“เชียร์” ควง “เต้ย” ลุ้นปลุกกระแสคู่จิ้น ฟุ้งเลิฟซีนเยอะที่สุดใน “บุพเพร้อยร้าย”


ให้คะแนน


แชร์

เริ่มจากคาแรกเตอร์ของแต่ละคน?

เต้ย “ผมรับบทชินกฤต คาแรกเตอร์ผมเป็นทนายปากจัด เปิดเป็นบริษัทโมเดลลิง แต่ดันมีข่าวฉาวว่านักแสดงไปขายตัวเลยมีคนเข้ามาสืบหาข่าว”

เชียร์ “รับบท มุกมณี ในเรื่องนี้เชียร์รับบทเป็นรอง บก. เว็บไซต์ ชื่อวูเมนออนเดอะท็อป แล้วก็พบว่ามีข่าวที่น่าสนใจก็คือข่าวนี้ที่มีเบื้องลึกซึ่งเป็นบริษัทที่พระเอกอยู่ ทำให้เราได้เจอกัน”

เปิดมาก็เป็นฉากกุ๊กกิ๊กอยู่บนเตียงแล้วต่อไปจะยิ่งกว่านั้นมั้ย?

เชียร์ “ในเหตุการณ์นั้นยังไม่ใช่ตอนที่อยู่ด้วยกัน แต่เป็นความบังเอิญของอะไรบางอย่าง มันมีความโรแมนติกให้เห็นเยอะกว่านั้น”

จริงๆแล้วกดดันมั้ย เพราะคนจะคาดหวังว่าคู่นี้กลับมาต้องหวานต้องฟิน?

เต้ย “ในมุมผมเป็นนักแสดง เราก็ทำเต็มที่ในส่วนของเราแล้ว ส่วนที่ว่าคนจะชอบหรือไม่ชอบมันขึ้นอยู่กับคนดูด้วยว่า ณ ตอนนั้นคนดูอยากดูละครแบบไหน ถ้าคลายเครียดก็มาดูนี่คนดูจะได้สนุกๆ”

จริงๆทั้งคู่กลัวมั้ยว่ากลับมาเล่นด้วยกันคราวนี้ กระแสจะไม่เหมือนเดิม?

เต้ย “ก็ตอบไม่ได้นะครับ”

เชียร์ “ตอบไม่ได้แต่ก็ได้แต่อ้อนวอนให้มันปังๆ”

เราคาดหวังไปถึงกระแส พ่อหมีแม่หมีจะกลับมาอีกครั้งเลยมั้ย?

เต้ย “ยุคมันเปลี่ยนเร็วเนอะ จริงๆละครเรื่องนี้มันก็มีหลายคู่”

เชียร์ “ถ้าถามเชียร์ก็คืออย่างที่บอกเลยค่ะ ชอบหรือไม่ชอบมันก็คือรสนิยม ความสุขใจของคนดู ถึงกับต้องเป็นกระแสเหมือนเดิมเลยมั้ย เราก็ตอบไม่ได้ มันอยู่นอกเหนือสิ่งที่พวกเราจะทำได้เนอะ เราทำของเราเต็มที่แล้ว”

เต้ย “มันต่างออกไปจากตอนนั้นกับตอนนี้”

เชียร์ “พอจากเรื่องที่แล้วมีบ้านหมีขึ้นมา วันนี้เราก็ไม่รู้ หายไป 5 ปีจะกลับมารวมตัวกันมั้ย มากน้อยแค่ไหน เรารู้สึกว่าแค่อยู่ซัพพอร์ตกันก็ดีใจแล้ว”

ฟีดแบ็กบ้านหมีว่ายังไงบ้าง?

เต้ย “เค้าก็รอดูกันครับ เห็นมีทำโปรเจกต์ขึ้นจอ LED การที่เราได้โคจรกลับมาเล่นด้วยกันอีกครั้ง”

เชียร์ “อันนี้มันก็เหนือความคาดหมายแล้วค่ะ ไปขึ้นจอสี่แยกปทุมวันด้วย”

พอเห็นบ้านหมีซัพพอร์ตแล้ว มันหายเหนื่อยใจชื้นขึ้นมั้ย?

เต้ย “ดีใจนะที่เค้าซัพพอร์ตเรา ที่เค้ายังอยู่ยังรักเต้ย-เชียร์”

เชียร์ “ในมุมเชียร์นะ แค่ข้อความเล็กๆ ที่ส่งมาให้กับพวกเรา มันก็เป็นกำลังใจแล้ว”

ส่วนตัวทั้งคู่พอกลับมาร่วมงานกันเคมีเข้ากันมากน้อยแค่ไหน ต้องมีการปรับจูนกันมากน้อยมั้ย?

เต้ย “ไม่ได้ปรับอะไรเนอะ”

เชียร์ “จะบอกว่าเคมีครั้งที่แล้วมันก็ไม่ได้รู้เนอะ”

ถามถึงฉากเลิฟซีน มีเยอะมั้ย มีเขินกันบ้างรึเปล่า เห็นว่าจูบเยอะที่สุด?

เชียร์ “สำหรับเชียร์ ตั้งแต่ที่เล่นมา เรื่องนี้เยอะที่สุด แต่ว่ามันเป็นการมีแบบมีเหตุผล จูบมีความหมาย มีความหวานซึ้งใจละลาย”

เชียร์เปลืองตัวเหรอ?

เชียร์กล่าว “ไม่ได้ใช้คำว่าเปลืองตัว ถ้าเชียร์เปลืองตัว เต้ยก็เปลืองตัวได้เหมือนกัน (หัวเราะ) อย่าใช้คำนั้นเลย เพราะมันเป็นเหตุผล ฟีลลิ่งของความรู้สึก ของการเติมเต็มความรู้สึกให้ซีนมันสมบูรณ์ มันเป็นความรู้สึกที่สวยงาม”

ต้องขออนุญาตใครกันก่อนรึเปล่า?

เชียร์ “ดิฉันไม่ต้องขอค่ะ มันเป็นงาน”

เต้ย “ไม่ต้องขอครับ ทำตามหน้าที่ มันเป็นงาน”

เชียร์เกร็งหรือเปล่า เพราะเราก็ไม่โสด ต้องมาเล่นเลิฟซีนเยอะๆ?

เชียร์ “ไม่เกี่ยวเลยค่ะ จะบอกว่างานคืองาน และทำไปตามความรู้สึกของตัวละครค่ะ อย่างเรื่องนี้เลิฟซีนเยอะ ก็ไม่ต้องบอกเค้า ให้ไปดูเอง เรื่องที่แล้วดุเดือดกว่านี้ (หัวเราะ) ถามว่าเค้าโอเคมั้ยกับการที่เราเล่นเลิฟซีน คือเค้าต้องโอเคตามฑิฆัมพรค่ะ ฑิฆัมพรโอเคก็ต้องโอเค”

จะให้เค้าดูผลงานหรือฉากเลิฟซีนของเรามั้ย?

เชียร์ “ต้องดูสิ ผลงานของฑิฆัมพรต้องดู ทำด้วยความตั้งใจและจะได้เป็นกำลังใจให้นักแสดงทุกคนด้วย”

กลับมาร่วมงานกับคู่จิ้นอย่าง เต้ยในครั้งนี้ บิ๊กว่ายังไงบ้าง เค้าได้มีแซว ให้กำลังใจ หรือหวงในเรื่องบ้างมั้ย?

เชียร์ “เชียร์ว่ามันปกติเลยนะ การได้วนกลับมาเจอ จริงๆจะเป็นคู่จิ้น คู่ขวัญ หรือจะใครที่เราเคยทำงานด้วย มันเป็นปกติเลยค่ะ”

อย่างเต้ยรู้สึกยังไงบ้าง เพราะครั้งนี้เชียร์ มีตัวจริงแล้ว ทำให้เวลาเข้าฉากเลิฟซีน ต้องทำให้เรามีขอบเขตมากขึ้นมั้ย?

เต้ย “ผมว่ามันเป็นเรื่องของงานมากกว่า เราก็ทำเต็มที่ในส่วนนั้น เป็นตัวละครให้มันเต็มที่”

เชียร์ “เชียร์ว่างานที่ดี ก็คืองาน เรื่องส่วนตัวเราก็เอาไว้ข้างหลัง”

เชียร์พอมีแฟนตัวจริง กลัวมั้ยว่าแฟนๆ จะรู้สึกจิ้นหรือความฟินคู่เราจะน้อยลง ไม่เหมือนตอนแรกที่โสดทั้งคู่และยังทำให้แฟนๆได้ลุ้น?

เชียร์ “ถ้าถามเชียร์ เป้าหมายนักแสดงของเชียร์คือการทำผลงานแสดง ทีนี้เรื่องอื่นๆที่จะเกิดขึ้นมา แล้วเป็นพลังด้านบวก หรือเป็นกำไรด้านอื่นๆที่ได้ตอบกลับมา มันก็เป็นอีกด้านนึง แต่สำหรับเชียร์มองว่าท้ายที่สุดเราเป็นนักแสดง เรามุ่งหลักไปที่การทำงานที่มันมีคุณภาพ เราอาจไม่ได้มองว่าเราทำตรงนี้ เพื่อให้มีกระแสหรือเราจะทำอันนี้เพื่อให้มันไปต่อในเรื่องอะไรที่ไม่ใช่เรื่องการแสดง เชียร์เลยตอบว่าสำหรับเชียร์เราไม่ได้มองเรื่องอื่นนะ แต่อย่างที่บอกว่าครั้งแล้วที่แล้ว เราเล่นแล้วมีกระแสนี้ขึ้นมา เชียร์มองว่ามันเป็นกำไรอีกด้านนึง และเชียร์ก็เชื่อว่าเต้ยเข้าใจเรื่องนี้ว่า การที่เป็นนักแสดงแล้วทำผลงานที่โฟกัสเรื่องการแสดง”

สุดท้ายผลงานจะพิสูจน์ความปังของละครเรื่องนี้เอง?

เชียร์ “ใช่ค่ะ มันคือการพัฒนา เพื่อให้งานเราพัฒนาอาชีพไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ใช่ว่าเรื่องอื่นที่มันจะเกิดขึ้นมา อย่างกระแส หรือครอบครัวหมีเราจะไม่ประทับใจ มันเป็นเรื่องที่เราประทับใจมาก เพราะมันคืออีกด้านที่เราไม่ได้คาดคิดมาก่อนค่ะ ทุกวันนี้เรามองเรื่องนี้เป็นหลัก นั่นคือเรื่องของการแสดง เรื่องผลงาน แต่ถ้ามีกระแสด้านอื่นมา เราก็ขอบคุณและซาบซึ้งเสมอนะคะ”

เรื่องนี้ถ่ายไปพักนึงแล้ว พอได้กลับมาโปรโมตด้วยกัน เรามองเห็นการเติบโตของอีกคนยังไง?

เต้ย “พี่เชียร์เค้าเก่งอยู่แล้ว”

เชียร์ ถาม การแสดงเหรอ? “แกล้งคนเก่ง (หัวเราะ) การแสดงเค้าเก่งอยู่แล้วคอมเมดี้นี้ไม่ต้องห่วงเลย”

เชียร์ “คนนี้ในเรื่องการทำงานเค้าก็จะมีความตั้งใจอยู่แล้ว เราก็จะเห็นความเป๊ะที่สม่ำเสมอ วินัยที่สม่ำเสมอของเค้า เป็นจุดที่เราชื่นชมอยู่ลึกๆ แต่จุดที่พัฒนาไปมากเหลือเกินก็คือจุดหลังกล้อง เค้าก็จะมีวิชาในด้านมืดที่เติบโตขึ้นเยอะมาก แกล้งน้องๆคนอื่นในกอง”

เต้ย “เอามาสู้เค้าไง”

เชียร์ “เต้ยยังไงก็ไปได้อีกไกลอยู่แล้ว เพราะเค้าเป็นคนที่ตั้งใจจริงๆ เป็นตัวอย่างนักแสดงที่ดีจริงๆ”.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/novel/news/2405956
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/novel/news/2405956