กระติก เปลี่ยนไป ไม่ใช่เหมือน 3 เดือนก่อน เผยยังไม่ฟ้องแม่ ขอคุยกันก่อน


ให้คะแนน


แชร์

โดยก่อนหน้านี้ กระติก เคยมานั่งให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในรายการโหนกระแส ยังมีความทุกข์และกังวลไม่น้อย ระหว่างที่ตอบคำถามก็มีการร้องไห้ 3 ครั้ง แต่แค่เพียงแป๊บเดียวเท่านั้น ซึ่งสร้างความงุนงงให้กับ กรรชัย พิธีกรผู้ดำเนินรายการไม่น้อย 

แต่ล่าสุด กระติก อิจศรินทร์ ได้มานั่งพูดคุยในรายการโหนกระแสอีกครั้ง แต่การมาครั้งนี้ กระติก เปลี่ยนไปจน หนุ่ม กรรชัย ต้องเอ่ยปากถามอีกครั้ง

วันนี้ดูแข็งแกร่งขึ้นนะ? 

พี่ลองมาโดนด่าแบบหนูมั้ย 3 เดือนเต็มๆ ลองดูมั้ย ความแข็งแกร่งคือหนทางเดียวที่เราจะอยู่ต่อบนโลกใบนี้ได้ ต้องลุกขึ้นมาแล้วค่ะ อะไรก็หนู 

กระติกเปลี่ยนไป ไม่ใช่เมื่อ 3 เดือนก่อน เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เปลี่ยนไปเลย? 

ตั้งสติค่ะ เรื่องมันเกิดแล้ว และวางแผนการก้าวเดินของชีวิต ตอนนั้นมันสับสนแล้วโดนด่า เสียใจก็ด้วย ไม่รู้กี่ร้อยล้านความรู้สึกข้างใน วันนี้ตั้งสติได้ และคุยกับที่ปรึกษาทนายทุกวัน คนเห็นใจกระติกก็มี แต่ไม่ได้อยู่กับคนกลุ่มที่เขามาว่า ถ้าสนใจคนกลุ่มนี้ก็แย่สิ ดำเนินชีวิตไปต่อไม่ได้ เป็นคนธรรมดาอยู่กับความเป็นจริง 

ตาคุณแข็งมาก? 

วันนี้แต่งหน้า ปกติไม่ได้แต่ง เพิ่มความมั่นใจให้ตัวเองแค่นั้นเอง 

วันนี้ยังเสียใจกับเรื่องราวของแตงโมอยู่มั้ย? 

เสียใจค่ะ เพราะว่าเสียเพื่อนรักมากๆ ไปหนึ่งคน แต่ก็อย่างที่บอกเราเป็นแม่ 3 เดือนที่ผ่านมาจะให้นั่งร้องไห้ทุกวันมันก็ทำไม่ได้ ยังเป็นความคิดถึง แต่เสียใจฟูมฟายอยู่ไม่ได้ไม่ใช่ คิดถึง โหยหามันมีอยู่แล้ว เพราะมีความทรงจำด้วยกันมากๆ มันไม่มีทางลืมเขาไปได้เลย

ติกต้องตั้งสติแล้วเดินหน้า เพราะว่าเราได้รับความเสียหาย ต้องฟ้องร้องคดีกับใครหลายคน ต้องใช้สติและปัญญาด้วยในการคุยข้อกฎหมาย เราฟ้องคนด้วยความสุจริตใจ ไม่ได้ไปบิดเบือนข้อความใคร 

ในวันนี้กระติกพร้อมเผชิญทุกอย่าง? 

ใช่ และต้องพูดกับตัวเองว่าเราไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ไปตามกระแสว่าเราผิด เราไม่ผิดค่ะ ต้องยืนยันคำนี้ 

ได้คุยกับคุณแม่บ้างมั้ย? 

คุยกันเมื่อวันที่ 14 วันเสาร์ค่ะ ส่งกำหนดการวันฌาปนกิจมา เห็นมิสคอล เลยโทรกลับไป แต่คุณแม่ก็ไม่ได้รับ จนคุณแม่ส่งเป็นจดหมายที่เป็นข่าวมา กระติกไม่ได้เห็น

เป็นจดหมายสารภาพว่าติกไปสารภาพทุกอย่างบนเรือ เขียนว่าติกเป็นคนหลอกไป เอาไปให้ปอกับเบิร์ตรุมโทรม และเอามีดกรีดขาและผลักตกเรือเป็นเรื่องเป็นราว แม่ส่งมาให้

แต่ก่อนที่แม่จะส่งมา ได้เข้าไปคุยกับตำรวจเรียบร้อยเป็นอาทิตย์แล้ว เข้าไปพิสูจน์ลายมือ แสดงความบริสุทธิ์ใจ ตำรวจก็อัดและถ่ายคลิปตอนที่เขียนไว้ด้วย เรื่องนี้ก็จบไปแล้ว ตำรวจก็ไปสืบต่อ

แต่หลังจากนั้นคุณแม่ยังติดใจอยู่มั้ยถึงได้ส่งมาถามซ้ำเรื่องเดิม ซึ่งติกก็ได้ชี้แจงกับแม่ไปแล้ว อธิบายเป็นข้อๆ ติกไม่ได้เป็นคนเขียนค่ะ ไม่ใช่ลายมือติกแน่นอน เขียนต่อหน้าตำรวจแล้ว 

พรุ่งนี้จะเผาแตงโม กระติกไปมั้ย พร้อมเผชิญหน้ากับแม่? 

ไปค่ะ พร้อมค่ะ วันไว้อาลัยก็เจอนะ พร้อมเผชิญกับทุกสิ่ง เจอนักข่าวก็คุยได้ ไม่ได้กลัวแล้ว ที่ผ่านมาก็เห็นว่าคุย พอเผชิญแล้วก็บอกตัวเองว่าเราชี้แจงบ้างก็ดี บางสิ่งที่มันกระทบและไม่ใช่ความจริง ไม่เช่นนั้นคนก็จะอยู่กับความไม่จริงแบบนั้นไปเรื่อยๆ และเชื่อว่าเราเป็นแบบนั้น

ไม่ได้หวังให้เชื่อ แต่อย่างน้อยเราได้พูดความจริงออกไป ก็แล้วแต่วิจารณญาณเชื่อหรือไม่เชื่อเรื่องไหนก็พูดไปหมดแล้ว แต่อยู่ที่คนฟังจะเชื่อหรือว่ารับความจริงกันได้มั้ย ยอมรับความจริงไปได้มั้ย 

กับแม่เดือดร้อนมากๆ นะกับสิ่งที่คุณแม่พูด เป็นการใส่ร้ายกล่าวหา ติกอยากให้คุณแม่ปรึกษาคนที่เขามีความรู้ก่อนที่จะให้มาสัมภาษณ์อะไร เขาก็จะได้บอกว่าแบบนี้ไม่ได้นะ 

แต่แม่เชื่อว่าเป็นเรื่องฆาตกรรม ก็เป็นเรื่องส่วนตัว ความรู้สึกของคุณแม่ ติกไม่ทราบว่าคุณแม่ไปคุยกับใครมา คนสูงอายุ เสียลูกสาวไป สภาพจิตใจด้วย และข้อมูลมารอบด้าน เขาอาจจะไม่ได้กลั่นกรอง น่าเห็นใจนะ อย่างจดหมายอ่านแล้วถ้าไม่ได้รู้ความสนิทของโมกับติกก็อาจจะเชื่อไปได้ 

จะฟ้องคุณแม่มั้ย อยากจะพูดคุยก่อน อยากให้เขาเข้าใจมุมเรา อยากให้แม่ปรึกษาทนายก่อนออกมาเจอสื่อ เพราะมันอันตราย ล่าสุดมีพูดว่าอี ซึ่งได้ยินก็ตกใจเหมือนกัน เพราะล่าสุดได้คุยกันแล้ว ก็ถามว่ามีทำร้ายมั้ย เหมือนจะเคลียร์ ถ้าสงสัยก็ถามได้

ฟ้องมั้ยขอละไว้ก่อน ของคุณแม่ติกเป็นห่วง ปรับความเข้าใจกันก่อน เชื่อหรือไม่เชื่อ คุณแม่ไปฟังอะไรมา ดูก่อนเพราะว่าเป็นผู้สูญเสียเหมือนกัน.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2400246
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2400246