หญิง รฐา เผยละครมามี้ที่รัก ตัวละคร สรินตา คล้ายชีวิตแม่น้อย


ให้คะแนน


แชร์

“ตลอด 5 ปีหญิงไปรับเล่นซิตคอมหมดเลย จะเห็นหญิงในละครยาวน้อยมาก และก็เริ่มดูซีรีส์ต่างประเทศ ซีรีส์เกาหลีมาเยอะ เลยรู้สึกว่ามีเรื่องราวอีกเยอะเลยที่จะมาเป็นบทละครไทยได้ ที่จะตีแผ่ชีวิตคนหรือมุมมองอาชีพที่ลึกขึ้นเลยมองที่ตัวเอง เราก็อายุมากขึ้นแล้ว เราไม่ควรไปเล่นเป็นตัวร้ายที่มันตบตีแย่งชิงอะไรอีกแล้วหรือเปล่า

อยากเล่นละครที่มันต่างกว่าเดิม แล้วผู้จัดฯ เอิน ณิธิภัทร์ เขาก็ทักมาบอกว่ามีบทละครที่เป็นแฟมิลี่ฟีลกู๊ด สนใจอยากเล่นมั้ย แต่มันก็มีดีเทลข้างในที่น่าสนใจลองเอาบทไปอ่านดู

หญิงลองอ่านแล้ว แวบแรกที่อ่านทำให้นึกถึงซีรีส์อเมริกาแม่ๆ แต่มีสตอรี่ดราม่าของแต่ละครอบครัว และมีเรื่องฆาตกรรม เลยทำให้หญิงตัดสินใจเล่น เพราะมันมีเรื่องราวซ่อนอยู่ในแต่ละครอบครัว ที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกครอบครัว เป็นผู้หญิงที่ไปอยู่ในบ้านใหม่ แล้วมีปัญหากับคนในครอบครัวของเขา จะต้องทำตัวอย่างไร”

พอมาเล่นแล้วเป็นอย่างไรบ้าง?
“ความเครียดคือหญิงอยู่กับจังหวะซิตคอมมานานมาก พอเป็นละครยาวก็ต้องปรับนิดนึงว่าอันไหนน้อยไป อันไหนมากไป และในเรื่องนี้ไม่เคยร่วมงานกับนักแสดงหลักมาก่อนเลย

อย่างกับ มาร์กี้ ราศรี ก็มีความกังวลเพราะเขาเป็นรุ่นน้อง หญิงไม่เคยทำงานกับมาร์กี้ แต่พอเวิร์กช็อปก็ได้รู้ว่ากี้เขาเป็นคนนิ่งๆ ไม่ตลก ก็ทุกอย่างไปกันได้ด้วยดี

แต่ก็มีปัญหาเรื่องเด็กนี่แหละ (หัวเราะ) หญิงไม่เคยทำงานกับเด็กทั้งเรื่องแบบนี้ หญิงก็จะคิดว่าจะทำให้เราสนิทผูกพันกัน เจอกันต้องให้เขาวิ่งมาหา เพราะหญิงเป็นคนหน้าดุ แล้วเป็นคนเสียงดุ 

โจทย์แรกต้องละลายพฤติกรรมกับน้องให้น้องกล้าเข้ามาหาหญิง ก็ซื้อขนม ซื้อเลโก้ ยัดใต้โต๊ะ (หัวเราะ) น้องก็เห็นว่าเราใจดีก็เริ่มตีสนิท แต่ริวจิเขาเด็กที่สุดเลยในเรื่อง เขาไม่เคยเล่นละคร เล่นแต่โฆษณา ถ่ายแค่สั้นๆ มันไม่ได้พูดไดอะล็อกยาว

แต่พอต้องมาอยู่ในซีนที่ไดอะล็อกมันยาวเขาก็จะบ่นๆ ในซีนตอนที่ยังไม่คัต (ยิ้ม) ทำงานกับเด็กก็ได้เรียนรู้หลายๆ อย่าง รวมถึงเรียนรู้ตัวเองว่าเรามีความอดทนแค่ไหน (หัวเราะ)”

เล่นเป็นแม่กังวลมั้ย?
“จะพูดว่าไม่กังวลก็คงเป็นไปไม่ได้ จริงๆ หญิงเล่นบทแม่เยอะนะคะ ตั้งแต่หนังเรื่องจันดารา จริงๆ เล่นมาเยอะเลยไม่ได้กังวล เพราะเราก็เคยเล่นบทแม่และหญิงอยู่กับแม่น้อย 2 คน ดังนั้นหญิงเลยจับความรู้สึกของคนเป็นแม่ได้ไว

ถ้าดูในละครก็จะเห็นว่ามีบางฉาก บางตอน บางซีน ที่เหมือนชีวิตหญิงเหมือนกัน เช่น ซีนเอาลูกออกจากบ้าน หญิงอ่านบทแล้วร้องไห้ เพราะมันทำให้นึกถึงวันที่แม่น้อยเอาหญิงออกจากบ้าน มีเงินแค่ 800 บาท มันเป็นโมเมนต์ และภาพจำที่หญิงเก็บมาใช้กับตัวละคร

ซึ่งเอาจริงๆ ตัวละครนี้เหมือนแม่น้อยมาก แต่ว่าบ้านคุณพ่อไม่ได้ถึงกับว่าเป็นทหาร แต่คุณพ่อเป็นคนหวงคุณแม่ ไม่ชอบให้คุณแม่ไปเล่นตลกตอนกลางคืน ไม่ชอบให้แต่งตัวโป๊ ซึ่งสมัยนั้นแม่น้อยแซ่บมาก แต่งตัวเก่ง มันคล้ายแม่เราเหมือนกัน เลยดึงความรู้สึกนี้มาใช้กับตัวละครนี้

และหลังจากที่เล่นละครเรื่องนี้ หญิงบอกได้เลยนะว่าการแต่งงานไม่ใช่แค่เรื่องของ 2 คน การแต่งงานเป็นเรื่องของกลุ่มคน 2 ครอบครัว การสมานฉันท์

การโอนอ่อนผ่อนตาม มันต้องมีคนแข็งและอ่อน เพื่อประคับประคองให้ครอบครัวมันอยู่กันไปได้ เป็นตัวอย่างของครอบครัวคนไทยที่น่าจะเกิดขึ้นกับทุกครอบครัวที่เป็นครอบครัวใหญ่ มันต้องมีสักมุมที่คนดูแล้วรู้สึกว่าตัวเองก็เจอแบบนี้มาก”

เข้าฉากกับ เดี่ยว สุริยนต์ ไม่มีฉากยิ้มเลย?
“เราเคยเจอกันสมัยที่หญิงเป็นนักร้อง และพี่เดี่ยวทำรายการพิธีกรอยู่ เลยู้รู้จักกันมาประมาณนึง แต่ไม่เคยร่วมงานกัน ซึ่งเขาเป็นคนเก่ง และตั้งใจ หญิงสบายใจมาก เพราะพาร์ทเนอร์เราต้องทำการบ้านมาแน่ๆ

พอมาเจอกันหน้าเซตก็มาหาจุดตรงกลางทำงานร่วมกัน แรกๆ ก็มีปัญหาบ้างแต่สุดท้ายก็จูนกันได้ เล่นกันไปเรื่อยๆ เข้าขากัน เชื่อว่าเราคือสามีภรรยากันจริง”

กับมาร์กี้และจอยล่ะ?
“เบื้องหลังสนุกมา แรกๆ เราไม่ค่อยสนิทกัน แต่หลังๆ เริ่มตั้งวงสนทนา จนผู้กำกับบอกหยุดคุยกันก่อน ทำงานกันก่อนก็เป็นอะไรที่ประทับใจ หญิงทำงานเรื่องนี้แฮปปี้ มีความสุขมาก ตั้งแต่เข้ากองมาทุกอย่างมันเป็นระบบ ทุกคนทำงานร่วมกัน”

ขึ้นชื่อละครครอบครัว ละครฟีลกู๊ด รู้สึกกดดันมั้ย?
“กดดันค่ะ เพราะสนิทกับจ๊ะและเอินและทางมาสเตอร์วันเขาได้รางวัลมาเยอะมาก ดีใจที่น้องๆ คิดถึงหญิง น้องหาคาแรกเตอร์ที่เหมาะกับหญิงมาให้ แต่บทสนุกมากค่ะ ยิ่งพออ่านบทก็ยิ่งสนุก หญิงอ่านของทุกตัวละครเลยไม่ได้อ่านแค่บทของตัวเอง

ทำไมคนต้องดูละครเรื่องนี้?
“มามี้ที่รักเป็นละครสร้างสรรค์สังคมนะ มีครบทุกรส ดราม่า คอมเมดี้ สืบสวนสอบสวน และสำหรับหญิงรู้สึกว่าละครเรื่องนี้ทำให้เห็นว่าผู้หญิงเวลาเจอปัญหาแต่สู้ยิบตา มันเป็นปัญหาที่ทุกคนต้องเจอในแต่ละวัน

อยากให้มาลองดูว่าปัญหาทุกอย่างแก้ไขได้ด้วยอะไร บางคนที่รู้สึกว่าตัวเองเก่งเหลือเกิน สุดท้ายแล้วในชีวิตอาจจะต้องยอมไม่เก่งบ้าง ยอมเข้าใจคนอื่นบ้าง หญิงว่ามันเป็นเรื่องสำคัญสำหรับสังคมและการใช้ชีวิตคู่

มันเป็นละครอีกแนวหนึ่งที่ไม่ใช่การฟาดฟันกันของนางเอกและตัวร้าย อยากให้คนดูลองเปิดใจมาดูอะไรที่กลางๆ และดูเรียลเหมือนชีวิตจริง”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2405227
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2405227