนอื่นฟัง เราต้องดูคนที่อยู่กับเราด้วย ถ้าเค้ารู้สึกไม่สบายใจก็ไม่อยากออกมาพูด พอเราอยู่ตรงนี้ต้องมีคนจับผิดเรื่องนั้นเรื่องนี้ วิจารณ์อย่างนั้นอย่างนี้ เขาอาจจะไม่ต้องการมิติแบบนั้น ผมรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องเอามาเล่า ให้ถึงวัน เธอๆ โอเคแล้วค่อยว่ากัน ผมรู้สึกว่าผมไม่จำเป็นต้องรีเลชันชิป เรามีความสุขกันสองคนโอเค พอบอกให้โพสต์ให้โลกรู้ว่าเราทำอะไรกันบ้างแล้วเรามีความสุขมากขึ้นมันก็ไม่ใช่ เราไม่ได้ต้องการไลค์ จากคนอื่นเพื่อมาเสริมความสุขของเรา”

คนที่เราคุยๆ เขาเข้าใจเราขนาดไหนที่เราเป็นคนบุคคลสาธารณะ

“เข้าใจครับ จริงๆมีการคุยกันแหละจะยังไง”

ไปไหนด้วยกันต้องแอบซุ่มหรือพรางตัวมั้ย “ไม่หรอก ผมไม่ได้เป็นดาราดังขนาดนั้น ไม่ใช่เบอร์ท็อปของประเทศที่ไปไหนคนแอบถ่ายคลิป ไม่มีๆ เราทำตัวปกติครับ ไปไหนมาไหนด้วยกันเรื่อยๆ”

ความรักในวัยปูนนี้สำหรับเราล่ะ “พอเราคบกันในวัยนี้เราผ่านชีวิตกันมาพอสมควรจนรู้ว่าความรักไม่ใช่อะไรที่แบบต้องตัวติดกันตลอดเวลา ทุกคนต้องมีพื้นที่ของตัวเอง ทำสิ่งสิ่งที่ตัวเองต้องการไม่ว่าจะเป็นความฝัน การงาน เราต่างจะอยู่ข้างกัน คอยซัพพอร์ตกันมากกว่า”

มองอนาคตร่วมกันยังไงบ้าง “จริงๆมีคำคุยกันเสมอว่า ประโยคภาษาอังกฤษว่า one day at a time เอาไปทีละวัน คือเราแบบทำแต่ละวันให้มันดี ที่เหลือมันจะค่อยๆ ดีไปเอง เราไม่ได้วางแผน 5 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ค่อยๆ คบกันแต่ละวันนั่นแหละ”

เค้าคอยซัพพอร์ตเราขนาดไหน “ซัพพอร์ตมากครับ ซัพพอร์ตทุกเรื่อง เวลาเราถามความคิดเห็นเขาช่วยเต็มที่”

ถามจริงๆ ลุคเซ็กซี่ของเรา แฟนมีแซวๆไม่อยากให้ถอดมั้ย “ไม่ค่อยนะ มีแต่ยุยง ถอดอีกๆ (หัวเราะ) คนมันเข้าใจสโคปของงานของแต่ละคนมากกว่าไม่มานั่งหึงหวง ผมอยู่กับคนหึงหวงไม่ได้ เคยมีประสบการณ์เมื่อก่อน ตีกรอบให้เรามากๆ เรารู้แล้วว่าอยู่ด้วยไม่ได้ ยิ่งกรอบเยอะยิ่งทะเลาะกันง่าย”

ทุกคนรอณัฐเปิดตัว “รอไปก่อนครับในมุมของเขาสบายใจก่อน เราค่อยพูดเรื่องนี้ในพื้นที่สาธารณะ เราประคองของ เราให้ดีก่อนดีกว่าครับ”.

เรื่อง: วรรณี ห่อวโนทยาน

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/novel/news/2396812
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/novel/news/2396812