“ดิว” ชนะคดีทำร้ายร่างกาย แต่คู่กรณี ก. ไม่มีเงินชดใช้ศาลยึดทรัพย์สิน

วันที่ 31 พ.ค. 2565 เวลา 14:22 น.

ชนะคดีแล้วหนึ่ง! “ดิว” หวังนำเงินที่ได้ไปบริจาค แต่คู่กรณี ก. ไม่จ่ายเงิน

จากเมื่อต้นเดือนเมษายนปี 2564 กรณีเกิดเหตุ “นางสาวรัตน์ตินันท์ นิติรัตพันธ์” หรือ “กลอยใจ” สาวคนสนิทของ “เบล-บุษยา ตั้งภากรณ์” ลูกสาวสุดแซ่บของ “บรรยิน ตั้งภากรณ์” ได้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายนักแสดงสาว “ดิว-อริสรา ทองบริสุทธิ์“ บนเรือยอร์ช เป็นเหตุให้ “ดิว” ได้รับบาดเจ็บ

จนเรื่องดังกล่าวกลายเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต ซึ่งในคดีดังกล่าวได้รับการเปิดเผยจาก “นายสาคร ศิริชัย” ทนายความส่วนตัวของสาว “ดิว” เผยว่าพนักงานสอบสวน สน.ปากคลองสาน ได้แจ้งข้อหา “นางสาวรัตน์ตินันท์” ฐานทำร้ายร่างกาย ต่อมาเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2564 พนักงานอัยการได้ยื่นฟ้อง “นางสาวรัตน์ตินันท์” ต่อศาลแขวงธนบุรีเป็นคดี หมายเลขดำที่ 898/2564 ระหว่างพนักงานอัยการสำนักงานอัยการฝ่ายคดีศาลแขวง 7 โจทก์กับ “นางสาวรัตตินันท์” จำเลย ซึ่งคดีดังกล่าว “นางสาวอริสรา ทองบริสุทธิ์ “ในฐานะผู้เสียหาย ได้ยื่นคำร้องขอเป็นโจทก์ร่วมและยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งบังคับให้ “นางสาวรัตน์ตินันท์” ชดใช้ค่าสินใหม่ทดแทนความเสียหายในฐานะโจทก์ร่วม

ต่อมาเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 ศาลแขวงธนบุรีได้มีคำพิพากษาว่าจำเลย (นางสาวรัตตินันท์ หรือ กลอยใจ) มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 391 ลงโทษปรับ 10,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง คงเหลือค่าปรับ 5,000 บาท

ส่วนค่าเสียหายในส่วนแพ่งศาลกำหนดค่ารักษาพยาบาล 2,753 และค่าเดินทางครั้งละ 1,000 บาท รวม 2 ครั้ง เป็นเงิน 2,000 บาท รวมเป็นเงิน 4,753 บาท ค่าเสียหายต่อสภาพจิตใจอันไม่ใช่ตัวเงินตามมาตรา 446 ศาลกำหนดให้จำเลยชำระ 30,000 บาท รวมเป็นค่าสินใหมทดแทนความเสียหาย จำนวน 34,753 บาท ที่จะต้องชดใช้ให้กับ “ดิว อริสรา”

เนื่องจากจำเลยได้วางเงินบรรเทาความเสียหายไว้ต่อศาล จำนวน 1,000 บาท ดังนั้น จึงจำเลย ต้องนำเงินส่วนดังกล่าวมาหักออก คงเหลือเงินที่จำเลยจะต้องชำระ 31,753 บาท ซึ่งจำเลยจะต้องนำเงินมาชำระให้แก่ “ดิว อริสรา” ภายในกำหนด 30 วัน นับแต่วันที่ศาลพิพากษา แต่ปรากฏว่าเมื่อครบกำหนดการปฏิบัติตามคำบังคับ ทีมทนายได้ตรวจสำนวนแล้วปรากฏว่าจำเลยไม่ได้นำเงินค่าเสียหายมาวางชำระเพิ่มเติม

ดังนั้น เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2565 ทางทนายความ จึงได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลออกหมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี เพื่อขอให้ศาลออกหมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี “ยึดทรัพย์สิน” ของจำเลยมาขายทอดตลาดเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ให้แก่โจทก์ร่วมตามกฎหมาย และศาลมีคำสั่งอนุญาตแล้ว

ซึ่งขั้นตอนต่อไปเป็นขั้นตอน ดำเนินการตั้งเรื่องเพื่อนำเจ้าพนักงานบังคับคดีเพื่อยึดทรัพย์สินของจำเลยนำมาขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้ตามคำพิพากษาต่อไป