หลังจากอัยการจังหวัดนนทบุรีส่งคืนสำนวนการสอบสวนคดีการเสียชีวิตของดาราสาวแตงโม-ภัทรธิดา หรือนิดา พัชรวีระพงษ์ ให้ตำรวจกลับไปสอบสวนเพิ่มเติม 6 ผู้ต้องหาเป็น 5 คนบนเรือสปีดโบ๊ตกับ 1 กุนซือ เพื่อให้สำนวนคดีมีความรัดกุมมากขึ้น พร้อมทั้งให้แจ้งข้อหาเพิ่ม 3 คนบนเรือคือกระติก-อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ และจ๊อบ-นิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร ทั้งสองถูกแจ้งเพิ่มข้อหากระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และปอ-ตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ ถูกแจ้งเพิ่มข้อหาเสพวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2

ความคืบหน้าการสอบสวนเพิ่มเติมกลุ่มผู้ต้องหาคดีแตงโม ที่ สภ.เมืองนนทบุรี เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 21 พ.ค. นายไพบูลย์ หรือโรเบิร์ต ตรีกาญจนานันท์ พร้อมทนายความส่วนตัวเดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี พ.ต.ท.สมุทร์ เกตุยา รอง ผกก.(สอบสวน) และคณะพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดีเพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม เสร็จสิ้นเวลา 09.00 น. เดินทางกลับไป

ต่อมาเวลา 09.30 น. นายนิทัศน์ หรือจ๊อบ กีรติสุทธิสาธร พร้อมทนายความเดินทางมาถึง สภ.เมืองนนทบุรี ขึ้นไปห้องพนักงานสอบสวนบนชั้น 2 เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม และรับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมตามคำสั่งของอัยการจังหวัดนนทบุรี ในข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย พนักงานสอบสวนใช้เวลาสอบปากคำนานกว่า 2 ชม.เสร็จสิ้น ระหว่างเดินลงมาผู้สื่อข่าวสอบถามว่ารู้สึกหนักใจหรือไม่ที่ถูกแจ้งข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายเพิ่ม จ๊อบตอบเพียงสั้นๆว่าไม่หนักใจ ก่อนเดินขึ้นรถตู้กลับไป

ในช่วงบ่าย นายภีม ธรรมธีรศรี หรือกุนซือเอ็ม อีกหนึ่งผู้ต้องหาเดินทางมาให้การเพิ่มเติมต่อพนักงานสอบสวนเป็นคนที่ 3 ของวันนี้ เจ้าตัวถูกแจ้งข้อหาไปก่อนหน้า 2 ข้อหาคือ ช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษหรือให้รับโทษน้อยลง และเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่พนักงานสอบสวน ส่วน น.ส.อิจศรินทร์ หรือกระติก จุฑาสุขสวัสดิ์ อีกคนที่ถูกแจ้งข้อหาเพิ่มเช่นเดียวกับจ๊อบ ได้เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมและรับทราบข้อกล่าวหากระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายกับพนักงานสอบสวนตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 20 พ.ค. ที่ บก.ภ.จ.นนทบุรี ไปแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งกระติกและจ๊อบที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ยังเหลือผู้ต้องหาอีก 2 คนที่ยังไม่เข้ามาพบพนักงานสอบสวนคือนายตนุภัทร หรือปอ เลิศทวีวิทย์ ที่ถูกแจ้งข้อหาเพิ่มเสพวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภท 2 ได้แจ้งมาว่าจะเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมและรับทราบข้อกล่าวหาในวันหลัง ยังไม่ทราบวันเวลาที่แน่ชัด ส่วนแซน-วิศาพัช มโนมัยรัตน์ ที่ติดเชื้อโควิด-19 พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างหารือกันว่าจะสอบปากคำด้วยวิธีใด เนื่องจากเจ้าตัวต้องเซ็นชื่อในบันทึกคำให้การด้วย ทั้งนี้ จะต้องทำให้เสร็จสิ้นก่อนวันที่ 27 พ.ค. เพื่อส่งสำนวนคืนให้อัยการจังหวัดนนทบุรีสั่งฟ้องต่อไป สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 6 คนที่อัยการจังหวัดนนทบุรีมีหนังสือคำสั่งมาให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อให้สำนวนรัดกุมมากขึ้น ไม่ได้เป็นการสอบปากคำใหม่แต่อย่างใด
ช่วงเที่ยงวันเดียวกัน โลกออนไลน์เกิดเรื่องฮือฮาเมื่อเฟซบุ๊กส่วนตัวของแตงโมที่ใช้ชื่อ “Happy Melon Patcharaveerapong” ที่มีเพื่อน 875 คน หลังจากไม่มีความเคลื่อนไหวมาตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ. ก่อนแตงโมเสียชีวิต จู่ๆได้

โพสต์ภาพถ่ายด้านหลังของ “กระติก-อิจศรินทร์” สวมชุดสีชมพูยืนโบกมืออยู่บนเรือสปีดโบ๊ตหันหน้าออกไปทางแม่น้ำ ระบุข้อความ “หนูถูกทำร้ายจากเพื่อนที่เรารักแล้วไว้ใจ” สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา บรรดาแฟนคลับเข้าไปคอมเมนต์ตำหนิว่าไม่ควรเอาเฟซบุ๊กของคนที่ล่วงลับไปแล้วมาโพสต์เล่น พร้อมทั้งวอนให้หาต้นตอคนโพสต์ ขณะที่นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของแม่แตงโม โพสต์ข้อความว่า “เรียนสื่อมวลชน ภาพนี้ คุณแม่ไม่ได้เล่นเฟซบุ๊กแตงโม เล่นไม่เป็น และไม่ทราบว่าใครเป็นผู้โพสต์”

ต่อมาเวลาประมาณ 16.00 น. เฟซบุ๊กของแตงโมยังโพสต์อีกภาพ เป็นภาพที่แตงโมถ่ายเซลฟี่ร่วมเฟรมกับปอ กระติก และแซน พร้อมข้อความว่า เรายังไม่ไปไหน เรายังรอความจริงจากปากทั้ง 5 คนอยู่ แต่ถ้ายังไม่พูดความจริง เราจะเปิดความจริงให้ทุกคนได้รับรู้พร้อมกัน ว่าเหตุเกิดบนเรือคืออะไร “ลบข้อมูลมือถือ อย่าคิดว่ากู้คืนไม่ได้หรือ ไอ้เพื่อนรัก” สร้างความงุนงงให้บรรดาชาวเน็ตพากันสงสัยว่าใครเป็นคนโพสต์กันแน่

ฮิปโป-ฉันท์ชนะ ยิ้มสาย เพื่อนสนิทของแตงโมยืนยันว่า บรรดาเพื่อนๆไม่มีใครรู้แอ็กเคาต์ของแตงโม เพราะแตงโมไม่ได้รับรีวิวงานในเฟซบุ๊กไม่ต้องให้แอ็กเคาต์ใครไว้ และโทรศัพท์มือถือก็อยู่กับตำรวจตั้งแต่ 3 วันแรกที่เกิดเรื่อง หากใครจะเข้าเฟซบุ๊กแอ็กเคาต์นี้จากเครื่องอื่น ตามปกติระบบของเฟซบุ๊กจะแจ้งเตือนไปยังมือถือเครื่องหลักที่ลงทะเบียนไว้ ไม่รู้ว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร และไม่ใช่ฝีมือพวกตนแน่นอน

ด้านนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่แตงโม เผยว่า ตอนนี้มือถือของน้องโมอยู่กับแม่ ตำรวจคืนมาให้สักระยะแล้ว แต่แม่ไม่ได้เป็นคนโพสต์ ภาพนี้เห็นมาก่อนแล้วเป็นภาพที่น้องโมถ่ายกระติกบนเรือ ช็อตนี้มีประมาณ 10 รูปอยู่ในมือถือน้องโม แม่เปิดดูแล้วมีภาพบนเรือเยอะมากเป็นร้อยๆภาพ พอเห็นอีกครั้งเลยไม่ตกใจ ในความคิดส่วนตัวคาดว่ากระติกเป็นคนทำ แต่ทำเพื่ออะไรไม่ทราบจริงๆ หรืออาจจะแค้นที่โดนอัยการเพิ่มข้อหาทุกคนบนเรือกระทำประมาททำให้น้องโมเสียชีวิต

เมื่อถามว่าอะไรที่คิดว่ากระติกเป็นคนทำเพราะจากข้อความเหมือนเป็นการต่อว่าคนในรูป แม่แตงโมตอบว่า กระติกรู้รหัสและไอดีของน้องโม ส่วนที่โพสต์ภาพตัวเอง แต่ตัวหนังสือเป็นเหมือนน้องโมเขียน คงต้องการให้คนงงเล่น แต่ก็แปลกทำไมถึงเขียนแบบนี้ ไม่คิดว่าเฟซบุ๊กของแตงโมโดนแฮ็ก เพราะกระติกมีทั้งรหัสและไอดีเครื่องของน้องโม แต่ทำเพื่ออะไรไม่รู้จริงๆ และมีอีกเรื่องที่แม่แปลกใจ ข้อมูลหรือภาพต่างๆที่แม่แคปในเครื่องแท็บเล็ตของแม่ไปขึ้นที่เครื่องของน้องโม ทั้งๆที่แม่ไม่ได้เป็นคนส่ง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร

ที่ สน.มีนบุรี ช่วงบ่ายวันเดียวกัน น.ส.อิจศรินทร์ หรือกระติก จุฑาสุขสวัสดิ์ พร้อมทนายความ เข้าพบ พ.ต.อ.รัฐศักดิ์ รักสลาม รอง ผบก.น.3 เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมหลังแจ้งความดำเนินคดีนายจรินทร์ หรือจิน ธรรมวัฒนะ สามีของดาราสาว หนิง-ปณิตา ธรรมวัฒนะ ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณากรณีแสดงความคิดเห็นในอินสตาแกรมของหนิง-ปณิตา ที่โพสต์ภาพแซน-วิศาพัช ถ่ายรูปคู่กับกระติก-อิจศรินทร์ โดยได้นำพยานเป็นบุคคลทั่วไปที่อ่านโพสต์ดังกล่าวเข้ามาให้ปากคำเพิ่มอีก 1 ราย พ.ต.อ.รัฐศักดิ์กล่าวว่า จากนี้จะตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนพิจารณาออกหมายเรียกให้ผู้ถูกกล่าวหามาพบตำรวจภายใน 7 วัน

กระติกกล่าวถึงภาพตัวเองยืนหันหลังบนเรือที่ถูกโพสต์ลงเฟซบุ๊กของแตงโมว่า เป็นภาพที่แตงโมเป็นคนถ่ายช่วงเวลาขากลับจากไปทานข้าวกัน คนที่มีรูปนี้ต้องมีโทรศัพท์ของแตงโมด้วย เนื่องจากตำรวจได้คืนโทรศัพท์ไปเป็นสัปดาห์แล้ว ไม่ทราบว่าโทรศัพท์ของแตงโมอยู่กับใคร ยืนยันว่าไม่ได้อยู่กับตนเพราะไม่ใช่ทรัพย์สมบัติส่วนตัว นอกจากนี้ เมื่อคืนก่อนมีเพื่อนแจ้งว่าเห็นบัญชีคลับเฮาส์ของแตงโมขึ้นออนไลน์ แสดงว่ามีคนใช้โทรศัพท์ของแตงโม หากเป็นการแฮ็กจะต้องไม่มีรูปนี้ เพราะรูปอยู่ในโทรศัพท์ของแตงโมเท่านั้น ทนายเดชาก็ปฏิเสธเรื่องแม่แตงโมเข้าไปใช้โทรศัพท์แล้ว ทั้งนี้ จากที่อ่านข้อความในโพสต์เฟซบุ๊กของแตงโมพบว่า เป็นการกล่าวหาตนในลักษณะปลุกปั่นให้ได้รับความเสื่อมเสียชัดเจน จะขอรวบรวมข้อมูลต่างๆ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีในภายหลัง