หลินชิงเสีย นางเอกค้างฟ้าครบ 65 ปี แต่หัวใจยังอยู่ที่วัย 22

หลินชิงเสีย นางเอกค้างฟ้าครบ 65 ปี แต่หัวใจยังอยู่ที่วัย 22

หลินชิงเสีย –  เซาท์ ไชน่า มอร์นิง โพสต์ รายงานเจาะลึกชีวิตในวงการบันเทิงของ หลิง ชิงเสีย หรือ บริจิตต์ หลิน นางเอกดาวค้างฟ้าชาวไต้หวัน ที่มีอายุครบ 65 ปี ในวันเกิดวันที่ 3 พ.ย.นี้

หนังสือ “Inside and Outside the Window” ที่นางเอกคนดังเขียนและเปิดตัวเมื่อปี 2553 หลินชิงเสีย เคยบอกกับคลอดีน ลอเรน อิง ลูกบุญธรรมตอนลูกอายุ 22 ปี ว่า “ลูกอายุ 22 แต่ดูหัวใจแม่สิ แม่ก็ 22 เหมือนกันนะ ถ้าลูกมีหัวใจเหมือนเด็ก ลูกก็จะมีอายุ 22 ตลอดไป” 

ภาพยนตร์เรื่องแรก Outside the Window (1973) พ.ศ.2516

 หลินชิงเสียเริ่มเข้าวงการภาพยนตร์ตั้งแต่อายุ 19 ปี จากการแสดงภาพยตร์เรื่องแรก Outside the Window ที่ดัดแปลงเนื้อเรื่องมาจากนิยายของหยงเฉา และฝากฝีมือการแสดงครั้งสุดท้ายในภาพนตร์เรื่อง Ashes of Time หรือ มังกรหยก ศึกอภิมหายุทธ ของหว่อง กาไว เมื่อปี 2537

หลินเปิดเผยไว้ในหนังสือที่เขียนเองว่าช่วงหนึ่งของชีวิตที่ทำงานยุ่งมากที่สุด ตอนนั้น รับแสดงหนัง 6 เรื่อง รับเป็นตัวละคร 6 บท แต่ลืืมแสดงบทบาทเป็นตัวเอง เมื่อยืนส่องกระจก เห็นแต่ใบหน้าที่ไม่คุ้นเคย และถามตัวเองว่า ฉันเป็นใคร ไม่ชอบอะไร ทำไมไม่มีความสุข

Ashes of Time (1994) มังกรหยก ฉบับ หว่องกาไว ผลงานสุดท้ายก่อนหลินชิงเสียอำลาวงการ ปี 2537

 เมื่อตอบคำถามเหล่านั้นไม่ได้เลย และความรู้สึกที่ผุดขึ้นในใจก็คือการหตระหนักได้ว่า สูญเสียตัวตนไปเสียแล้ว

 ผู้ชมภาพยนตร์ภาษาจีนเห็นแต่ใบหน้าสวยงามที่หลินชิงเสียได้รับฉายาว่า  “big beauty” และครองใจคอหนังจีนมาตั้แต่ 50 กว่าปีก่อนจนถึง 30 ปีที่แล้วจากการสวมบทบาทต่างๆ ตั้งแต่เด็กนักเรียนหญิงขี้อายไปจนถึงผู้หญิงที่ตามหาความรักจากนักสู้ผู้ไม่เคยแพ้

Photo: SCMP

เธอแจ้งเกิดในวงการ ขณะที่ไต้หวันอยู่ภายใต้กฎอัยการศึก สังคมถูกควบคุมและเซ็นเซอร์อย่างเข้มงวด ผู้ผลิตภาพยนตร์หลีกเลี่ยงอะไรก็ตามทีี่ละเมิดกฎอัยการศึกและการเมืองที่เปราะบางด้วยการเลี่ยงไปกำกับภาพยนตร์แนวดรามา

 ยุค 70 หรือเมื่อประมาณ 50 ปีก่อน ซึ่งเป็น 10 ปีแรกที่หลินเริ่มอาชีพนักแสดง เธอเล่นหนังเกือบ 20 เรื่องที่แต่งโดยหยงเฉา

หลินเคยให้สัมภาษณ์นิตยสาร Variety เมื่อปีที่แล้วว่า “ในยุคนั้น ห้ามแสดงเรื่องเกี่ยวกับความรุนแรง นองเลือดหรือเซ็กซ์เพราะผู้คนอนุรักษ์นิยมสูง ดังนั้น หนังรัก จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดและปลอดภัยทีี่สุด”

หลินเปิดเผยเรื่องราวชีวิตส่วนตัวในหนังสือเล่มที่ 2 เรื่อง “Cloud to Cloud” ว่าเคยคบหากับฉิน ฮั่น และ ฉินเสียงหลิน โดยฉิน เสียงหลิน คบหาเธอระหว่างถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง นางพญางูขาว ปี 2521 และเธอเคยรอเขาที่กรุงปารีส ฝรั่งเศสอยู่สัปดาห์หนึ่งหลังจากเสร็จงานแล้ว แต่เขามาที่ปารีสพร้อมกับเติ้ง ลี่จวิน ซึ่งเป็นเพื่อนของหลินด้วย

Chungking Express (1994) ผลงานลือลั่นของหว่องกาไว ที่หลินชิงเสียแสดงตอนต้นของเรื่อง

เมื่อหนังรักเริ่มเสื่อมความนิยมในไต้หวัน หลินหันไปเล่นหนังในฮ่องกงและแสดงร่วมกับ ถัน เย่าเหวิน ในเรื่อง  Love Massacre ซึ่งเป็นภาพยนตร์แนวระทึกขวัญเมื่อปี 2524 โดยในยุคนั้นภาพยนตร์แนวนี้ได้รับความนิยมและสร้างชื่อเสียงให้กับผู้ผลิตภาพยนตร์ฮ่องกงหลายคน รวมทั้ง ถัน เย่าเหวิน, ฉี เคอะ และ  ยิม โฮ ซึ่งสองคนหลัง มีบทบาทสูงต่ออาชีพการแสดงของหลิน

หลินแสดงภาพยนตร์แนวดรามาของยิมเรื่อง  Red Dust คว้ารางวัลนักแสดงดีเด่นจากรางวัลม้าทองคำ หรือ รางวัลออสการ์ของภาพยนตร์จีน

นักแสดงวัย 65 ปีเล่าความหลังว่า ยิมเลี้ยงอาหารค่ำเธอและซานเหมา นักเขียนชาวไต้หวันในปี 2531 เพราะยิมอยากเชิญให้ซานเหมาเขียนบทให้หลินและยิมจะเล่นบทเป็นผู้กำกับ หลังจากเขียนบทเสร็จเรียบร้อย ซานเหมาเชิญหลินไปที่บ้านและซานเหมาอ่านบทด้วยเสียงดังหน้าต่อหน้า ราวกับว่าเธอสวมบทบาทต่างๆ อยู่ซึ่งเชื่อได้เลยว่าไม่มีใครมีประสบการณ์อย่างเธอ และซานเหมายังเล่นดนตรีให้ฟังด้วย

หลินชิงเสียร่วมงานเปิดตัวหนัง Red Dust ที่ตนเองเคยแสดงและใช้เทคโนโลยีดิจิทัลปรับปรุงเวอร์ชันใหม่ ที่ไทเป ไต้หวัน เมื่อ 5 มี.ค  2019 (Photo by Chen Xiaoyuan/China News Service/Visual China Group via Getty Images)

ปี 2535 ฉี เคอะ ให้เธอเล่นบท ตงฟางปุ๊ป้าย – บูรพาไม่แพ้ ในเรื่องเดชคัมภีร์เทวดา2 กำกับโดย ชิง ซิว–ทัง เป็นบทที่โด่งดังจากนวนิยายของ กิมย้ง จากเรื่องกระบี่เย้ยยุทธจักร นี่เป็นบทที่ผู้คนจดจำหลินชิงเสียได้มากที่สุด และก็ไม่มีตงฟางปุ๊ป้ายคนใดจะดังไปกว่าหลินชิงเสีย

หลินบอกว่าเมื่อตอนที่ฉี เคอะ ขอให้เล่นบทบูรพาไม่แพ้ ก็ตอบตกลงทันทีและยังบอกด้วยว่า ฉี เคอะ และวิลเลียม ชาง ซุก–ปิง ฝ่ายออกแบบเสื้อผ้า เป็นคนที่เธอไว้ใจที่สุดในวงการภาพยนตร์

ตงฟางปุ๊ป้ายในตำนาน

 ส่วนเรื่อง Ashes of Time เป็นผลงานคลาสสิคของหว่องกาไวเช่นเดียวกับ Chungking Express จากนั้นหลินชิงเสียก็อำลาวงการเพื่อไปใช้ชีิวิตเงียบๆ กับไมเคิล อิง สามีเศรษฐีชาวฮ่องกงกับลูกสาว 2 คน เอลีน หยิง และ เมลานิ หยิง รวมทั้ง คลอดีน บุตรบุุญธรรม

ปีที่แล้ว เทศกาลภาพยนตร์ฮ่องกงและเทศกาลภาพยนตร์ อูดิน ฟาร์ อีสต์ เปิดตัวภาพยนตร์ที่นำมาสร้างใหม่ เรื่อง  “รักในม่านเมฆ” และในเทศกาลภาพยนตร์อิตาลีมอบรางวัลมัลเบอร์รีทองคำสาขา  Lifetime Achievement ให้กับหลิน

เมื่อดูภาพยนตร์เก่าๆ ที่เคยแสดง หลินบอกว่าไม่เคยคิดว่าตัวเองสวยมากในวันก่อน ก็เสียใจอยู่เหมือนกันที่ไม่รู้ว่าจะต้องชื่นชมกับความงาม หรือปลาบปลื้มกับตัวเองอย่างไร เมื่อตอนที่ยังสาวอยู่

////////////////////

ที่มา : บันเทิง Archives – ข่าวสด
ขอขอบคุณ : บันเทิง Archives – ข่าวสด